Skip to main content
sharethis

'ธนาธร' พบผู้ชุมนุมและกลุ่มรักษ์โตนสะตอ ที่ปักหลักค้างคืนประท้วงโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านเหมืองตะกั่ว หน้าทำเนียบฯและกระทรวงเกษตรฯ 8 วัน ร่วมยินดี หลังกมธ.ยอมตัดงบโครงการดังกล่าว

 

31 ส.ค.2563 ทีมสื่อคณะก้าวหน้า รายงานว่า วันนี้ (31 ส.ค.63) เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 มีการพิจารณางบประมาณแผนงานบูรณาการ 2 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษา กมธ. อภิปรายเสนอให้ตัดงบประมาณโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านเหมืองตะกั่ว จังหวัดพัทลุง และโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เนี่องจากประชาชนไม่ได้ประโยชน์และมีโครงการอื่นที่ต้องการ มีความจำเป็นมากกว่า 

ธนาธร กล่าวว่าโครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว จ.พัทลุง ในปี 2564 มีการตั้งงบประมาณในกรมชลประทานซึ่งเป็นของงบประมาณปี 2564 เป็นจำนวนเงิน 130 ล้านบาท แต่เป็นงบผูกพันทั้งหมดตั้งแต่ปี 2564-2566 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 650 ล้านบาท โดยโครงการนี้มีปัญหาด้วยกันหลายประการ อาทิ วันที่ 31 สิงหาคม 2558 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ออกรายงานการตรวจสอบ ซึ่งระบุว่าไม่มีความจำเป็นในการสร้างเขื่อนและให้จังหวัดและประชาชนร่วมกันหาทางออกในการจัดการน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่โครงการยังไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้และกรมอุทยาน และการจัดทำรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมหรือ IEE ยังไม่แล้วเสร็จก่อนการมาของบประมาณ นั่นหมายความว่ายังบูรณาการระหว่างหน่วยงานไม่เรียบร้อย แต่ดันมาตั้งงบประมาณจัดทำโครงการ นอกจากนี้บริเวณโดยรอบของโครงการที่จะสร้างอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว พื้นที่โดยรอบมีอ่างเก็บน้ำอีกจำนวนถึง 3 แห่ง คือ แห่งแรกห่างไปอีก 2 กิโลเมตรมีที่กักเก็บน้ำคลองสะตอ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำที่ชำรุดและไม่มีการดูแลรักษา รวมถึงไม่มีการใช้ประโยชน์น้ำที่กักเก็บไว้ แห่งที่สองห่างไปอีก 3 กิโลเมตร มีอ่างเก็บน้ำคลองป่าบอน ที่ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จแล้วแต่มีปัญหาคือไม่ได้วางระบบส่งน้ำให้กับอ่างเก็บน้ำ แห่งที่สาม ห่างไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร มีฝายคลองท่ายูง โดยฝายท่ายูงสภาพทั่วไปมีสภาพชำรุดและขาดการดูแลรักษา และแห่งที่สี่มีอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง ห่างออกไปประมาณ 14 กิโลเมตร ซึ่งสภาพของอ่างเก็บน้ำแห่งนี้แม้จะสร้างเสร็จแล้วแต่ระบบส่งน้ำ ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ จะเห็นได้ว่าในพื้นที่มีแหล่งเก็บน้ำอื่นๆ อยู่แล้วแต่ไม่ได้มีการบริหารจัดการที่ดีให้สามารถนำอ่างเก็บน้ำเหล่านั้นมาใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพ

ประชาชนในพี้นที่ก็ไม่ได้มีความต้องการน้ำเพิ่ม พื้นที่บริเวณแถบนั้นเป็นพื้นที่ปลูกสวนผลไม้ สวนปาล์ม สวนยาง ที่มีการขุดแหล่งน้ำใช้เอง มีน้ำใช้ตลอดปี และไม่ได้เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากหรือพี้นที่แล้งซ้ำซาก ยังมีพื้นที่ในภาคอีสานอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องการโครงการจัดการน้ำ ดังนั้นการลำดับความสำคัญในการทำโครงการจึงมีความจำเป็นต่อการพิจารณา การสร้างแหล่งกักเก็บน้ำเหมืองตะกั่วใกล้น้ำตกโตนสะตอ มีความเสี่ยงในการสูญเสียแหล่งน้ำและพื้นที่ป่าสมบูรณ์มากถึง 468 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่และเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของจังหวัด เป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคและเป็นแหล่งรายได้ของประชาชนในพื้นที่ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าพื้นที่มีแหล่งเก็บน้ำเพียงพอแต่ขาดการบริหารจัดการและขาดการดูแลรักษาต่างหาก 

ธนาธร จึงเสนอให้ตัดงบประมาณโครงการอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่วออก ที่ประชุม กมธ.งบประมาณฯ ลงมติเห็นด้วย 22 เสียง ไม่เห็นด้วยกับการตัดงบประมาณ 21 เสียง และงดออกเสียง 9 เสียง ส่งผลให้ข้อเสนอของธนาธรให้ตัดงบประมาณโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านเหมืองตะกั่ว จังหวัดพัทลุง ชนะไปด้วยคะแนน 22 : 21 เสียง

รายงานข่าวระบุด้วยว่าว่า ประชาชนในพื้นที่เหมืองตะกั่ว จ.พัทลุง และกลุ่มรักษ์โตนสะตอ ที่ได้ปักหลักค้างคืนประท้วงโครงการดังกล่าวนานร่วม 8 วัน โดยค้างคืนบริเวณหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนจะย้ายมาที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และตั้งเป้าหมายว่าจะไม่กลับบ้านจนกว่ามีคำสั่งระงับการก่อสร้างเขื่อนเหมืองตะกั่ว เมี่อได้ยินข่าวการอภิปรายของ ธนาธร และทราบผลการลงมติให้ตัดงบประมาณสำเร็จ ประชาชนดังกล่าวก็ต่างแสดงความดีใจและสวมกอดกันด้วยความดีใจ

โดยหลังจากนั้น ธนาธร เดินทางไปแสดงความยินดีและพูดคุยกับพี่น้องที่ปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลทันที

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net