Skip to main content
sharethis

ศูนย์ทนายความสิทธิฯ เผย นิสิต มมส. สมาชิก 'แนวร่วมนิสิต มมส.เพื่อประชาธิปไตย' ถูกบุคคลอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไม่แจ้งสังกัดหรือแสดงบัตร เข้าข่มขู่กับครอบครัวถึงบ้าน หลังเพียงแค่แชร์ข่าวโปรดเกล้าฯ คืนฐานันดรศักดิ์

7 ก.ย.2563 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เชษฐา กลิ่นดี นิสิตชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สมาชิก “แนวร่วมนิสิต มมส.เพื่อประชาธิปไตย” เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไม่ทราบสังกัด ตนทราบเรื่องนี้โดยเริ่มจาก เช้าวานนี้ (6 ก.ย. 2563) ขณะตนเดินทางกลับบ้านที่ จ.สุรินทร์ แม่ได้ทักมาบอกให้ลบโพสต์ แต่ไม่ได้เล่ารายละเอียด 

ต่อมา เมื่อ เชษฐา กลับถึงบ้านตอนเที่ยง พ่อเล่าให้ฟังว่า เย็นวันก่อน (5 ก.ย. 2563) มีตำรวจนอกเครื่องแบบ 1 นาย มาที่บ้าน โดยเข้าไปคุยกับย่า ซึ่งนั่งขายของอยู่ในร้าน หลังจากคุยได้ซักพัก ย่าก็เดินมาเรียกพ่อที่บ้านซึ่งอยู่ติดกัน ให้ไปคุยกับเจ้าหน้าที่คนนั้นด้วย เจ้าหน้าที่บอกพ่อและย่าว่า เชษฐาแชร์โพสต์ที่เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ โดยได้เปิดโทรศัพท์ให้พ่อดู เป็นหน้าเฟซบุ๊กของเชษฐาที่แชร์ข่าว โปรดเกล้าฯ คืนฐานันดรศักดิ์เจ้าคุณพระสินีนาฏ  และกล่าวหาว่าเชษฐาจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ เจ้าหน้าที่ยังข่มขู่ด้วยว่า ให้เชษฐาเลิกพูดถึงสถาบันกษัตริย์ ถ้ายังไม่หยุด จะไปตามตัวถึงมหาสารคาม และจะดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย 

 

เชษฐา กลิ่นดี นิสิตปี 1 ม.มหาสารคาม สมาชิก “แนวร่วมนิสิต มมส.เพื่อประชาธิปไตย” เปิดเผยว่า...

โพสต์โดย ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2020

 

พ่อเล่าอีกว่า เจ้าหน้าที่นายนั้นคุยกับพ่อและย่าอยู่อีกพักใหญ่ แต่พ่อไม่ได้เล่ารายละเอียดว่า คุยเรื่องอะไร ก่อนกลับเจ้าหน้าที่ยังได้ถ่ายรูปพ่อไปด้วย แต่พ่อและย่าไม่มีโทรศัพท์จึงไม่ได้ถ่ายรูปเจ้าหน้าที่ที่มาบ้านไว้

เชษฐากล่าวว่า ตนงงมาก เนื่องจากโพสต์ที่ตนแชร์และถูกเจ้าหน้าที่กล่าวหาเป็นโพสต์ข่าวของ The Standard ซึ่งเผยแพร่ประกาศของรัชกาลที่ 10 ตามที่ปรากฏในเว็บไซต์ของราชกิจจานุเบกษา ไม่ได้เขียนข้อความเพิ่มเติม 9oแน่ใจว่า มันไม่ได้ผิดกฎหมาย หรือจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ตามที่ถูกกล่าวหา เมื่ออธิบายให้พ่อฟัง พ่อบอกว่า ตอนที่เห็นโพสต์ในโทรศัพท์ที่เจ้าหน้าที่เปิดให้ดู พ่อก็ว่าไม่น่าจะผิด เพราะเป็นการแชร์มาจากสำนักข่าว แต่พ่อก็ตกใจ และอยากจะคุยให้จบๆ ไป จึงไม่ได้ตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ 

เมื่อเชษฐาสอบถามรายละเอียดของเจ้าหน้าที่ พ่อบอกว่า เจ้าหน้าที่นายนั้นไม่ได้แสดงบัตรหรือแจ้งว่า มาจากหน่วยไหน ชื่ออะไร เพียงแต่ใส่เสื้อกั๊กแบบเจ้าหน้าที่ ด้านหน้ามีโลโก้และธงชาติ แต่ไม่ได้สังเกตว่าโลโกเป็นรูปอะไร เมื่อตนสอบถามไปที่ญาติซึ่งเป็นตำรวจอยู่ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ ญาติบอกว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเลย ไม่น่าใช่ตำรวจจาก สภ.เมืองสุรินทร์ 

เชษฐาเล่าด้วยว่า เมื่อเดือนก่อน มีสารวัตรสืบสวนจังหวัดสุรินทร์ขอแอดเป็นเพื่อนทางเฟซบุ๊กกับตน ทำให้ตนแน่ใจว่า เจ้าหน้าที่คงติดตามเฟซบุ๊กของตนอยู่ 

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยังตั้งข้อสังเกตว่า แนวร่วมนิสิต มมส.เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเชษฐาเป็นหนึ่งในสมาชิก มีบทบาทในการจัดการชุมนุมไล่รัฐบาลทั้งที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และร่วมกับกลุ่มอื่นจัดในจังหวัดต่างๆ ในช่วงนี้ โดยเฉพาะ พงศธรณ์ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มได้ประกาศเมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.กฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯ จากกรณีชุมนุม “อีสานสิบ่ทน” ว่า จะระดมประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคามเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ด้วย การคุกคามหนึ่งในสมาชิกแนวร่วมฯ ในครั้งนี้ จึงอาจเกี่ยวข้องกับการชุมนุมขับไล่รัฐบาลดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ เชษฐาก็เคยถูกเจ้าหน้าที่ไปคุกคามถึงบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2563 ซึ่งมีการจัดกิจกรรมรำลึกในวาระครบรอบ 88 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ของประชาชนในหลายพื้นที่อย่างกว้างขวาง กลุ่มเยาวชนสุรินทร์เพื่อประชาธิปไตย ก็มีการประชาสัมพันธ์ว่าจะมีการจัดกิจกรรมที่อนุสาวรีย์อนุสรณ์รัฐธรรมนูญ หน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ในช่วงเย็น แต่ในช่วงเที่ยง มีตำรวจ 3 นาย และผู้ใหญ่บ้าน ไปพบเชษฐา หนึ่งในสมาชิกกลุ่มฯ ที่บ้าน มีการพูดคุยตักเตือนทำนองไม่อยากให้จัดกิจกรรม พร้อมทั้งแจ้งว่า หากมีการละเมิดกฎหมายก็จะดำเนินคดี โดยผู้ใหญ่บ้านยกเหตุการณ์ 6 ตุลาที่นักศึกษาถูกฆ่ามาพูดลักษณะข่มขู่ ทำให้สมาชิกกลุ่มฯ คนอื่นๆ เกิดความกังวล และมีมติยกเลิกการจัดกิจกรรมในที่สุด 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net