Skip to main content
sharethis

6 ก.ย. 2563 ศบค. แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 6 คน พบจากสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ รวมผู้ติดเชื้อสะสม 3,444 คน ผลตรวจ 14 ผู้สัมผัสใกล้ชิดดีเจร้านเฟิร์สคาเฟ่ ถนนข้าวสาร ไม่พบติดเชื้อ COVID-19 ด้าน เมียนมาคุมเข้ม หลังติดเชื้อพุ่งแตะ 1,253 คน

6 ก.ย. 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพักในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) โดยเดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา 2 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย และสิงคโปร์ 3 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,444 ราย

โดยผู้ที่เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา 2 ราย ทั้งหมดเป็นหญิงไทยอายุ 46 และ 83 ปี อาชีพแม่บ้าน เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2563 เข้าพัก State Quarantine ใน กทม.และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ในวันที่ 4 ก.ย. 2563 ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ

ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร 1 ราย เป็นชายสัญชาติฝรั่งเศส อายุ 46 ปี อาชีพครูสอนภาษาในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2563 เข้าพัก Alternative State Quarantine ใน กทม.และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ในวันที่ 4 ก.ย. 2563 ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ

ขณะที่ผู้ที่เดินทางมาจากสิงคโปร์ 3 ราย ทั้งหมดเป็นชายไทยอายุ 43 และ 56 ปี อาชีพรับจ้าง และ 53 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2563 โดยผ่านการคัดกรองณ ด่านควบคุมโรค พบว่าเคยมีประวัติป่วยโรคโควิด-19 ก่อนเดินทางกลับมาไทย จึงเก็บตัวอย่างหาเชื้อในวันที่ 4 ก.ย. 2563 ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ

สำหรับวันนี้มีผู้ป่วยรักษาหาย 2 ราย ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วอยู่ที่ 3,281 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 105 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงเดิมที่ 58 ราย

ขณะที่สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก มียอดผู้ติดเชื้อใหม่ 277,309 ราย ส่งผลให้มียอดติดเชื้อสะสมรวม 27,061,326 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 4,942 ราย ส่งผลให้มียอดผู้เสียชีวิตแล้วรวม 883,707 ราย โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด คือ สหรัฐอเมริกา 6,431,152 ราย เสียชีวิตแล้ว 192,คๅค ราย ตามด้วยบราซิล 4,123,000 ราย เสียชีวิต 126,230 ราย, อินเดีย 4,110,839 ราย เสียชีวิต 70,679 ราย, รัสเซีย 1,020,310 ราย เสียชีวิต 17,759 ราย และ เปรู 683,702 ราย เสียชีวิต 29,687 ราย โดยผู้ติดเชื้อใหม่ของอินเดียทำสถิติสูงสุด 90,600 ราย

ส่วนประเทศในเอเซียที่พบผู้ป่วยต่อเนื่อง ได้แก่ อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และเมียนมา โดยไทยอยู่ในอันดับที่ 122 มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,444 ราย โดยวันนี้จะมีเที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างเดินทางกลับมาจากอินเดีย (นิวเดลี) 48 ราย และวันพรุ่งนี้เดินทางกลับมาจากกาตาร์ (โดฮา) 162 ราย

ผลตรวจ 14 ผู้สัมผัสใกล้ชิดดีเจร้านเฟิร์สคาเฟ่ ถนนข้าวสาร ไม่พบติดเชื้อ COVID-19

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีผู้ขังชาย อาชีพดีเจ ติดเชื้อ COVID-19 โดยกรมควบคุมโรค สามารถติดตามผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ เพิ่มขึ้นจากเดิม 589 คน รวมเป็น 708 คน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 140 คน และกลุ่มเสี่ยงต่ำ 568 คน

ทั้งนี้ผลตรวจของพนักงานในร้านสามวันสองคืนที่ดีเจไปทำงานทั้ง 24 คน ไม่พบการติดเชื้อ ส่วนพนักงานที่เหลืออีก 1 คน ยังอยู่ระหว่างการรอผลตรวจ โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้ง 25 คน อยู่ในสถานที่กักตัวท้องถิ่น โรงพยาบาลบางกรวย 2 ศูนย์บริการการแพทย์นนทบุรี ถนนราชพฤกษ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

นอกจากนี้สำหรับพบผู้มีความเสี่ยงในร้านเฟิร์ส คาเฟ่ ถนนข้าวสาร มีผู้สัมผัส 14 คนเป็น ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด ผลตรวจทั้งหมดไม่พบเชื้อ COVID-19 หลังจากเมื่อวานนี้ (5 ก.ย.) มี 1 คนเข้ามีอาการเข้าเกณฑ์ PUI (มีไข้) จึงได้นำส่งรักษาที่โรงพยาบาลกลาง เพื่อตรวจและดูแลรักษา แต่ล่าสุดผลตรวจจากห้องปฏิบัติการออกแล้วพบว่า ไม่ติดเชื้อ COVID-19 แต่อย่างใด

ส่วนกรณีมีนักโทษเด็ดขาด นอนหมดสติเสียชีวิตบนเรือนนอนคืนวานนี้ (5 ก.ย.) และเกิดกระแสว่าอาจติดเชื้อ COVID-19 นายจตุพร ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำ แถลงข่าวยืนยันนักโทษที่เสียชีวิตไม่ได้ติดเชื้อ โดยมีการตรวจหาเชื้อแล้วที่โรงพยาบาลระนองแล้ว

นอกจากนี้ยังเกิดข่าวลือเป็นวงกว้างในพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอน ว่ามีผู้ลี้ภัยในศูนย์อพยพบ้านในสอย ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ป่วยตายด้วย COVID-19 โดยนายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่อง สอน กล่าวว่า ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง นอกจากข่าวลือว่ามีผู้ป่วยด้วยโรคแล้ว ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับการป่วยตายของหมูในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบบ้านใหม่ในสอย ตรวจสอบก็ไม่พบเช่นกัน

“ช่วงนี้ มักมีผู้ไม่หวังดี สร้างข่าวลือในทางที่ผิดออกมาบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวของอำเภอ ตรวจสอบต้นตอข่าวลือ หากพบจะทำการดำเนินคดีตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ อย่างเด็ดขาด”

เผยตัวเลขกลุ่มเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดดีเจเพิ่มเป็น 970 ราย ยังไม่พบติดเชื้อเพิ่ม

ต่อมาในช่วงเย็น กรมควบคุมโรค ได้เปิดเผยข้อมูลผู้สัมผัสผู้ต้องขังดีเจติดโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็น 970  คน แบ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 119 คน เสี่ยงต่ำ 851 คน ตรวจหาเชื้อแล้ว 516 คน ไม่พบเชื้อ 513 คน และรอผล 3 คน ขณะที่พบปัญหาในการใช้บริการร้านที่ผู้ต้องขังรายนี้ทำงานเป็นดีเจ 

เพราะจากประวัติผู้ป่วย บุคคล และสถานที่ที่เกี่ยวข้องพบว่า ไม่คัดกรองวัดอุณหภูมิ ละเลยเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่าง ให้บริการแบบ “แก้วร่วมสาบาน” ด้วยการดื่มด้วยแก้วเดียวกัน และมีการทิปโดยชงเครื่องดื่มให้พนักงานในร้านดื่ม

นอกจากนี้ ยังละเลยการลงทะเบียน ไทยชนะ โดยพบข้อมูลการลงทะเบียนครั้งล่าสุดตั้งแต่ 7 ส.ค. 

สำหรับในส่วนของกลุ่มเสี่ยงสูงซึ่งเป็นคนในครอบครัว ทั้งหมดตรวจแล้วไม่พบเชื้อ  บุคคลที่พำนักที่คอนโดบ้านสวนธน ทั้งหมด 137 คนไม่พบเชื้อ 

ขณะที่ในส่วนของร้านทั้งสามวัน 2 คืน ย่านพระราม 3 และพระราม 5 มีการปิดร้าน 14 วันและทำความสะอาดร้าน ตรวจกลุ่มเสี่ยงทั้งหมดไม่พบเชื้อ  และร้านเฟิร์ส คาเฟ่ ถนนข้าวสาร มีผู้สัมผัส 15 คนเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 2 คน มีอาการเข้าเกณฑ์ PUI (มีไข้) ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ 1 คน ส่วน อีก 1 คน อยู่ระหว่างรอผล 

ส่วนอีก 13 คน ไม่พบเชื้อ และถนนข้าวสาร มีผู้สัมผัส 112 คน ซึ่งเป็นผู้มีความเสี่ยงต่ำทั้งหมด ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ

เมียนมาคุมเข้ม หลังยอดติดเชื้อพุ่งแตะ 1,253 ราย

กระทรวงสาธารณสุขและกีฬาของเมียนมา รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 82 รายในวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 1,253 ราย

รายงานระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ประกอบด้วย 65 รายในย่างกุ้ง 11 รายในรัฐยะไข่ 2 รายในรัฐฉาน และในพะโค มัณฑะเลย์ อิรวดี และเนปิดอว์ แห่งละ 1 ราย

นอกจากนี้ รายงานเผยด้วยว่า ณ วันเสาร์ที่ผ่านมา มีผู้หายป่วยจากโควิด-19 จำนวน 371 ราย และผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 7 ราย

ย่างกุ้งเป็นเมืองที่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศมากเป็นอันดับ 2 รองจากรัฐยะไข่ โดยย่างกุ้งรายงานผู้ติดเชื้อรวม 236 รายนับตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่มีการรายงานพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศอีกครั้ง หลังจากที่เกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเป็นการพบผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศเท่านั้น

ทั้งนี้ เมียนมาพบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศเมื่อวันที่ 23 มี.ค. และเสียชีวิตรายแรกวันที่ 31 มี.ค.

เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในย่างกุ้ง ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงได้ประกาศเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ให้ 7 เขตในย่างกุ้งอยู่ภายใต้คำสั่งห้ามออกจากบ้าน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 8.00 น. วันที่ 2 ก.ย.

ประชาชนที่ต้องการออกไปซื้ออาหารหรือสิ่งของจำเป็น ไปคลินิก หรือออกไปนอกเขตเนื่องจากมีเรื่องเร่งด่วน จะต้องรายงานให้ทางการทราบและขออนุญาต

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. รัฐยะไข่ประกาศให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเช่นกัน หลังมีการรายงานพบผู้ติดเชื้อภายในรัฐยะไข่พุ่งสูงขึ้น

ด้านเมืองมัณฑะเลย์ได้ออกประกาศให้ผู้ที่เดินทางมาจากย่างกุ้งและรัฐยะไข่จะต้องถูกกักตัวและตรวจหาโควิด-19 โดยเสียค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง

ขณะที่กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวง ประกาศคุมเข้มการเข้าเมืองในวันที่ 1 ก.ย. หลังจำนวนผู้ติดเชื้อในกรุงเนปิดอว์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ที่มาเรียบเรียงจาก: Thai PBS | สำนักข่าวอินโฟเควสท์ [1] [2] | TNN

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net