รมว.แรงงาน ห่วงม็อบ 19 ก.ย. เหมือนฮ่องกง ทำนักศึกษาตกงาน ขณะที่ สุเทพ อู่อ้น ตัวแทนแรงงาน พรรคก้าวไกล โต้ ย้ำคนตกงานเหตุรัฐบาลไร้ความสามาถไม่ใช่ม็อบ
15 ก.ย.2563 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา สุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็นกรณีที่ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อ้างว่าจากผลสำรวจของซุปเปอร์โพลประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีเพิ่มขึ้นหลังอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ในประเด็นนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยว และ การจ้างงานของนักศึกษาจบใหม่ อีกทั้งยังกล่าวว่า การชุมนุมของประชาชนจะส่งผลต่อเศรษฐกิจว่า จุดที่เหมือนกันของรัฐบาลชุดนี้คือ มองเห็นแต่ปัญหาของผู้อื่นโดยที่ไม่เคยสำรวจเงาตัวเอง
สุเทพ ซึ่งเป็นนักสหภาพแรงงานด้วยนั้น กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่แท้จริงทำให้คนตกงานประชาชนทราบดีว่าเกิดจากการบริหารเศรษฐกิจผิดพลาดมาตลอด 6 ปี ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หนำซ้ำรัฐมนตรีแรงงานคนก่อน ก็ออกประกาศกฎกระทรวงในช่วงที่มีไวรัสโควิด-19ระบาดว่าให้การปิดงานเป็นเหตุสุดวิสัย นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าจ้างหากปิดงาน ส่งผลให้นายจ้างจำนวนมาก ฉวยโอกาสลดต้นทุน โดยให้ลูกจ้างไปรับเงินประกันสังคม ที่เป็นเงินของลูกจ้างเองแท้ๆ นโยบายมักง่ายที่ไม่เคยเห็นหัวประชาชน คนนับล้านถูกนายจ้างลอยแพ
ส่วนกรณีที่ประชาชนออกมาเพื่อทวงหาประชาธิปไตย ทวงอำนาจการตรวจสอบรัฐบาลนั้น สุเทพให้เหตุผลว่า เพราะรัฐบาลนี้ไม่เห็นหัวพวกเขานานเกินไปแล้ว การประท้วง การรวมตัวต่อรองถือเป็นสิทธิมนุษยชนพื้นฐานตามหลักสากล ผู้ใช้แรงงานอย่างตนเรียกร้องให้รับอนุสัญญา ILO 87 98 ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพการรวมตัวต่อรอง มาเป็นเวลา 30 กว่าปีแล้ว แต่ตนนำเสนอไปกี่ครั้ง รัฐบาลนี้ รวมถึงรมต.คนนี้ก็ไม่เอา ดังนั้นตนต้องถามกลับว่าท่านรัฐมนตรีแรงงานคนใหม่ ว่าท่านมีความรู้ความสามารถ เข้าใจปัญหาแรงงานจริงๆรึเปล่า หรือได้รับตำแหน่งมาเพื่อเป็นเกราะป้งกันนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้อยากฝากไว้ว่าตำแหน่งนัฐมนตรีต้องมีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่แค่ประจบนายเป็น อันนี้น้เป็นห่วงมากกว่าว่าแรงงานในประเทศจะเป็นอย่างไรต่อไปเมื่อรัฐมนตรีทำหน้าที่ปกป้องนายใหญ่ไม่ใช่แรงงาน
รมว.แรงงาน ห่วงม็อบ 19 ก.ย. เหมือนฮ่องกง ทำนักศึกษาตกงาน
ทั้งนี้ประเด็นที่ สุชาติ รมว.แรงงาน และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาพูดจน สุเทพ ออกมาโต้นั้น ข่าวสดออนไลน์และเดลินิวส์ รายงานไว้วานนี้ (14 ก.ย.63) ว่า สุชาติ
กล่าวถึงผลสำรวจของซุปเปอร์โพล ที่ระบุว่าคนส่วนใหญ่ร้อยละ 78.1 ให้ความเชื่อมั่นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หลังการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติในประเด็นนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยว และการจ้างงานของนักศึกษาจบใหม่จำนวน 2.6 แสนอัตราและการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ว่า ผลโพลสะท้อนว่าประชาชนส่วนใหญ่สนใจเรื่องปากท้องและเห็นถึงความจริงใจในการแก้ปัญหาของรัฐบาลที่แก้ปัญหาได้ตรงต่อตามความต้องการของประชาชน และเชื่อว่าประชาชน 80-90 % คิดถึงการค้าขาย คิดถึงปากท้อง คิดถึงการจ้างงาน ตามนโยบายของรัฐบาลมากกว่า
สุชาติ กล่าวว่า ส่วนการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย. เชื่อว่ามีคนหลายล้านคนที่ไม่เห็นด้วยและมุ่งหางานทำ เพื่อจะได้มีรายได้ดูแลพ่อแม่และครอบครัว หรือใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยเร็ว แต่เรื่องนี้ถือเป็นความเห็นต่างทางการเมือง ก็ไม่ว่ากัน เพราะเรามีความเป็นอิสระตามระบอบประชาธิปไตย
เมื่อถามว่าแกนนำผู้ชุมนุมคาดหวังว่าการชุมนุมครั้งจะล้มรัฐบาลให้ได้ สุชาติ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลทำไม่ว่าการจ้างงาน 1 ล้านอัตรา การช่วยเหลือหางานให้แก่นักศึกษาจบใหม่ 2.6 แสนอัตรา ก็เพื่อช่วยเหลือประชาชนและนักศึกษาจบใหม่ จึงต้องถามว่าแกนนำที่ชวนเยาวชนออกมาชุมนุมเพื่อให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้ ทำเพื่ออะไร หรือเพื่อใครให้ได้ประโยชน์ ถ้ารัฐบาลอยู่ไม่ได้ต่อไปจะทำอย่างไร ต้องการให้มีการเลือกตั้งใหม่ แก้รัฐธรรมนูญ แล้วใครจะมาสานงานตามนโยบายต่างๆ ที่กำลังทำอยู่และหากสถานการณ์เลวร้ายแบบฮ่องกง นโยบายที่ทำอยู่จะทำอย่างไร ใครจะรับผิดชอบอนาคตเยาวชน และแกนนำจะรับผิดชอบได้หรือไม่ หากทำให้คนไทย ที่กำลังจะมีงานทำต้องกลับมาตกงานตามเดิมและประเทศชาติเสียหาย