ตำรวจจับทนายอานนท์ที่ศาลอาญา คดีชุมนุมแฮรี่ พอตเตอร์ ข้อหายุยงปลุกปั่น, พ.ร.บ.ชุมนุมฯ, พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ส่งสน.ชนะสงครามและกำลังจะส่งแจ้งข้อหาสอบคำให้การที่ สน.ห้วยขวาง

19 ส.ค.2563 หลังจากเมื่อช่วงบ่ายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน แจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอยู่ในบริเวณศาลอาญา รัชดาฯ เตรียมจับกุมตน

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนทวีตรายงานพร้อมวิดีโอเหตุการณ์ว่า 19.10 น. ตำรวจแสดงหมายจับจาก สน.ชนะสงคราม ออกเมื่อวันที่ 17 ส.ค.2563 จากการทำกิจกรรม #เสกคาถาปกป้องประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ตำรวจที่ทำการจับกุมแจ้งข้อหาทั้งหมด 4 ข้อหา ได้แก่ ยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 เป็นผู้ร่วมจัดชุมนุมไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ พ.ศ.2558 ร่วมกันใช้เครื่องเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง มาตรา 4 และนำข้อมูลที่เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงเข้าสู่คอมพิวเตอร์ฯ ตามมาตรา 14(3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560

ศูนย์ทนายความฯ รายงานอีกว่าตำรวจในเครื่องแบบจำนวน 3 นาย นำตัวอานนท์ขึ้นรถ CRV ของเจ้าหน้าที่โดยมีทนายความติดตามขึ้นรถไปด้วย โดยตำรวจนำตัวไปที่ สน.ชนะสงคราม ทั้งนี้ 20.00 น.ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เจ้าหน้าที่จะทำบันทึกจับกุมอานนท์ นำภา ที่ สน.ชนะสงคราม จากนั้นจะพาไปทำการสอบสวนที่ สน.ห้วยขวาง

ก่อนเกิดการจับกุมนี้อานนท์ได้เขียนคำร้องถึงศาลยืนยันว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่ขอหมายจับ ค้นและยึดรวมทั้งการติดตามคุกคามในศาลเป็นการคุกคามอย่างโจ่งแจ้ง และขอให้เพิกถอนหมายจับ หมายค้น และหมายยึดคอมพิวเตอร์ รวมทั้งให้ศาลดูแลความปลอดภัย

โดยคำร้องระบุว่าตนมีอาชีพทนายความทำคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนและต้องมาที่ศาลอาญาเป็นประจำ ไม่มีความจำเป็นใดในการออกหมายจับ เพียงออกหมายเรียกตนก็ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และการออกหมายค้นและยึดอุปกรณ์ ก็ไม่มีเหตุจำเป็นเพราะการปราศรัยทางการเมืองเป็นการปราศรัยต่อสาธารณะ รวมทั้งในชั้นสอบสวนก็ได้ให้การรับด้วยความเปิดเผยแล้วว่าใช้เฟซบุ๊กชื่อ “อานนท์ นำภา” และเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมชุมนุมจริง อีกทั้งในคอมพิวเตอร์ก็มีข้อมูลลูกความอีกด้วย

เวลาประมาณ 22.30 น. ที่ สน.ชนะสงคราม กลุ่มนักกิจกรรมที่ไปให้กำลังใจอานนท์ โดยร่วมกันยืนอ่านคำปราศรัยของทนายอานนท์ เรื่อง “บทบาทสถาบันกษัตริย์ที่เกี่ยวกับการเมืองไทยในปัจจุบัน” ซึ่งเป็นเนื้อหาการปราศรัยเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2563

ประมาณ 22.45 น. อานนท์ขอประกันตัวในั้นตำรวจโดยใช้เงินสด 150,000 บาท และตำแหน่ง ส.ส.พรรคก้าวไกล เพื่อออกไปว่าความต่อในวันพรุ่งนี้ แต่พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ซึ่งปรึกษากับผู้บังคับบัญชาแล้วไม่อนุญาตให้ประกันตัวในเวลาประมาณ 23.20 น. โดยอ้างว่ายังสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานไม่แล้วเสร็จ และเกรงว่าจะหลบหนี พร้อมทั้งเตรียมนำตัวไปฝากขังศาลอาญาต่อพรุ่งนี้

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า 20 ส.ค.2563 เวลา 1.30 น. พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหากับอานนท์ทราบ โดยที่อานนท์ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและให้การโดยมีรายละเอียดการกระทำของตนดังนี้

อานนท์รับว่าข้อความที่พนักงานสอบสวนให้ดูนั้น ตนได้โพสต์จริง แต่ต้องการให้พนักงานสอบสวนชี้แจงว่าโพต์ได้เป็นความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะมองว่าข้อความที่โพสต์นั้นไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย มาตรา 116 และกฎหมายอื่น อีกทั้งยังเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศ ICCPR

นอกจากนั้นอานนท์ให้การถึงการปราศรัยเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ของตนว่าขึ้นไปพูดในฐานะผู้ปราศรัยไม่ใช่ผู้จัด อีกทั้งเนื้อหาที่พูดอยู่ในกรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นเนื้อหาทางวิชาการอภิปรายกันในข้อเท็จจริงและกฎหมาย มีเจตนาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลทางกฎหมายที่มีการขยายพระราชอำนาจ และมุ่งหมายให้สถาบันอยู่กับสังคมไทย

อานนท์ให้การในส่วนของข้อหาตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ว่า ตนไม่ใช่ผู้จัดชุมนุมส่วนข้อหาอื่นๆ ให้การปฏิเสธ

ต่อมาในช่วงเช้า 9.11 น. เจ้าหน้าที่เข้าตรวจร่างกายของอานนท์ก่อนนำตัวออกจากสน.ชนะสงครามส่งศาลอาญา รัชดาฯ เพื่อขออำนาจศาลฝากขัง

10.50 น. เมื่ออานนท์ถูกนำตัวถึงศาล ศาลมีคำสั่งอนุมัติคำร้องขอหมายค้นที่พักของอานนท์ โดยตำรวจได้นำหมายแสดงต่ออานนท์ โดยอานนท์แจ้งกับตำรวจว่าขอสงวนเงื่อนไขไม่ให้ตำรวจชุดตรวจค้นถ่ายภาพภายในห้องขณะทำการตรวจค้น

เวลา 11.50 น. ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) รวม 4 นาย เข้าตรวจค้นห้องพักของอานนท์ นำภา ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในย่านพหลโยธินโดยมีทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนนำตรวจค้น

ทั้งนี้ เมื่อตำรวจตรวจแล้วไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและสิ่งที่ใช้ทำผิดกฎหมายได้ จึงได้ทำบันทึกการตรวจค้นไว้และสิ้นสุดการตรวจค้นในเวลาประมาณ 12.35 น.

เนื่องจากอานนท์ได้แจ้งความประสงค์ไว้กับทนายความว่าต้องการรักษาความเป็นส่วนตัวจึงขอให้ตำรวจไม่ถ่ายภาพภายในห้อง ตำรวจที่เข้าร่วมการตรวจค้นให้ความร่วมมือ