Skip to main content
sharethis

ตำรวจจับกุมบารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน 1 ในคนที่ขึ้นปราศรัยบนเวที #เยาวชนปลดแอก วันที่ 18 ก.ค.2563 นอกจากนั้นยังมีหมายเรียกรับทราบข้อหาถึงผู้ถูกกล่าวหาอีก 2 คน คือ จตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือ"ไผ่ ดาวดิน" และพิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ นักสิทธิมนุษยชน ทั้งที่ผู้ถูกกล่าว 15 คน(ยกเว้นไผ่) ในคดีนี้เข้าแสดงตัวกับตำรวจตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์หลังเวทีประชาชนปลดแอกยุติ แต่ตำรวจไม่มีการชี้แจงหรือจับกุมจนต้องแยกย้ายกลับบ้าน

19 ส.ค.2563 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนทวีตรายงานว่า เวลา 21.36 ได้รับแจ้งว่า บารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน หนึ่งในผู้ต้องหาจากกรณีเข้าร่วมชุมนุมและขึ้นปราศรัยบนเวที #เยาวชนปลดแอก วันที่ 18 ก.ค.2563 ตำรวจเข้าแสดงหมายจับหน้าวัดบวรนิเวศ ขณะนี้กำลังจะถูกพาตัวไป สน.สำราญราษฎร์

ภาพขณะตำรวจแสดงหมายจับและแจ้งข้อหาให้บารมี ชัยรัตน์(ชายเสื้อแดง) ทราบ - ภาพ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

22.25 น. บรรยากาศบริเวณด้านหน้า สน.สำราญราษฎร์ มีกลุ่มนักศึกษา ประชาชน มารวมตัวกัน และยังมีธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรณิการ์ วาณิช แกนนำคณะก้าวหน้า รวมถึงชัยธวัช ตุลาทน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ร่วมสังเกตการณ์ด้วย ระหว่างนี้ธนาธรและพรรณิการ์ ได้ชวนนักศึกษาที่มาสังเกตการณ์ตั้งวงสนทนาเกี่ยวกับปัญหาการเมืองไทย และเล่าถึงการต่อสู้ของสมัชชาคนจนด้วย

23.45 น. อภิรักษ์ ชัชอานนท์ หรือ 'เสี่ยโป้' เดินทางมาที่ สน.สำราญราษฎร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจถามว่ามาทำไม เขาชี้เเจงว่า อยากมาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกับธนาธร ว่าจะทำอย่างไรว่าไม่ให้ประเทศมีความแตกแยก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยอมให้เข้ามาบริเวณที่ประชาชนรวมตัวกันหน้า สน. เมื่อเจอกับ ธนาธร ก็ยกมือไหว้ และขอพูดคุยกับธนาธร แต่ธนาธรปฏิเสธ โดยระบุว่า ไม่พร้อมจะพูดคุยตอนนี้

จากนั้นอภิรักษ์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ที่มาวันนี้เพราะต้องการใช้สิทธิในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ที่ไม่ต้องการเห็นประชาชนแตกแยกกันเอง และยืนยันว่าคนไทยควรให้ความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อให้สัมภาษณ์เสร็จก็ออกจากพื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ไป

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า เวลา 23.52 น. พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ แจ้งข้อหาต่อบารมีเสร็จสิ้นมีด้วยกันทั้งหมด 7 ข้อหาได้แก่

  1. ยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116
  2. ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ม.215
  3. ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร ม.385
  4. กระทำใดๆ ที่อาจก่อสภาวะที่ทำให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป พ.ร.บ.โรคติดต่อ ม.34
  5. ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่นกีดขวางทางจราจร พ.ร.บ.จราจร ม.114
  6. ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใด ๆ บนถนน พ.ร.บ.ความสะอาด ม.19
  7. ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง ม.4

บารมีให้การปฏิเสธ และจะทำคำให้การเป็นหนังสือภายใน 7 ก.ย. 2563 พร้อมยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นตำรวจ

คำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเขียนด้วยลายมือระบุว่า เมื่อตำรวจแสดงหมายจับ บารมีไม่ได้ต่อสู้ขัดขืนหรือมีพฤติการณ์จะหลบหนี ส่วนหลักฐานในคดีก็อยู่ในความครอบครองของเจ้าหน้าที่ ทั้งยังไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่จะสอบสวนใครบ้าง จึงไม่อาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และในคดีคล้ายกันนี้ พล.ต.ต.ภัครพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. ก็เคยพิจารณาให้ประกันตัวในชั้นตำรวจมาแล้ว บารมีจึงขอใช้ตำแหน่ง ส.ส. ของวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เป็นหลักประกัน เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และเพื่อธำรงไว้ซึ่งสิทธิของผู้ต้องหาตามกฎหมาย

ต่อมา เวลาประมาณ 23.53 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สุวรรณา ตาลเหล็ก สมาชิกกลุ่ม 24 มิถุนา ประชาธิปไตย ถูกจับกุมและพาตัวมายัง สน.สำราญราษฎร์ จากหมายจับในคดีเยาวชนปลดแอกเช่นเดียวกับบารมี ตามมาด้วยการจับกุมกรกช แสงเย็นพันธ์ สมาชิกกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) เวลา 00.30 น. ทันทีที่เดินทางมาถึง สน.สำราญราษฎร์

ตำรวจแสดงหมายจับต่อกรกช แสงเย็นพันธ์

ตำรวจออกหมายเรียกแล้วอย่างน้อย 2 คน

ในวันเดียวกันนี้ ผู้ร่วมปราศรัยบนเวทีบางรายที่ปรากฏชื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีเดียวกันกับบารมีเริ่มได้รับหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาแล้วโดยพวกเขาได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว เช่น จตุภัทร บุญภัทรรักษา พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ ซึ่งขณะนี้ประชาไทยังไม่ทราบว่าบุคคลที่เหลือมีคนใดบ้างที่ได้รับหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหา (ยกเว้น อานนท์ นำภา และภานุพงษ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง และพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือเพนกวินที่ถูกจับกุมและตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาในคดีนี้แล้ว)

    ตามหมายเรียกของทั้งสองคนระบุข้อหาทั้งหมด 7 ข้อหา ได้แก่

    1. ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง
    2. ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกัน หรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค
    3. กระทำการหรือดำเนินการใด ๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
    4. ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของ หรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด
    5. ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร
    6. ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใด ๆ บนถนน
    7. ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

    สำหรับ บารมี และนักกิจกรรมที่มีรายชื่อที่จะถูกออกหมายจับ 15 คนที่ปรากฏตามที่มีรายงานข่าว หลัง​ #ประชาชนปลดแอก​ ประกาศยุติ​การชุมนุม​ #ขีดเส้นตายไล่เผด็จการ​ เมื่อคืนวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา พวกเขาเดินทางจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปถามความชัดเจนที่​ สน.สำรา​ญ​ราษฎร์​ ว่ามีหมายจับคดีนี้หรือไม่​ กี่คน​ และใครบ้าง​ แต่​เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถให้คำความชัดเจนได้ จนทั้งหมดเดินทางมาและแยกย้ายกลับ

    ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

    ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net