Skip to main content
sharethis

อย่าหาว่าจับแพะชนแกะ แต่เป็น 2 ประเด็นร้อนที่เกิดจากปัญหาบริหารจัดการของรัฐบาล ทั้งงบซื้อเรือดำน้ำ และการสั่งเฟสบุ๊คบล็อกกลุ่ม Royalist Marketplace ซึ่งรัฐมนตรีดิจิทัลถึงขั้นขู่ดำเนินคดีเฟสบุ๊คประเทศไทย มิไยที่เฟสบุ๊คบอกว่า สำนักงานในประเทศดูแลเรื่องโฆษณาการตลาดเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องด้านเนื้อหา

ท้ายที่สุด เฟสบุ๊คยอมบล็อก เพราะรัฐไทยใช้คำสั่งศาล แต่ก็ออกคำแถลงว่า “ขัดต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างรุนแรง” เพื่อปกป้องสิทธิของผู้ใช้ จึงเตรียมดำเนินการทางกฎหมายเพื่อคัดค้าน

โดยสำนักงานประเทศไทย แม้แถลงว่ายอมทำตามแล้ว ก็ยังติงว่าการแทรกแซงที่เกินขอบเขตถือเป็นการบั่นทอนความสามารถของเฟสบุ๊ค ในการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

เฟสบุ๊คจะฟ้องจริงหรือไม่ จะใช้ช่องทางกฎหมายอย่างไร เป็นอีกเรื่อง แต่เป็นข่าวไปทั่วโลกแล้ว ส่งผลสะเทือนทั้งทางภาพลักษณ์และการลงทุน

เข้าใจตรงกันนะ เฟสบุ๊คมีผู้ใช้ทั่วโลกหลายพันล้าน จึงต้องยึดถือเรื่องปกป้องสิทธิเสรีภาพเป็นกติกาสากล แม้ต้องการหาตลาดในไทย ไม่ได้อยากรบรารัฐบาล หรือคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับ Royalist Marketplace แต่ถ้าเฟสบุ๊คไม่แสดงปฏิกิริยา ก็จะโดนผู้ใช้ทั่วโลกตำหนิและหวาดระแวงว่าสักวันตัวเองจะโดนบล็อกบ้าง

รัฐบาลไทยก็ไม่แคร์ ประยุทธ์ตำหนิ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ (ทำให้ชาวโลกออนไลน์หัวร่อกลิ้ง 2 คนนี้ไม่ถูกกัน Royalist Marketplace ปวินตั้งคนเดียวเท่านั้น) พุฒิพงษ์บอกว่าต้องปกป้องอธิปไตย เชือดไก่ให้ลิงดู

ลิงที่ไหนไม่รู้เหมือนกัน แต่ Royalist Marketplace ไม่ยักกระเทือน ย้าย URL ใหม่ ไม่กี่ชั่วโมงคนอพยพตามไปร่วมครึ่งล้าน แถมได้รัฐบาล สื่อหลัก ออกข่าวครึกโครมให้คนรู้จัก ปวินคึกคักให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศถี่ยิบ Al Jazeera, BBC, NHK, Reuters, Channel News Asia

เดี๋ยวพุฒิพงษ์ก็ตามไปขอคำสั่งศาลบล็อกอีก เขาก็ย้ายอีก ทำได้ง่ายนิดเดียว ไม่ต้องลงทุนสักบาท แล้วรัฐบาลจะทำอย่างไร ไม่รู้เหมือนกัน มันเหมือนชกลม หรือรบกับเงา

หันมาดูเรือดำน้ำ 22,500 ล้าน กองทัพเรือพลาดมหันต์ แถลงข่าวมุ่งโต้พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าใช้จีทูจีจริง ไม่เก๊เหมือนจำนำข้าว ถ้าทำจีทูจีไม่เป็นให้มาศึกษาจากเรา แล้วก็ไปอ้างโพลสำนักข่าว ที่ม็อบเยาวชนบอยคอตสปอนเซอร์ จนแห่ถอนตัวระนาว

ตายสิครับ ตายกับตาย กองทัพเรือไม่เข้าใจเลยว่าทั้งสังคมไทยนี่แหละ ไม่เห็นด้วยกับการซื้อเรือดำน้ำ ไม่ใช่เรื่องของพรรคเพื่อไทย ใครจะจีทูจีแบบไหน มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่คนเกือบทั้งประเทศไม่เห็นด้วยตั้งแต่ซื้อลำแรก แต่ก็ลากถูจนได้ในยุคเผด็จการ

เกือบทั้งประเทศ เห็นแต่หมอวรงค์กับอดีตรองอธิการบดีออกมาเชียร์ ยิ่งลุ้นยิ่งเพลีย จนพรรคประชาธิปัตย์ได้โอกาส ขอมติพรรคไม่โหวตให้เรือดำน้ำ ให้กองทัพเรือทบทวน ไม่งั้น 7 กรรมาธิการไม่โหวตให้ ฮั่นแน่ พระเอกจัง ทั้งที่ ส.ส.ตัวเองเพิ่งโหวตผ่านในอนุกรรมาธิการ

ดูชะตากรรม เรือดำน้ำคงไม่ผ่าน เพราะเดี๋ยวพรรคร่วมรัฐบาลจะแย่งซีนเป็นพระเอกบ้าง แต่น่าสงสัย ทำไมเครื่องบินหรูกองทัพบก 1,348 ล้านไม่ยักคัดค้าน

ถ้ารัฐบาลตัดสินใจเป็น ก็ควรระงับซื้อเรือดำน้ำ ซื้ออาวุธ เสียตั้งแต่แรก เพราะรู้แก่ใจว่าประเทศอยู่ในวิกฤตเศรษฐกิจหนักที่สุดยิ่งกว่าต้มยำกุ้ง ทัศนะทหารอาจเห็นว่าจำเป็น แต่ไม่สอดคล้องความต้องการประชาชน ยิ่งอ้างยิ่งทำให้คนโกรธ ยังไม่รู้ตัว

ทั้งสองกรณีเป็นเรื่องบริหารความรู้สึกคน วิธีจัดการกับเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่โต

 

 

 

ที่มา: ข่าวหุ้นธุรกิจ www.kaohoon.com/content/385162

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net