สมาคมแพทย์อังกฤษประกาศให้ 'คนข้ามเพศ' และ 'นอนไบนารี' ควรเปลี่ยนเพศทาง กม.ได้โดยไม่ต้องผ่านหมอ
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา สมาคมการแพทย์อังกฤษ (BMA) ประกาศเรียกร้องให้รัฐบาลรับรองสิทธิของคนข้ามเพศและผู้ไม่อยู่ในระบบสองเพศหรือ 'นอนไบนารี' (Non-binary) ให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ หลังจากที่ในวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมามีคำตัดสินไปในทางสนับสนุนการนิยามตนเองของคนข้ามเพศและนอนไบนารี
สมาคมการแพทย์อังกฤษซึ่งเป็นสหภาพของกลุ่มวิชาชีพแพทย์ในอังกฤษผ่านมติการสนับสนุนสิทธิคนข้ามเพศและนอนไบนารีในการประชุมผู้ทนประจำปีของพวกเขา พวกเขาประกาศสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเพศทางกฎหมายและอนุญาตให้คนข้ามเพศและนอนไบนารีที่อายุน้อยกว่า 18 ปี เข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ในสภาพแวดล้อมแบบที่เหมาะสมกับอัตลักษณ์ทางเพศของพวกเขา และให้พวกเขาเข้าถึงพื้นที่ตามเพศสภาพของตัวเองได้
เกรซ ออลพอร์ต หนึ่งในตัวแทนของ BMA กล่าวว่าพวกเขาในฐานะแพทย์มีหน้าที่เด่นๆ ในแง่ของการช่วยเหลือการแปลงเพศให้กับคนข้ามเพศ เธอจึงหวังว่าคำตัดสินของ BMA นี้จะสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่พวกเขาพยายามจะทำ และหวังว่าผู้ประกอบวิชาชีพสาธารณสุขที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นการให้ฮอร์โมนคนข้ามเพศจะได้รับรู้ว่าประชาคมการแพทย์คอยสนับสนุนพวกเขาอยู่
ในปัจจุบันบุคคลข้ามเพศในอังกฤษสามารถเปลี่ยนแปลงเพศทางกฎหมายของตัวเองซึ่งจะมีผลต่อทั้งเรื่องภาษี เรื่องบำนาญ และเรื่องการจดทะเบียนสมรส แต่ทว่ายังต้องผ่านการวินิจฉัยทางการแพทย์ว่ามีอาการของภาวะไม่พอใจในเพศสภาพตัวเอง (Gender Dysphoria) ก่อนและต้องเป็นผู้ใหญ่แล้วเท่านั้น
กฎหมายที่รองรับในเรื่องดังกล่าวของอังกฤษคือกฎหมายที่ชื่อว่า 'บัญญัติรับรองเพศสภาพ' (Gender Recognition Act หรือ GRA) ซึ่งออกมาตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งทาง BMA ประกาศเสนอว่าควรจะยกเลิกข้อจำกัดเรื่องที่ต้องผ่านการวินิจฉัยทางการแพทย์และระบุอนุญาตให้คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ก็ควรจะอนุญาตให้เปลี่ยนเพศทางกฎหมายได้ ข้อเสนอดังกล่าวนี้เคยมีอดีตนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ เสนอในแบบเดียวเมื่อปี 2560 ทั้งนี้จากการขอคำปรึกษาจากกลุ่มตัวอย่างของประชาชน 100,000 รายในการปฏิรูปเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าร้อยละ 70 สนับสนุนให้มีการยอมรับเพศสภาพของบุคคลได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนกาารทางการแพทย์
ออลพอร์ตกล่าวว่าในฐานะที่เธอเป็นหมอ มันเป็นเรื่องสำคัญที่เธอจะต้องแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ "รัฐบาลไม่ควรจะเป็นฝ่ายเลือกชี้เอาว่าบริการทางสาธารณสุขแบบไหนที่เหมาะสม" ออลพอร์ตบอกอีกว่าการถกเถียงกันก่อนหน้านี้ว่าคนข้ามเพศและนอนไบนารีควรจะเป็นผู้กำหนดเพศสภาพตนเองได้หรือไม่นั้นทำให้แพทย์กลายเป็นผู้ถูกจัดอยู่ในตำแหน่งที่เปรียบเสมือนเป็นผู้ขวางกั้นที่ไม่ใช่แค่เรื่องการเข้าถึงบริการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้คอยกำหนดชี้ว่าคนเหล่านั้นเป็นเพศอะไรด้วย ซึ่งออลพอร์ตมองว่าไม่ใช่บทบาทที่แพทย์ควรจะทำ และไม่ใช่สิ่งที่ใครก็ตามจะไปกระทำต่อคนอื่น
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)