Skip to main content
sharethis

"เราคือเพื่อนกัน" จัดกิจกรรม "นอนแคมป์ไม่นอนคุก" ตัวแทนคนเสื้อแดงขอโทษเยาวชนที่เคยดูถูกว่าไม่สนใจการเมือง ร่วมกันอ่านประกาศคณะราษฎร เรียกร้องหยุดคุกคาม เลิก ส.ว. ตั้ง สสร. ยุบสภา และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เพื่อให้สถาบันกษัตริย์อยู่ภายใต้ประชาชน  จากนั้นเช้าพรุ่งนี้ "ไผ่ ดาวดิน" จะเดินไปรับทราบข้อหาที่ สน.สำราญราษฎร์

27 ส.ค.2563 เวลาประมาณ 6 โมงเย็น ในงานมหกรรมประชาชน นอนแคมป์ไม่นอนคุก จัดชุมนุมแบบอุ่นไอราษฎร์ ผสานเครือข่ายการต่อสู้ มุ่งสู่ศัตรูคนเดียวกัน ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยจะอยู่ค้างคืนกันก่อนที่พรุ่งนี้ จตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน จะเดินเท้าไปรายงานตัวตามหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.สำราญราษฎร์ ในคดีร่วมปราศรัยเวที "เยาวชนปลดแอก" เมื่อ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา

ผุสดี งามขำ ตัวแทนคนเสื้อแดงฉายา ‘เสื้อแดงคนสุดท้าย’ กล่าวขอโทษเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่ตนเคยดูถูกว่าคนรุ่นใหม่ไม่สนใจการเมือง

“วันนี้มาในฐานะตัวแทนของคนเสื้อแดงเพื่ออยากมาขอโทษเด็กๆ เยาวชนที่ออกมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่เคยดูถูกว่า เด็กสมัยนี้ไม่สนใจการเมือง ได้แต่เที่ยวเล่น ดูหนัง ช็อปปิ้ง เล่นเกม ไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร แล้วเราจะฝากอนาคตของบ้านเมืองไว้กับเขาได้อย่างไร พอยิ่งดูม็อบที่เกิดขึ้นในฮ่องกง ก็ยิ่งรู้สึกเสียใจว่าทำไมเด็กของเราถึงตื่นตัวทางการเมืองสู้เด็กของเขาไม่ได้ จนมาถึงวันนี้ก็อยากจะกล่าวขอโทษที่เราเคยดูถูกพวกคุณ” ผุสดีกล่าว
ผุสดียังกล่าวถึงเพื่อนคนเสื้อแดงพร้อมกับชูผ้าโพกหัวที่เขาได้เตรียมไว้ประกอบการปราศรัยอีกว่า

“เพื่อนยังจำได้ไหมในวันที่เราสู้ เราสู้เพื่ออะไร ในช่วงเคลื่อนไหวคนเสื้อแดงไม่ได้ใช้กระดาษเหมือนคนรุ่นใหม่เหมือนตอนนี้ แต่เราจะแสดงออกจากเสื้อผ้าที่เราใส่ หรือผ้าโพกหัว เช่น เอาความยุติธรรมกลับคืนมา, ปกป้องประชาธิปไตย, ลมหายใจที่ไม่แพ้, กูทำอะไรก็ผิด, หยุดสองมาตราฐาน, อย่าเพิ่งยิงกูเพิ่งมา, ต่อต้านเผด็จการ ปกป้องประชาธิปไตย... “

“ถ้าพวกเรามีแรงยังไม่ตายยังส่งเสียงได้ อย่าทอดทิ้งพวกเด็กๆ เพราะเขาจะเป็นคนที่จะนำความหวังของพวกเราให้ไปถึงจุดหมาย”

ผุสดีกล่าวบนเวทีปราศรัย หลังจากนั้นเพื่อนเสื้อแดงได้เข้าโอบกอดผุสดีข้างเวที

กานต์นิธิ ลิ้มเจริญ ตัวแทนคณะประชาชนปลดแอกเริ่มต้นด้วยการสารภาพบาปว่า ตัวเองเป็นลูกชนชั้นกลาง ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี และเคยเป็นสลิ่มมาก่อน เคยเห็นด้วยกับการฆ่าคนกลางเมือง แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้ลองเปิดใจเรียนรู้กับประวัติศาสตร์นอกตำรา ก็ทำให้รู้ว่าที่ผ่านมา ตัวเองก็คือฆาตกรทางอ้อม วันนี้จึงออกมาขอโทษ

เขากล่าวต่อถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ตอนนี้มีประเด็นหาถกเถียงกันเกิดขึ้นว่า อะไรควรทำก่อนหลัง โดยย้ำว่าสิ่งที่มวลชนออกมาเรียกร้องกันคือ 3 ข้อเรียกร้อง 2 จุดยืน และ 1 ความฝัน โดยทั้งหมดนี้จะได้มาจากการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งมีความชอบธรรมและมาจากประชาชน

ในสังคมนี้ถูกทำให้เชื่อว่าควรเอาคนดีไปบริหาร แต่ตนไม่เคยเชื่อว่าสังคมนี้จะมีคนดีที่ไว้วางใจได้ ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นมนุษย์เหมือนกันทั้งหมด ฉะนั้นสิ่งที่จำเป็นสำหรับสังคมนี้คือ กติกา หรือกฎหมายที่ดี จึงขอฝากฝ่ายค้านว่าให้คุยกันให้จบว่าจะเอายังไง เพราะประชาชนคุยกันจบไปแล้วว่า ต้องเอา ส.ว. ออกก่อน แล้วร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และทั้งสองเรื่องนี้ ต้องจบภายในสมัยประชุมนี้ เพราะประชาชนไม่ต้องการ ส.ว. ที่คุณพ่อรู้ดีที่ทรงธรรมมาเลือกแทนแล้ว

จากนั้นประชาชนร่วมกันอ่าน 'คำประกาศของราษฎร ณ อนุสรณ์ 14 ตุลา ถนนราชดำเนินกลาง' โดยในแถลงการณ์กล่าวถึงรัฐบาลเผด็จการที่สร้างแต่ปัญหาปากท้อง และยังคุกคามประชาชน ในแถลงการณ์ระบุข้อเรียกร้องไว้ 5 ประการ

1.หยุดคุกคามและดำเนินคดีกับประชาชนโดยทันที 2.สมาชิกวุฒิสภาซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยคณะเผด็จการจะต้องลาออก หรือสิ้นอำนาจไปภายในเดือนกันยายนนี้
3.ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มาใช้แทนรัฐธรรมนูญของคณะเผด็จการ โดยสมาชิกสภานั้นจะต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด
4.ยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน
5.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เพื่อให้สถาบันกษัตริย์อยู่ภายใต้ประชาชน

หลังอ่านแถลงการณ์จบคนที่ร่วมพร้อมตะโกน "ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ" หลังอ่านคำประกาศจบ
 

คำประกาศของราษฎร
ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา
ถนนราชดำเนินกลาง

ราษฎรทั้งหลาย นับแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติก่อการยึดอำนาจล้มล้างรัฐบาลประชาธิปไตยนั้น ราษฎรบางคนได้หวังกันว่า คณะเผด็จการชุดนี้จะเข้ามาคืนความสุขให้กับราษฎร

แต่การณ์ก็หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ คณะเผด็จการชุดนี้ได้กดขี่และลิดรอนสิทธิเสรีภาพของราษฎรทุกหมู่เหล่า อีกทั้งยังบังเกิดความทุกข์ อันเนื่องจากสภาวะข้าวยากหมากแพงที่เกิดขึ้นทุกหัวระแหง

โดยรัฐบาลของคณะเผด็จการชุดนี้ มิอาจแก้ปัญหาใดๆ ได้เลย นอกจากจะคุกคามและจับกุมราษฎรที่วิพากษ์วิจารณ์พวกตนเท่านั้น

บัดนี้ราษฎรทั่วหล้าต่างประจักษ์ซึ่งความจริงว่า รัฐบาลคณะเผด็จการชุดนี้ มิเพียงแต่จะไร้ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ยังหาได้มีความสนใจจะแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของราษฎรไม่

ใฝ่แต่จะแสวงหาผลประโยชน์ให้แก่พวกตนกับทั้งนายทุนผูกขาดไม่กี่ตระกูล รวมถึงยังส่งเสริมให้สถาบันกษัตริย์ขยายอำนาจจนขัดขวางกระบวนการประชาธิปไตย

การณ์เหล่านี้ย่อมชั่วร้าย ราษฎรทั้งหลายพึงรู้เถิดว่า แผ่นดินนี้เป็นของราษฎร แต่กำลังถูกเหลือบไรปรสิตกัดกินสูบเลือดเนื้อ

เหลือบไรปรสิตเหล่านั้น ยังยกตนข่มเหงและทวงบุญคุณราษฎรเรื่อยมาจึงสมควรยิ่งแล้วที่ราษฎรจะรวมกำลังเข้าสู้เพื่อทวงแผ่นดินของราษฎรคืน

บัดนี้เราราษฎร หลากเชื้อชาติ ศาสนา อายุ เพศสภาพ ถิ่นฐาน และสาขาอาชีพ ได้มารวมตัวกันเพื่อประกาศเจตนารมณ์และข้อเรียกร้องห้าประการดังต่อไปนี้

1.หยุดคุกคามและดำเนินคดีกับประชาชนโดยทันที 2.สมาชิกวุฒิสภาซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยคณะเผด็จการจะต้องลาออก หรือสิ้นอำนาจไปภายในเดือนกันยายนนี้
3.ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มาใช้แทนรัฐธรรมนูญของคณะเผด็จการ โดยสมาชิกสภานั้นจะต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด
4.ยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน
5.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เพื่อให้สถาบันกษัตริย์อยู่ภายใต้ประชาชน

ข้อเรียกร้องทั้งห้าข้อนี้ เป็นเจตจำนงของราษฎรที่ได้รวมตัวกัน เพื่อต่อสู้กับรัฐบาลของคณะเผด็จการ พรรคการเมืองอันเป็นตัวแทนของราษฎร จะต้องรับฟังและร่วมแรงกับราษฎรผลักดันข้อเรียกร้องทั้งห้าข้อ

นอกจากนี้ยังขอให้ราษฎรทุกหมู่เหล่ามาร่วมชุมนุมกันในวันที่ 19 กันยายนนี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ เพื่อร่วมแรงกันต่อสู้กับรัฐบาลของคณะเผด็จการ เพื่อให้ได้มาซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันเป็นการปกครองของราษฎรโดยราษฎรเพื่อราษฎรอย่างแท้จริง

ศักดินาจงพินาศประชาราษฎร์จงเจริญ

หลังอ่านประกาศจบแล้วยังคงมีการปราศรัยบนเวทีต่อเนื่องต่อไป โดยจะมีการฉายสารคดี The Kingsmaker ต่อ และจากนั้นเวทีจะยุติลงในเวลาประมาณ 12.30 น.

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net