Skip to main content
sharethis

ชุมนุมไทยภักดี เรียกร้อง 3 ข้อ 'ห้ามก้าวล่วงสถาบัน-ไม่ยุบสภา-ไม่แก้ไข รธน.' ด้าน 'หมอวรงค์' ยืนยันให้ความรู้ปกป้องสถาบัน ไม่ยกระดับการชุมนุม เน้นเดินสายให้ความรู้ตามภูมิภาคก่อน 'อุ๊ หฤทัย' เห็นใจคนรุ่นใหม่บอยคอต ดารา กปปส. ชี้น้อง ๆ ไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ ทั่วโลกยังยอมรับ

30 ส.ค. 2563 บรรยากาศที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น (สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง) อาคารกีฬาเวสน์ 2 มีการจัดกิจกรรมของกลุ่มไทยภักดี โดยตามกำหนดการกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 - 18.00 น. นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานยุทธศาสตร์กลุ่มไทยภักดี ซึ่งในงานนี้ยังมีการขึ้นปราศรัยของบุคคลต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี ที่จะขึ้นพูดในหัวข้อ คนไทยควรทำอย่างไร ประเทศชาติเราจึงจะผ่านความขัดแย้งนี้ไปได้ นอกจากนี้ยังมีประชาชนจากกลุ่มต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรมด้วย

กระทั่งเวลา 14.00 น. กลุ่มไทยภักดี เริ่มกิจกรรมการปราศรัยโดย นายวิชัย ล้ำสุทธิ เลขาธิการกลุ่มไทยภักดี ขึ้นเวทีเป็นคนแรก พร้อมระบุจุดประสงค์ว่า เพื่อปกป้องสถาบัน และย้ำอุดมการณ์ 5 ข้อ คือ 1.ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. สืบสานรากเหง้าเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ความเป็นไทย 3.อำนาจควบคุมตรวจสอบทุนผูกขาด 4.เสริมสร้างความเท่าเทียมด้วยเทคโนโลยีทันสมัยในการประกอบอาชีพของทุกชนชั้นและ 5 สร้างรากฐานความมั่งคั่งของชาติอย่างมั่นคงด้วยระบบเศรษฐกิจพึ่งพาตนเอง พร้อมประกาศข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.ต้องไม่ยุบสภา 2.ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดทุกกลุ่มที่ก้าวล่วงสถาบัน และ 3.ต้องไม่แก้รัฐธรรมนูญ 2560

'หมอวรงค์' ยัน 'ไทยภักดี' ให้ความรู้ปกป้องสถาบัน ไม่ยกระดับเป็นม็อบ

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี กล่าวก่อนกิจกรรมการชุมนุมของกลุ่มไทยภักดีว่า วันนี้เกิดการทำลายล้างสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการให้ความรู้กับประชาชนจะอยู่ในสิ่งเหล่านี้ ที่ถือเป็นเป้าหมายหลัก พวกเรายังยืนยันว่าปัญหาหลักเกิดจากการกระทำของนักการเมืองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้อำนาจมิชอบ ทุจริตคอร์รัปชั่น การแบ่งแยกประชาชน กระทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด มากล่าวหากฎหมายของประเทศว่าเป็นนิติสงคราม ถ้าเราสามารถแก้ปัญหาการดูแลของประชาชนของนักการเมืองได้ ทุกอย่างจะคลี่คลาย

นพ.วรงค์ กล่าวว่า โครงสร้างหลักในการปกครองประเทศไม่ได้มีปัญหามาจากสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่สถาบันพระมหากษัตริย์คือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เกี่ยวร้อยสังคมไทยด้วยกัน วันนี้มีนักการเมืองกลุ่มหนึ่งมาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เรามองว่าไม่ใช่ สถาบันฯไม่เคยเป็นอุปสรรคต่อการดูแลประชาชนของรัฐบาล ถ้าไปหลงทาง ประเทศเดินผิดทาง แต่ถ้าเรามีการปรับที่นักการเมือง ผมเชื่อว่า ทุกอย่างจะดีขึ้น

นพ.วรงค์ กล่าวว่า เราไม่มีความคิดเรื่องม็อบ เวทีของเราเป็นเวทีกึ่งวิชาการ ให้ความรู้กับสมาชิกไทยภักดี และประชาชนผู้สนใจ ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่มีความคิดในเรื่องการที่จะทำให้เกิดการปะทะ เพราะการปะทะไม่ได้ประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นกับประเทศชาติ อาจมีคนบางกลุ่มหวังให้เกิดความรุนแรง แต่ยืนยันว่า พวกเราไม่มีเด็ดขาด การออกมาครั้งนี้ของกลุ่มไทยภักดีไม่ถือว่าเป็นการชุมนุม เราถือว่าที่นี่คือเวทีนัดพบปะสมาชิก และประชาชนผู้สนใจเพื่อมาให้ความรู้ ไม่ได้ชุมนุมเรียกร้องใดๆ

นอกจากการจัดกิจกรรมของกลุ่มไทยภักดีในวันนี้ (30 ส.ค.) แล้วในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.) เวลา 10.30 น. เราจะไปยื่นหนังสือถึงรักษาการนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ผ่านสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่อเรียกร้องไปยังผู้ที่ทำร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์อาศัยแผ่นดินญี่ปุ่นโจมตีประเทศไทย อย่างไรก็ตามหลักของกลุ่มไทยภักดี จะเน้นเดินสายให้ความรู้ตามภูมิภาคไปก่อน เชื่อว่าหากประชาชนมีการรับรู้ข้อมูลที่เป็นจริง ความตื่นตัวจะมากขึ้น และการสานต่อความรู้ข้อเท็จจริงต่างๆไปถึงลูกหลานน่าจะมากขึ้น สถานการณ์น่าจะดีขึ้น

'อุ๊ หฤทัย' เห็นใจคนรุ่นใหม่บอยคอต ดารา กปปส. ชี้น้อง ๆ ไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ ทั่วโลกยังยอมรับ

ขณะที่ น.ส.หฤทัย ม่วงบุญศรี หรือ อุ๊ แกนนำกลุ่มไทยภักดี เปิดเผยว่าวันนี้เป็นการพบปะประชาชนคนไทย เพื่อให้พวกเราได้มาแสดงพลังแสดงถึงจุดยืนของคนไทยว่าเราต้องการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณไปถึงทุกคนไม่ว่าจะในประเทศนี้และคนที่อยู่ต่างประเทศ ที่พยายามจะปลูกปั่นสร้างกระแสใส่ร้ายโจมตีประเทศไทยเพื่อมุ่งหวังให้ประเทศไทยอ่อนแอ

พวกเขาจะต้องรับรู้ว่าคนไทยไม่ยอมเราจะไม่ยอมให้ใครมาจับเราแยกออกจากกัน ประเทศไทยจะต้องมีความร่มเย็นสงบสุขเหมือนเดิม เพื่อลูกเพื่อหลานประเทศไทยต้องมีความมั่นคง เราต้องการส่งสัญญาณไปถึงผู้ไม่ประสงค์ดีกับประเทศไทย ผู้มีอำนาจของโลกนี้ คนไทยจะไม่ยอมแพ้

อุ๊ หฤทัย กล่าวถึงกรณีที่มีการบอยคอตอดีตดารา-นักร้องนักแสดงที่เข้าร่วมกับการชุมนุม กปปส. ว่า ไม่เป็นไรเพราะน้องๆเหล่านั้นไม่ได้รับรู้ถึงบริบทการเมืองของไทย เขาขาดช่วงขาดตอนในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์การต่อสู้กับอำนาจระบอบเผด็จการรัฐสภา เพราะฉะนั้นดาราศิลปินนักร้องที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อสู้กับ กปปส.นั่นคือการต่อสู้กับการทุจริตคอรัปชั่นคนทั้งโลกเขายังยอมรับ แต่เด็กๆเหล่านั้นเขาไม่เข้าใจเราไม่ต้องไปโกรธน้องๆเด็กๆและเยาวชน ไม่ต้องแบนสินค้าธุรกิจของคนไทยด้วยกันทั้งนั้นแล้วคนไทยจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร อย่าสร้างความเกลียดชังขอให้ยุติทั้งหมด

เตรียมจัดตั้งจัดตั้งกองทุนต่อสู้ช่วยเหลือผู้ถูกคุกคาม

ต่อมาเวลา 17.47 น. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์กลุ่มไทยภักดี ขึ้นเวทีปราศรัยยืนยันว่ามากันด้วยหัวใจ จากนั้นย้ำอุดมการณ์ 5 ข้อ ดังนี้ 1. ปกป้องสถาบัน 2. สืบสานรากเหง้าเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ความเป็นไทย 3. ลดอำนาจ ควบคุม ตรวจสอบทุนผูกขาด 4. เสริมสร้างความเท่าเทียมด้วยเทคโนโลยีทันสมัยในการประกอบอาชีพของทุกชนชั้น  และ 5. สร้างรากฐานความมั่งคั่งของชาติอย่างมั่นคงด้วยระบบเศรษฐกิจพึ่งพาตนเอง

ทั้งนี้ นพ.วรงค์ ย้ำด้วยว่า กลุ่มไทยภักดีไม่มีแนวคิดจัดม็อบชนม็อบ แต่เราจะใช้ความจริงในการต่อสู้ และเชื่อว่าชัยชนะจะต้องเป็นของเรา เพราะเราอยู่บนความเป็นจริง พร้อมเล่าเรื่องย้อนไปถึงรัฐธรรมนูญปี 2560 ก่อนจะมาถึงการเลือกตั้งในปี 2562 ต่อด้วยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งในการพูดนี้มีการกล่าวพาดพิงถึงอดีตพรรคการเมืองหนึ่งและพฤติการณ์ต่างๆ ก่อนจะกล่าวถึงการชุมนุมของนิสิต นักศึกษาในปัจจุบันที่มีอาการออกมาเรียกร้อง 3 ข้อ พร้อมถามกลับไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมว่าใครคุกคาม และลูกหลานเราเป็นเหยื่อ เพราะมีการให้เด็ก เยาวชน นักศึกษา ขึ้นมาเป็นแกนนำกลุ่มชุมนุม รวมถึงติติงถึง 10 ข้อเรียกร้องด้วย

นพ.วรงค์ ฝากถึงนักการเมืองด้วยว่าต้องปฏิรูปตัวเอง เพราะปัญหาเริ่มจากนักการเมืองจนลามเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้น พร้อมย้ำว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ผ่านประชามติดกว่า 16.8 ล้านเสียง มากกว่ารัฐธรรมนูญปี 2550 ถึง 2 ล้านเสียง อีกทั้งมีการเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.อธิการบดีมหาวิทยาลัย ต้องปิดพื้นที่ และใช้วิจารณญาณในการดูแล 2.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ต้องเรียกผู้บริหารระดับสูงและระดับจังหวัดมอบนโยบายเพื่อดูแลนักเรียน และ 3.ขอให้รัฐบาลดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังมีการจัดตั้งกองทุนต่อสู้ช่วยเหลือผู้ถูกคุกคาม ซึ่ง นพ.วรงค์ ยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าจะมีการรายงานต่อประชาชนทุกเดือนเพื่อความโปร่งใส พร้อมรับสมัครทนายความอาสาทั่วประเทศเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ถูกคุกคาม ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการต่อสู้ เชื่อว่าเราสามารถทำให้มหาอำนาจเกรงใจประเทศไทยได้ ให้เรารัก สามัคคีกัน และต้องรักแผ่นดินไทย

อย่างไรก็ตาม นพ.วรงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ยืนยันว่าไม่มีจุดประสงค์ใช้ความรุนแรง เวทีนี้คือจุดเริ่มต้นที่มาด้วยหัวใจ อีกทั้งพรุ่งนี้ (31 ส.ค.) กลุ่มไทยภักดีเตรียมส่งหนังสือผ่านเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ไปยังรักษาการนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กรณี นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ด้วย จากนั้นประกาศว่าวันที่ 20 ก.ย. 2563 กลุ่มไทยภักดีจะไปพบปะกับพี่น้องประชาชนที่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมร้องเพลงชาติไทยร่วมกันก่อนจบกิจกรรมในเวลา 18.50 น.

ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น. เพจไทยภักดี ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ประชาชนกลุ่มไทยภักดี ถึง ฯพณฯ รักษาการนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศญี่ปุ่น  เรื่องขอให้ประเทศญี่ปุ่นดำเนินการและชี้แจง ที่ทางญี่ปุ่นอนุญาตให้นายปวิน พำนักอาศัยในประเทศญี่ปุ่น 

โดยในแถลงการณ์มีเนื้อหาสรุปว่าขอให้รัฐบาลญี่ปุ่มคำนึงถึงความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่น ตอบคำถามประชาชนชาวไทยว่าอนุญาตให้นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์พำนักอยู่ในประเทศญี่ปุ่นในฐานะอะไร พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายปวิน

ที่มาเรียบเรียงจาก: ไทยรัฐออนไลน์ [1] [2] | ประชาชาติธุรกิจ | ไทยโพสต์ | ข่าวสด


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net