Skip to main content
sharethis

4 ก.ย. 2563 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกปฏิบัติการด่วน ชวนสมาชิกส่งจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ เรียกร้องทางการไทยยกเลิกข้อหาต่อผู้ชุมนุมคดีเยาวชนปลดแอก

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เผยแพร่ข่าว สำนักเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ออกปฏิบัติการด่วน เชิญชวนสมาชิก นักกิจกรรม และผู้สนับสนุนกว่า 8 ล้านคนทั่วโลกร่วมกันส่งจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกร้องทางการไทยยกเลิกข้อหาต่อผู้ชุมนุมคดีเยาวชนปลดแอกทั้ง 31 คน ยุติการขัดขวางการเข้าร่วมชุมนุมของประชาชนหรือปิดปากเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและการแสดงความเห็นในประเด็นทางสังคม รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมายที่มีเนื้อหากำกวมหรือคลุมเครือ เพื่อให้กฎหมายเหล่านี้มีเนื้อหาสอดคล้องกับพันธกิจของประเทศที่จะเคารพ คุ้มครอง และเติมเต็มสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ ซึ่งการรณรงค์นี้จะมีไปถึงวันที่ 21 ต.ค. 2563 

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า  ผู้ชุมนุมอย่างสงบ 31 คน ประกอบไปด้วย อานนท์ นำภา, บารมี ชัยรัตน์, ชลธิศ โชติสวัสดิ์, เดชาธร บํารุงเมือง, จักรธร ดาวแย้ม, จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, จิรฐิตา ธรรมรักษ์, จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์, กานต์นิธิ ลิ้มเจริญ, กรกช แสงเย็นพันธ์, กฤษณะ ไก่แก้ว, ลัลนา สุริโย, ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา, ณัฐพงษ์ ภูแก้ว, ณัฐวุฒิ สมบูรณ์ทรัพย์, เนตรนภา อํานาจส่งเสริม, ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, ภานุมาศ สิงห์พรม, ภาณุพงศ์ จาดนอก, พริษฐ์ ชิวารักษ์, พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ, ปรัชญา สุรกําจรโรจน์, สิรินทร์ มุ่งเจริญ, สุวรรณา ตาลเหล็ก, ทักษกร มุสิกรักษ์, ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี, ธนชัย เอื้อชา, ธนายุทธ ณ อยุธยา, ธานี สะสม, ทศพร สินสมบุญ, และยามารุดดิน ทรงศิริ อาจได้รับโทษจำคุกสูงสุดเจ็ดปี เนื่องทางการไทยออกหมายจับแกนนำและนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยจำนวน 15 คน จากบทบาทในการจัดการชุมนุมที่กรุงเทพ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ส่วนผู้ชุมนุมอีก 16 คนได้รับหมายเรียกและถูกแจ้งข้อหาจากเหตุการณ์เดียวกัน  

“ทั้ง 31 คนถูกดำเนินคดีในข้อหาร้ายแรงรวมทั้งยุยงปลุกปั่น ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีเนื้อหากำกวมและจำกัดเสรีภาพ ที่รัฐบาลมักใช้เพื่อปิดปากผู้วิพากษ์วิจารณ์ หากศาลตัดสินว่ามีความผิด นักกิจกรรมแต่ละคนอาจได้รับโทษจำคุกสูงสุดเจ็ดปี การจับกุมผู้ชุมนุมอย่างสงบที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ แสดงให้เห็นถึงการปราบปรามเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เข้มข้นขึ้น” สำนักเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลระบุ

แอมเนสตี้ยังกังวลว่า ข้อหามีขอบเขตและเนื้อหากว้างขวางเช่นนี้ กำลังถูกใช้เพื่อปิดปากผู้วิจารณ์รัฐบาลของไทยซึ่งมีประวัติการจับกุมโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือมีแรงจูงใจทางการเมืองมาอย่างยาวนาน และเสียใจที่มีการปราบปรามการจัดกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยตามกฎหมายและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ การเข้าร่วมและการจัดการชุมนุมโดยสงบ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน เช่นเดียวกับการมีสิทธิในเสรีภาพการแสดงความเห็นและการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล การใช้สิทธิเหล่านี้ไม่อาจถือเป็นความผิดทางอาญา และไม่ควรได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น   

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลจึงเชิญชวนสมาชิก นักกิจกรรม ผู้สนับสนุน ตลอดจนผู้ที่สนใจประเด็นสิทธิมนุษยชนทั่วโลก เขียนจดหมายเรียกร้องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย เรียกร้องให้ยกเลิกข้อหาต่อผู้ชุมนุมทั้ง 31 คนและบุคคลอื่นๆ โดยทันที พวกเขาถูกดำเนินคดีเพียงเพราะใช้สิทธิที่จะมีเสรีภาพในการสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ และยุติความพยายามหรือการดำเนินงานใดๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อขัดขวางการเข้าร่วมของสาธารณะในการชุมนุมโดยสงบ หรือการปิดปากเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและการแสดงความเห็นในประเด็นทางสังคม รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมายที่มีเนื้อหากำกวมหรือคลุมเครือ เพื่อให้กฎหมายเหล่านี้มีเนื้อหาสอดคล้องกับพันธกิจของประเทศที่จะเคารพ คุ้มครอง และเติมเต็มสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net