Skip to main content
sharethis

ประท้วงประธานาธิบดีอำนาจนิยมเบลารุส แรงงานนัดหยุดงานร่วมชุมนุมประท้วงนับแสนราย สื่อมวลชนจากสถานีภาครัฐ 300 คนหยุดงานมาประท้วง ร้องการเลือกตั้งไม่เป็นธรรมและลิดรอนเสรีภาพสื่อ คนเปิดทีวีเจอ 'ห้องสตูดิโอที่ว่างเปล่า' ยังมี 'กลุ่มผู้หญิงชุดขาว' เรียกร้องการปล่อยตัวคนรักที่ถูกตำรวจกวาดต้อนในการชุมนุมก่อนหน้า

ภาพโดย Artem Podrez

19 ส.ค. 2563 ประชาชนเบลารุสยังคงประท้วงอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อต้านประธานาธิบดีอำนาจนิยมที่ถูกกล่าวหาว่าโกงการเลือกตั้ง อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชงโก ที่อยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีเบลารุสมายาวนานถึง 6 สมัย โดยในวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมามีกลุ่มแรงงานจากโรงงานอุตสาหกรรมนัดหยุดงานประท้วงเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องให้ลูกาเชงโกออกจากตำแหน่ง

ทั้งนี้ในวันเดียวกันยังมีกรณีที่คนทำงานข่าวของช่องสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลหยุดงานประท้วงด้วยเช่นกัน สื่อเดอะการ์เดียนบรรยายว่า "ในช่วงเช้าของวันจันทร์ ชาวเบลารุสที่เปิดดูข่าวช่องสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลจะพบเจอกับภาพที่ไม่คุ้นเคย คือห้องสตูดิโอที่ว่างเปล่า" และเป็นหนึ่งในการประท้วงที่มีความสำคัญที่สุดของเบลารุสจากการที่สื่อ "เบลารุสวัน" เป็นสื่อโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลลูกาเชงโกมา 20 กว่าปีแล้ว และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสื่อนี้ยังเพิ่งจะอ้างว่าผู้ประท้วงเป็นกลุ่มที่ถูกยุยงปลุกปั่นจากต่างชาติ

แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเบลารุสก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก จนทำให้หลายคนไม่อยากทำหน้าที่เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่ออีกต่อไปแล้ว ในหมู่คนทำงานสื่อเบลารุสวัน 2,000 ราย มีอยู่ประมาณ 300 รายที่หยุดงานประท้วง พวกเขาบอกว่าจะไม่ยอมกลับเข้าทำงานจนกว่ารัฐบาลจะยอมรับข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ในจำนวนนั้นมีการเรียกร้องให้จัดเลือกตั้งใหม่และเลิกการลิดรอนเสรีภาพสื่ออยู่ด้วย 

กเซนนิยา ลุตสกีนา หนึ่งในนักทำสารคดีรายหนึ่งที่เข้าร่วมหยุดงานประท้วงกล่าวว่าถ้าหากพวกเขาไม่สามารถทำข่าวอย่างซื่อสัตย์ได้พวกเขาก็ไม่อยากจะทำงานนี้ นอกจากนี้ยังพูดถึงปัญหาเรื่องการขาดความหลากหลายของสื่อทำให้คนบางส่วนกลัวที่จะประท้วงในเรื่องนี้เพราะกังวลว่าจะกลายเป็นปัญหาต่องานจากการที่เบลารุสมีแต่สื่อโทรทัศน์ที่ถูกรัฐบาลควบคุมอยู่

มีการระบุถึงปัญหาจากสื่อของเบลารุสอีกว่า เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่ข่าวโทรทัศน์ในเบลารุสยังคงรายงานในแบบที่ราวกับว่าประเทศของพวกเขายังอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต นอกจากนี้ยังมีการพยายามบีบขับไม่นำเสนอภาพของผู้ชุมนุมประท้วงทำให้ราวกับว่าทุกอย่างยังดูเหมือนปกติ หรือไม่ก็มีการพยายามตัดต่อภาพการชุมนุมให้เห็นแต่มุมที่มีความรุนแรง รวมถึงพยายามสร้างเรื่องใส่ร้ายป้ายสีเกี่ยวกับอิทธิพลต่างชาติ

จากการประท้วงในครั้งนี้ลูกาเชงโกขึ้นเฮลิคอฟเตอร์ไปที่โรงงานอุตสาหกรรมในกรุงมินสค์ หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนแต่คนงานกลับตะโกนไล่เขาให้ "ออกไป" ลูกาเชงโกประกาศว่าเขาจะไม่ยอมถูกกดดันให้ออกจากตำแหน่ง และจะไม่ยอมยุบรัฐบาลหรือจัดการเลือกตั้งใหม่

หัวหน้าผู้ชุมนุมประท้วงหยุดงาน เซอร์กี ดิเลฟสกี กล่าวว่า เขาอยากให้ลูกาเชงโกออกจากตำแหน่งและบอกว่าสเวียลานา ทิคานอฟสกายา คู่แข่งในการเลือกตั้งล่าสุดของลูกาเชงโกเป็นประธานาธิบดีที่ "ถูกต้องชอบธรรมตามกฎหมาย" และเป็นคนที่ "ได้รับเลือกตั้งจากประชาชน"

นอกจากกลุ่มคนงานแล้วยังมีกลุ่มผู้ประท้วงอีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า "กลุ่มผู้หญิงชุดขาว" พวกเธอประท้วงเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวคนรักของพวกเธอที่ถูกกวาดต้อนจับกุมโดยตำรวจในการชุมนุมก่อนหน้านี้รวมถึงต่อต้านการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุม พวกเธอสวมชุดขาวและถือดอกไม้ มีการประท้วงในรูปแบบนี้มาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วในกรุงมินสค์และต่อมาก็มีการประท้วงรูปแบบคล้ายกันนี้เกิดขึ้นในที่อื่นๆ อย่างในเยอรมนี, โปแลนด์, เบลเยี่ยม, ยูเครน และรัสเซีย


เรียบเรียงจาก

Belarus media strike: ‘if we can’t do honest journalism, we won’t work’, The Guardian, 17-08-2020

Belarus Factory Workers Walk Out, Joining Mass Protests Calling For President To Quit, NPR, 17-08-2020

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net