ญัตติแก้รัฐธรรมนูญปิดสวิตช์ ส.ว. ของพรรคก้าวไกลแท้ง เพราะ ส.ส.รัฐบาล โดยเฉพาะ ปชป.แห่ถอนชื่อ อ้างดื้อๆ สำคัญผิด คิดว่าเป็นร่างของรัฐบาล

ฝ่ายเดียวกันบางคนเย้ยหยัน ก.ก.ไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไปหลงคบ ปชป. อ้าว ก็ทีแรกเพื่อไทยไม่ลงชื่อ (99.99%) ต้องไปรวมทั้งฝ่ายค้านรัฐบาล พอครบ 99 คนชิงยื่น สร้างความสั่นสะเทือนทั้งสองฝ่าย เพื่อไทยต้องเอาบ้าง รัฐบาลต้องสั่งถอน ปชป.ระส่ำ บีบ ส.ส.ตัวเองให้เชื่อฟังรัฐบาล

กลายเป็นญัตติปิ้งย่างแมลงสาบ อุตส่าห์ให้โอกาสกลับลำ ยังไร้จุดยืนไร้ความกล้าหาญ

สถานการณ์ถึงตอนนี้ เป็นอย่างที่อดีต กกต.สมชัยตั้งข้อสังเกต คือมีสัญญาณไม่ให้ถอย กลุ่ม ส.ว.อิสระ ที่คุยโม้จะปิดสวิตช์ตัวเองก็เสียงแผ่ว สงสารหมอพรทิพย์อุตส่าห์ออกตัวแรง

มีสัญญาณว่ารัฐบาล 250 ส.ว. จะยอมแก้แค่ ม.256 ตั้ง ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งเอาเข้าจริงพวกตัวกินรวบ เพราะคุมเสียงข้างมากทั้งใน ส.ส.ร. และรัฐสภา ลากยาว 2 ปี ตามที่วิษณุอธิบาย เสร็จแล้วยังต้องเขียนกฎหมายเลือกตั้ง กว่าจะได้ยุบสภา

250 ส.ว.ก็อยู่จนครบวาระ เขียนรัฐธรรมนูญให้นายกฯ มาจากสภาผู้แทนฯ ก็เปล่าประโยชน์ อาจได้ใช้ตอนประยุทธ์อยู่ครบ 8 ปี

รัฐบาลคิดแบบนี้เชื่อว่าจะคุมม็อบอยู่? เชื่อว่าแค่ตั้ง ส.ส.ร.จะแหกตาสาธารณชนได้ ม็อบนักศึกษาประชาชนเป็นคนส่วนน้อย มีเบื้องหลัง เดี๋ยวก็ล้า คนส่วนใหญ่ไม่สนใจหรอก สนใจข่าวลุงพลไอ้ไข่อิงอิงธัญญ่า ฯลฯ กับชิมช้อปใช้มากกว่า

หรือม็อบไทยภักดีทำสำเร็จ? ทำให้รัฐบาลเชื่อว่ามีคนต่อต้านม็อบนับแสน ตั้งเก้าอี้แน่นหน้าศาลากลาง

หรือเชื่อว่าประชาชนกลัวรัฐประหาร? 19 กันยาจะไม่กล้าออกมา ธรรมศาสตร์ก็ไล่ไม่ให้จัด บรรยากาศตึงเครียด น่ากลัวซ้ำรอยประวัติศาสตร์ 6 ตุลา ห้ามลูกห้ามหลานอยู่บ้านกันดีกว่า

ถ้าปฏิบัติการจิตวิทยาได้ผล คนมาม็อบน้อย ก็เปิดไวน์ฉลองกันครึกครื้น ส.ส. ส.ว.ไม่ต้องแก้รัฐธรรมนูญ แล้วย้อนมากวาดจับแกนนำ ไม่เว้นกระทั่งเด็กนักเรียน

ประเมินพลังม็อบผิดหรือเปล่า หรือรู้แก่ใจ แต่ไม่มีทางอื่น มีสัญญาณให้ดันทุรัง

ย้อนดูกันอีกทีนะ จากที่รัฐคิดว่าไม่มีอะไร ม็อบปลดแอกจุดเชื้อขึ้นใหม่จากแฟลชม็อบต้นปี จู่ๆ ก็ลามไปแทบทุกจังหวัดแทบทุกมหาวิทยาลัยแทบทุกโรงเรียน ม็อบธรรมศาสตร์ยกระดับข้อเรียกร้อง “ติดเพดาน” กระแสก็ไม่ลด ยิ่งสั่นสะเทือนเป็น “แผ่นดินไหว” ชูสามนิ้วร้องเพลงชาติ ยืนหยัด 3 ข้อเรียกร้อง 2 หลักการ โดยมี “หนึ่งความฝัน” เป็นแรงผลักดันระหว่างบรรทัด

ย้อนดูให้ดีนะ ฝ่ายรัฐ ฝ่ายความมั่นคง หรือแม้แต่นักเคลื่อนไหวยุค นปช.ก็ประเมินผิดมาแล้ว

ณ วันนี้ กระแสประชาธิปไตยที่นำโดยคนรุ่นใหม่ ไปไกลกว่าแค่แก้มาตรา 256 ยุบสภา หรือไล่ 250 ส.ว.ด้วยซ้ำ เพราะยังต้องการแก้รัฐธรรมนูญรื้อองค์กรอิสระ ปฏิรูปกองทัพ ระบบราชการ กระบวนการยุติธรรม ตำรวจ อัยการ ศาล การศึกษา การกระจายอำนาจ เสรีภาพเท่าเทียมทางเพศ ฯลฯ ที่อาจเรียกได้ว่า ปฏิวัติความคิด ปฏิวัติวัฒนธรรม ต้องการถอดรื้อทั้งระบบ

เพราะประเทศถอยหลังมา 14 ปี จนทุกอย่างกำลังจะระเบิด ข้อเรียกร้องปิดสวิตช์ ส.ว. ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ พร้อมไปกับยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ จึงเป็นแค่ความต้องการขั้นต้นเท่านั้น เป็นข้อเรียกร้องที่ประนีประนอมกันที่สุดแล้ว

ถ้าแค่ความต้องการขั้นต้นยังหาจุดลงตัวไม่ได้ คนรุ่นใหม่ก็ไม่ทน และพร้อมจะแลก โดยไม่หวั่นว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ยกตัวอย่างรัฐประหาร ใครกลัวรัฐประหาร อานนท์ เพนกวิน รุ้ง อั๋ว ไผ่ ฯลฯ แกนนำทั้งหลายไม่กลัวหรอก เพราะถ้าโค่นอำนาจไม่ได้ คดีความทั้งหลายที่ใช้กฎหมายเหมือนเศษกระดาษ ก็อาจติดคุกร้อยปี

ธนาธร ปิยบุตร ถูกหาว่าอยู่เบื้องหลัง มีรัฐประหารไม่ตายก็ติดคุก แต่ทุกวันนี้ก็ไม่รอดศาล ปิยบุตรจึงประกาศมีรัฐประหารจะนำต้านกับธนาธร

ประชาชนล่ะ รัฐประหารต่างอะไรกับอยู่ใต้อำนาจปัจจุบัน ก็รัฐประหารมาแล้ว 5 ปี รัฐประหารจะกวาดจับคนเป็นแสน? ทำไม่ได้หรอก นักเรียนนักศึกษาลูกคนชั้นกลางทั้งนั้น 19 กันยาจะปราบม็อบแบบ 6 ตุลา? รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้สิ หรือมีคนโยนระเบิด? ก็รัฐบาลกับจักรทิพย์รับผิดชอบ อีกไม่กี่วันเกษียณหมดอนาคตสมัครผู้ว่าฯ

แล้วใครสูญเสียจากรัฐประหาร ก็นักการเมืองทั้งหลาย กลุ่มทุนที่หนุนรัฐบาล รวมถึงผู้กุมอำนาจ ที่เสี่ยงพังทั้งกระดาน

หรือถ้าไม่มีรัฐประหาร ดันทุรังอยู่อย่างนี้ ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจและทุกอย่างแย่ลงๆ ม็อบที่ไม่มีอะไรจะเสีย ก็พร้อมยกระดับทุกรูปแบบ เพื่อท้าทายอำนาจ ถึงจุดหนึ่งอาจไม่ต่างกับม็อบฮ่องกง โดยมีคนเข้าร่วมมากขึ้นๆ

รัฐบาลถอดสลักได้ตั้งแต่ตอนนี้ ปิดสวิตช์ ส.ว. แก้ระบบเลือกตั้ง ยุบสภาพร้อมทำประชามติ แล้วตั้ง ส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่

กลับไม่ยอมถอดสลัก ก็จะเป็นอย่างที่คาดกันไว้ ไม่มี Soft Landing ต่อให้รัฐประหารก็จบไม่ลง

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/hot-topics/news_4887166