คนทำงานบริษัทเกมบลิซซาร์ดเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของแอคทิวิชันบลิซซาร์ดจำกัด ประท้วงเรื่องค่าแรงต่ำด้วยการเผยแพร่ตารางข้อมูลที่เรียกว่า "สเปรดชีท" ซึ่งระบุจำนวนเงินเดือนของพวกเขาและการขึ้นเงินเดือนที่ไม่เท่าเทียมกัน สะท้อนให้เห็นความตึงเครียดที่เกิดเพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมเกมในเรื่องความเหลื่อมล้ำเรื่องรายได้และการที่ฝ่ายผู้บริหารได้รับค่าตอบแทนสูงลิ่วหลายร้อยหลายพันเท่าเมื่อเทียบกับค่าจ้างของลูกจ้าง

รูปปั้นหน้าสำนักงานใหญ่ Blizzard Entertainment ภาพถ่ายปี 2013 (ที่มา: Gordon Tarpley/Wikipedia)

6 ส.ค. 2563 บลิซซาร์ดเอนเทอร์เทนเมนต์เป็นบริษัทเกมที่ตั้งอยู่ในเมืองเออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นผู้ผลิตเกมดังๆ อย่าง เดียโบล, สตาร์คราฟ, โอเวอร์วอทช์, เวิร์ลด์ ออฟ วอร์คราฟ เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วพนักงานของบริษัทนี้เผยแพร่ข้อมูลเงินเดือนที่พนักงานได้รับในรูปแบบของตารางสเปรดชีท เพื่อประท้วงและแสดงให้เห็นความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ในบริษัท

ข้อมูลเงินเดือนเหล่านี้มีการจัดทำขึ้นหลังจากที่ในปี 2562 มีการสำรวจภายในบริษัทพบว่าคนทำงานค่ายบลิซซาร์ดมากกกว่าครึ่งหนึ่งไม่พอใจกับค่าจ้างที่ตัวเองได้รับ ทำให้บริษัทบอกว่าพวกเขาจะทำการสำรวจวิจัยเพื่อทำให้มีการจัดให้มีค่าจ้างที่เป็นธรรมกว่านี้ นั่นทำให้มีการจัดทำข้อมูลเงินเดือนเสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา และทำให้พนักงานแสดงความไม่พอใจ จนกระทั่งในวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมาพวกเขาก็นำสเปรดชีทเงินเดือนออกเผยแพร่ต่อสื่อ

ในสเปรดชีทดังกล่าวนั้นระบุถึงการขึ้นเงินเดือนของพนักงานแผนกต่างๆ เมื่อไม่นานนี้ โดยที่พนักงานส่วนใหญ่ได้รับการขึ้นเงินเดือนน้อยกว่าร้อยละ 10 น้อยกว่าที่ลูกจ้างของบลิซซาร์ดคาดไว้

เจสสิกา เทย์เลอร์ โฆษกของแอคทิวิชันบลิซซาร์ดกล่าวว่า เป้าหมายของพวกเขาคือต้องการทำให้แน่ใจว่าลูกจ้างของพวกเขาจะ "ได้รับค่าจ้างอย่างเป็นธรรมและเป็นไปตามการแข่งขัน" เทย์เลอร์กล่าวอีกว่า พวกเขากำลังพิจารณาแนวคิดเรื่องค่าจ้างในแบบที่จะ "เล็งเห็นถึงพรสวรรค์ของกลุ่มลูกจ้างที่มีบทบาทสูงมากและทำให้พวกเขาสามารถแข่งขันได้ในอุตสาหกรรมเกม ทั้งหมดนี้เพื่อเล็งให้มีการให้รางวัลและลงทุนกับลูกจ้างในระดับสูงมากขึ้น"

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลเงินเดือนที่สื่อได้รับแสดงให้เห็นว่า ซีอีโอใหญ่ของแอคทิวิชันบลิซซาร์ด บ็อบบี โกติค ได้รับค่าจ้างสูงลิ่วในขณะที่ปัญหาความต่างชั้นของค่าแรงกำลังหลายเป็นประเด็นร้อนในอุตสาหกรรมเกม โดยที่ในปี 2562 โกติคได้รับเงินค่าตอบแทนรวมถึง 40 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,200 ล้านบาท) ในปี 2562 เขาได้รับค่าจ้างสูงขึ้นตามหุ้นของบริษัทที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ผู้บริหารอีกรายคือหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน เดนนิส เดอร์คิน ได้รับรางวัลตอบแทนจากหุ้นถึง 15 ล้านดอลลาร์ (ราว 466 ล้านบาท)

เมื่อเทียบกับลูกจ้างในระดับที่รองๆ ลงมาแล้ว ลูกจ้างในระดับโปรดิวเซอร์และวิศวกรรมที่บลิซซาร์ดได้รับค่าจ้างเพียงปีละประมาณ 100,000 กว่าดอลลาร์เท่านั้น (ราว 3 ล้านกว่าบาท) ลูกจ้างในระดับอื่นๆ เช่นคนทดสอบเกมและตัวแทนฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ได้รับค่าจ้างเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับค่าแรงขั้นต่ำเท่านั้น ซึ่งในแคลิฟอร์เนียคือ 12 ดอลลาร์ต่อขั่วโมง (ราว 370 บาท) คิดรวมแล้วถ้าทำงานวันละ 8 ชั่วโมง 365 วันโดยไม่มีวันหยุดจะได้รับค่าจ้างต่อปีประมาณ 35,040 ดอลลาร์ (ราว 1 ล้านบาท) เท่านั้น

สื่อบลูมเบิร์กเสนอว่าความต่างชั้นระหว่างซีอีโอกับคนทำงานทั่วไปนี้อาจจะมาจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาบลิซซาร์ดถูกควบรวมกิจการกับแอคทิวิชันกลายเป็นแอคทิวิชันบลิซซาร์ดด้วย ทำให้จากเดิมที่บลิซซาร์ดมีอิสระในการดำเนินการ แต่ในตอนนี้พวกเขาถูกบีบจากแอคทิวิชันซึ่งเป็นบริษัทแม่ให้ "ตัดค่าใช้จ่าย" ในปี 2562 บลิซซาร์ดจึงไล่ออกลูกจ้างหลายร้อยตำแหน่งและทำให้ลูกจ้างคนอื่นๆ ต้องมาแบกรับภาระแทนตำแหน่งเดิม แต่การที่งานเพิ่มขึ้นก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีลูกจ้างบอกว่าพวกเขาถูกขอให้อย่าเปิดเผยหรือหารือเกี่ยวกับ "ข้อมูลที่อ่อนไหว" ของบริษัทด้วย

มีพนักงานที่ทำงานในบลิซซาร์ดมานานเปิดเผยว่าเขาได้รับการขึ้นค่าจ้างต่ำกว่า 50 เซนต์ต่อชั่วโมง ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้วพวกเขารู้สึกว่าได้รับค่าจ้างน้อยกว่าในอดีตเพราะชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาลดลง ในปี 2561 มีข้อมูลจากช่องทางพูดคุยภายในของบลิซซาร์ดระบุว่าลูกจ้างหลายคนต้องอยู่แบบอัตคัดขัดสนเพื่อที่จะทำงานในบริษัทต่อไปได้ เช่นบางคนต้องอดมื้อกินมื้อเพื่อที่จะมีเงินจ่ายค่าเช่าที่พักอาศัย และอาศัยกาแฟฟรีในบริษัทเพื่อลดความหิวโหย บางคนต้องกินอาหารราคาถูกอย่างข้าวโอ๊ตเพราะไม่มีเงินซื้ออาหารในโรงอาหารของบริษัท บางคนพูดว่าพวกเขาวางแผนจะไม่มีลูกเพราะพวกเขารู้ว่าจะไม่มีเงินพอเลี้ยงลูกได้ เรื่องเหล่านี้ขัดกับภาพของคนระดับสูงในบริษัทที่มีรูปพาครอบครัวไปเที่ยวดีสนีย์แลนด์ช่วงวันหยุด

เรียบเรียงจาก

Blizzard Workers Share Salaries in Revolt Over Wage Disparities, Bloomberg, 04-08-2020