Skip to main content
sharethis

ศาลสั่งถอนประกัน อานนท์ นำภา และ  ไมค์ ระยอง ทั้งคู่ไม่ขอยื่นประกันอีก โพสต์ข้อเขียนยืนยันการต่อสู้ ขอคนนอกคุกเดินหน้าสู้ต่อ

3 ก.ย.2563 ความคืบหน้า วันนี้ (3 ก.ย.63) ศาลอาญา รัชดาฯ นัดไต่สวนถอนประกันตัว อานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน และภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง ในคดีการปราศรัยในที่ชุมนุม #เยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ขอให้ศาลถอนประกันโดยอ้างเหตุทั้งคู่ทำผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวที่ศาลวางไว้จากการกระทำในลักษณะเดิมซ้ำอีก

ล่าสุด เมื่อเวลา 16.25 น. ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาลงบัลลังก์อ่านคำสั่งให้ถอนประกันอานนท์ เนื่องจากศาลเห็นว่าตามพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ซึ่งเป็นเทปคำปราศรัยในการชุมนุมที่เชียงใหม่เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ซึ่งมีการออกหมายเรียกรับทราบข้อหาแล้ว และการชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน เมื่อ 10 ส.ค. ที่ สภ.คลองหลวงได้ออกหมายจับที่มีข้อหาตาม ม.116 นั้น เป็นการกระทำเดียวกันกับคดี #เยาวชนปลดแอก ที่ศาลให้ประกันตัวไปเมื่อวันที่ 8 ส.ค.

โดยก่อน อานนท์ ถูกนำตัวออกจากห้องพิจารณาคดีให้สัมภาษณ์ว่า ตนจะไม่ยื่นประกันตัวเนื่องจากเห็นว่าเป็นการใช้กฎหมายเพื่อยุติการเคลื่อนไหวของตน

อานนท์กล่าวกับศาลด้วยว่า ตนได้ไตร่ตรองแล้วว่าการปราศรัยนั้นเป็นสิทธิเสรีภาพ

ทั้งนี้ ศาลกล่าวว่า ศาลยังไม่ได้บอกว่าการกระทำของอานนท์เป็นการกระทำความผิดหรือไม่แต่เป็นการกระทำเดียวกับพฤติการณ์ตามหมายจับ และศาลไม่ได้ตัดสิทธิของอานนท์ในการยื่นขอประกันตัว

"ผมยินดีสละเสรีภาพส่วนตัวเพื่อรักษาอุดมการณ์ ผมเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับประชาชนนี้เป็นสิ่งที่ผิด" อานนท์ ยืนยัน

นอกจากนี้ อานนท์ ยังออกจดหมายมีข้อความว่า "ยินดีที่ได้ต่อสู้กับทุกคน เราเดินมาไกล จงเดินต่ออย่างกล้าหาญ หน้าที่นอกคุกของผมจบแล้ว ขอเดิมพันทั้งหมดเพื่อการเปลี่ยนแปลง 19 กันยายนนี้ช่วยยืนยันทีว่า เรามาถูกทาง เชื่อมั่นในทุกๆ คน 3 ก.ย.63 ณ ศาลอาญา"

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานผ่าน @TLHR2014 เมื่อเวลา 16.25 น. ผู้พิพากษาอ่านคำสั่ง จากการที่ภาณุพงศ์ยอมรับว่าขึ้นพูดที่ธรรมศาสตร์ ศาลเห็นว่าเป็นการทำผิดเงื่อนไขประกัน แต่เมื่อพิเคราะห์ถึง อายุ อาชีพ และพฤติการณ์สำคัญที่พยานอ้างให้เป็นเหตุเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว ยังไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่การสอบสวนหรือการดำเนินคดี ควรให้โอกาสแก่ผู้ต้องหาสักครั้งหนึ่ง แต่มีเงื่อนไขว่าโดยให้มีประกันในวงเงินเพิ่มเป็น 200,000 บาท และให้ผู้ต้องหามารายงานตัวต่อศาลใน 15 วันนับแต่วันนี้ หากผู้ต้องหาไม่ดำเนินตามคำสั่งให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว 

อย่างไรก็ตาม ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานต่อว่า เมื่อเวลา 16.40 น. ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำสั่ง​เพิกถอนประกันตัวไมค์-ภาณุพงศ์ ยืนยันไม่ขอยื่นประกันตัว ตามที่ศาลวางเงื่อนไขให้นำเงินประกันมาวางเพิ่ม 200,000 บาท

"จงสู้ต่อไปเพื่อนำชัยชนะมาสู่ขบวนการ การเสียสละอิสรภาพของใครคนใดคนหนึ่งเป็นเพียงการต่อสู้ที่ต้องพบเจอของนักต่อสู้" ไมค์ ระบุในจดหมาย

 

ไอลอว์ รายงานเพิ่มเติมว่า จากนั้นจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทยประกาศนัดชุมนุมที่หน้าเรือนจำ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กำลังใจอานนท์และภาณุพงศ์ ตลอดทั้งกิจกรรมมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 100 คน มีตำรวจในเครื่องแบบไม่น้อยกว่า 7 นายและเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไม่น้อยกว่า 5 นาย

 

3 กันยายน 2563 ศาลอาญาเพิกถอนคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน...

โพสต์โดย iLaw เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2020

 

ลำดับเหตุการณ์ที่ไอลอว์ประมวลที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีดังนี้

 

  • เวลา 18.55 น. ประชาชนประมาณ 20 คนรวมตัวกันภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเพื่อร่วมชุมนุมให้กำลังใจอานนท์และภาณุพงศ์
  • เวลา 20.00 น. เริ่มกิจกรรม จุฑาทิพย์ ระบุว่า การสร้างเงื่อนไขและวงเงินประกันเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ พวกเรามิใช่คนที่มีมลทินมัวหมอง 4 วันต่อจากนี้ไปเป็น 4 วันแห่งความยากลำบาก (เป็นวันหยุดยาวไม่สามารถเยี่ยมได้) พวกเขาสูญเสียอิสรภาพจากการพูดเพื่ออิสรภาพ พร้อมกันนั้นจุฑาทิพย์ประกาศจะจัดกิจกรรมตลอด 4 วัน
  • เวลา 20.08 น. ผู้จัดกิจกรรมย้ายออกมาทำกิจกรรมที่ริมทางเท้าหน้าเรือนจำพิเศษฯ และจะทำการจุดเทียนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ระบุว่าการรวมตัวครั้งนี้เพื่อแสดงว่า “พวกเราไม่ยอม”
  • เวลา 20.11 น. ตัวแทนประชาชนผลัดเปลี่ยนกันปราศรัย
  • เวลา 20.24 น. ผู้จัดกิจกรรมและผู้ชุมนุมอยู่บริเวณพื้นที่ทางเข้าเรือนจำ มีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 40 คน และไม่ได้มากจนล้นลงไปที่พื้นผิวจราจร ขณะที่การจราจรด้านหน้าเรือนจำเคลื่อนตัวไปได้ตามปกติ
  • เวลา 21.23 น. จุฑาทิพย์ประกาศชวนทุกคนร่วมจุดเทียนส่องสว่างเป็นกำลังใจให้อานนท์และภาณุพงศ์ จากนั้นจึงร่วมร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา
  • เวลา 21.30 น. เริ่มมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบประจำการในพื้นที่
  • เวลา 21.37 น. นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อ่านแถลงการณ์ 10 ข้อของแนวร่วมธรรมศาสตร์ บริเวณด้านหน้าป้ายเรือนจำ
  • เวลา 21.40 น. ตำรวจจาก สน.ประชาชื่นแจ้งให้เลิกการชุมนุม ทนายความโต้แย้งเรื่องขั้นตอนการผ่อนผันตามพ.ร.บ.ชุมนุมฯ และสอบถามว่า ตำรวจมีเอกสารใดมาประกอบการแจ้งให้เลิกการชุมนุมเลยหรือไม่ ตำรวจแย้งว่า เป็นการแจ้งให้เลิกการชุมนุมด้วยวาจาและถือว่าผู้ชุมนุมได้ทราบแล้ว จากนั้นจึงเดินย้อนกลับไปในรั้วเรือนจำ
  • เวลา 21.45 น. ปนัสยากล่าวว่า ในสังคมที่มีเสรีภาพในการแสดงออกอย่างแท้จริง ประชาชนย่อมสามารถพูดคุยถึงระบอบการปกครองรูปแบบต่างๆ ในทุกรูปแบบไม่มีข้อยกเว้น พร้อมกันนั้นปนัสยาเชิญชวนทุกคนให้มาร่วมแสดงพลังวันที่ 19 และระบุว่า หากมีผู้เข้าร่วมเยอะพอ จะไปยึดสนามหลวงให้กลับมาเป็นของประชาชน
  • เวลา 21.50 น. จุฑาทิพย์กล่าวว่า มีตำรวจมาขอให้ไปแจ้งการชุมนุมเพื่อจะได้มาดูแลความปลอดภัยให้ แต่จะให้ไปแจ้งได้อย่างไรในเมื่อเพื่อนของเราเข้าไปอยู่ในคุกแล้ว
  • เวลา 22.20 น. ตำรวจจราจรมาอำนวยความสะดวกการจราจร
  • เวลา 22.28 น. ผู้จัดกิจกรรมนำดินสอพองไปสาดใส่ป้ายเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จุฑาทิพย์ระบุว่า เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อไม่ให้มาสาดคดีใส่ประชาชน ระหว่างกิจกรรมมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบถ่ายวิดีโอตลอดเวลา
  • เวลา 22.40 น. ผู้ร่วมกิจกรรมทำความสะอาดป้ายที่เปื้อนด้วยดินสอพองจนสะอาดเรียบร้อย
  • เวลา 22.53 น. จุฑาทิพย์ประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 4-7 สิงหาคม 2563 เวลา 16.00 น. จะมาชุมนุมให้กำลังใจอานนท์และภาณุพงศ์ที่เรือนจำทุกวัน เสร็จสิ้นกิจกรรม

ทนายความของอานนท์และไมค์ เชื่อลูกความไม่ได้ทำผิด มองพยานหลักฐานของตำรวจไม่สมเหตุผล

หลังศาลมีคำสั่งถอนประกัน อานนท์ นำภา และ ภาณุพงศ์ จาดนอก แล้วนั้น กฤษฎางค์ นุตจรัส ตัวแทนทีมทนายความของทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ว่า การถอนประกันทั้งสองคนไม่ได้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะในบางยุคบางสมัยก็ใช้วิธีนี้เช่นในกรณี จตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ทางทนายความได้พยายามเต็มที่แล้ว แต่ปัญหาก็คือ ทางพนักงานสอบสวนก็ไม่มีพยานหลักฐานใดๆ ยืนยันว่าการที่อานนท์ไปพูดที่ท่าแพ จ.เชียงใหม่ หรือไปพูดที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะเกิดความวุ่นวาย ไม่ได้มีการพูดพาดพิงไปจนกระทั่งทำให้ดูน่ากลัว แม้พนักงานสอบสวนจะตอบคำถามว่าไม่ได้อยากคุมขังคนพวกนี้ไว้ แต่ตนก็ไม่เข้าใจว่าในเมื่อไม่อยากขังแล้วมาเพิกถอนประกันทำไม 

กฤษฎางค์ กล่าวต่อว่า ศาลเองก็เคยพูดกับตนว่าการปล่อยตัวชั่วคราวของอานนท์ ไมค์หรือเพนกวินในครั้งที่ผ่านมานั้นการกำหนดเงื่อนไขของศาลก็ไม่สามารถไปจำกัดสิทธิทางการเมืองได้ โดยที่ศาลเองก็ใช้คำพูดว่าไม่สามารถที่จะทำผิดรัฐธรรมนูญได้ เพราะทุกวันนี้รัฐธรรมนูญระบุว่าให้สิทธิของประชาชนในการชุมนุมทางการเมืองโดยสงบและสันติ

กฤษฎางค์กล่าวต่อว่า ตำรวจมีสิทธิขังพวกเขาไว้ 48 วัน นับจากวันนี้เพราะเป็นหมายขังของศาลในคดีที่โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ถ้าตำรวจสอบสวนไม่เสร็จก็ต้องปล่อย ในทุกวันที่มีการขอฝากขังต่อทนายก็คงต้องมาคัดค้านการฝากขังทุก 12 วัน 

ต่อคำถามที่ว่าเมื่ออานนท์เห็นว่าการกระทำของตนเป็นเพียงการใช้สิทธิเสรีภาพเท่านั้น ศาลกลับมีคำสั่งให้ถอนประกันโดยอ้างว่ามันไม่ได้เป็นการกระทำความผิดแต่เป็นการกระทำแบบเดียวกันในคดีอื่นแบบนี้สมเหตุสมผลแล้วหรือไม่นั้น กฤษฎางค์ ตอบว่าใช่ อานนท์เขายืนยันเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ

“ก็เป็นดุลพินิจของผู้พิพากษาคงไปก้าวล่วงไม่ได้ แต่ถ้าถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ ก็ตอบได้ตรงๆ ว่าไม่เห็นด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ผมรักษาผลประโยชน์ของลูกความและสิทธิเสรีภาพของเขา ผมก็ต้องเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เขาทำไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิด ผมก็นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด แล้วผมก็รู้สึกว่าสิ่งที่พนักงานสอบสวนนำมาขอเพิกถอนมันไม่มีเหตุผล แต่ถ้าท่านผู้พิพากษาเห็นว่ามีเหตุผลมันก็เป็นดุลพินิจเป็นอำนาจตามกฎหมายซึ่งผมคงไปว่ากล่าวท่านไม่ได้ แต่ว่าเรื่องทั้งหมดก็จะจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ แล้วก็อาจจะมีการอุทธรณ์ฎีกาก็ว่ากันไปเพราะเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่เป็นอำนาจของท่านโดยตรง เพราะกฎหมายไทยก็ให้ดุลพินิจเจ้าพนักงานอยู่แล้วตั้งแต่พนักงานอัยการ ตำรวจ เราก็มีหน้าที่ที่จะต้องโต้แย้ง เพราะว่าเรื่องแบบนี้ก็มีมาตลอด อย่าว่าแต่คดีอานนท์เลย ชาวบ้านชาวช่องเขาก็โดนมาเยอะแยะ เพราะฉะนั้นตอบได้ว่า ท่านเห็นว่าผิด ผมก็เห็นว่าไม่ผิด อานนท์ก็เห็นว่าไม่ผิด ไมค์ก็เห็นว่าไม่ผิด” กฤษฎางค์ กล่าว

ศาลออกหมายเรียก ทนายอานนท์ - ไมค์ ระยอง หลังตำรวจยื่นถอนประกันหลังพบขึ้นเวทีชุมนุมอีก

ความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ :

เวลาประมาณ 8.30 น. สื่อมวลชนที่อยู่ในบริเวณศาลรายงานว่ามีการวางกำลังตำรวจและแนวรั้วรอบทางเข้าอาคารศาล โดยสื่อที่จะเข้าไปในบริเวณหน้าอาคารศาลได้ต้องมีบัตรนักข่าวของกรมประชาสัมพันธ์เท่านั้น

ภาพจากทวิตเตอร์ iLaw

9.30 น. อานนท์และภาณุพงศ์ พร้อมทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเดินทางมาถึงศาลแล้วขึ้นห้องพิจารณาคดีไป

ภาพจากเพจ Banrasdr Photo

จนกระทั่งเวลา 10.00 น. ไอลอว์ทวีตรายงานว่าเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ผู้สังเกตการณ์และสื่อมวลชนเข้าบริเวณศาลอาญาได้ แต่ตำรวจนอกเครื่องแบบจะคอยบันทึกข้อมูลโดยขอบัตรประชาชนผู้ที่ผ่านเข้าออกและสอบถามองค์กรต้นสังกัด พร้อมกับบันทึกภาพของผู้ที่ลงทะเบียนไว้ด้วย นอกจากนั้นเมื่อขึ้นไปที่ห้องพิจารณาคดี 714 ที่ใช้ไต่สวนครั้งนี้ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ศาลคัดกรองคนเข้าออกห้อง โดยผู้ที่จะเข้าห้องพิจารณาได้ต้องเป็นชื่อที่ผู้ต้องหาทั้งสองคนให้กับเจ้าหน้าที่ไว้เท่านั้น ถ้าไม่มีต้องรอด้านนอกห้องเพื่อรักษาความปลอดภัย

ภาพจากทวิตเตอร์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

ไอลอว์รายงานต่อว่า สมบัติ บุญงามอนงค์ พร้อมเพื่อนอีก 1 คน เดินทางมาถึงห้องพิจารณาคดีแล้วเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะไม่ให้เข้า ทนายความจึงอธิบายกับเจ้าหน้าที่ให้ทั้งสองคนเข้าได้ เจ้าหน้าที่ยินยอมเป็นสองคนสุดท้าย โดยที่สมบัติและเพื่อนจะต้องฝากโทรศัพท์และสัมภาระไว้ด้านนอกห้อง

'อานนท์' ขอศาลเปิดการไต่สวนถอนประกันอย่างเปิดเผยให้คนสนใจเข้าฟัง พรุ่งนี้ (3 ก.ย.) 9.00 น.

ก่อนหน้าการพิจารณาคดีวันนี้ วานนี้อานนท์ได้ทำหนังสือถึงศาลขอให้ศาลเปิดการไต่สวนแบบเปิดเผย ใช้ห้องขนาดใหญ่ เพื่อให้คู่ความและคนที่สนใจเข้าฟังการไต่สวนการถอนประกันตนกับไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก โดยในหนังสือยังระบุหลักการว่า คดีนี้เกี่ยวกับการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอันเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการพิจารณาคดีโดยเปิดเผยและเป็นธรรม (Right to Fair Trial) ที่มีการรับรองไว้ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม รวมทั้งได้ถูกรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยอีกด้วย 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net