Skip to main content
sharethis

19 ก.ย. เวลา 20.20 น. ที่เวทีการชุมนุม ‘19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร’ บริเวณสนามหลวง อรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ‘ครูใหญ่ ขอนแก่นพอกันที' กล่าวปราศรัย เล่านิทานประวัติศาตร์มนุษยชาติที่ถูกพระเจ้าทำโทษเพราะกินผลไม้แห่งความบ้าอำนาจ ก่อนชื่นชม 'ผู้กองปูเค็ม' หลังถูกรุมทำร้ายจากการจับตู้สล็อต ก่อนมอบรางวัลแก่บุคคลและองค์กรที่มีบทบาทแห่งปี

"ถ้าพวกคุณกำลังสบาย ทำมาค้าขึ้น พวกคุณไม่มานั่งอยู่ตรงนี้ คาราวะหัวจิตหัวใจของพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่มานั่งอยู่ตรงนี้ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอาจจะทำให้เราเปียกชื้นไปบ้าง คันไปบ้าง กลับไปที่บ้านอาจจะมีปัญหาในร่มผ้า เป็นกลากเกลื้อน ทาซีม่าก็หาย แต่กลากเกลื้อนที่กัดกินประเทศทำอย่างไรก็ไม่หาย

"ผมมีนิทานมาเล่าให้ฟังหนึ่งเรื่อง เป็นนิทานที่ยังไม่จบ เรื่องเริ่มเมื่อพระเจ้าได้สร้างโลกและจักรวาล พระเจ้าได้สร้างมนุษย์คู่แรกของโลกขึ้นมา เป็นมนุษย์ผู้หญิงและผู้ชาย มนุษย์ผู้หญิงชื่อเอวา มนุษย์ผู้ชายชื่อโอดัม

"พระเจ้าให้เอวากับโอดัมเฝ้าสวนอัมพร อัมพรแปลว่าท้องฟ้า สวนอัมพรแปลว่าสวนที่อยู่บนท้องฟ้า โดยสั่งห้ามว่าในสวนอัมพรนี้ มนุษย์จะทำอะไร หรือกินอะไรก็ได้ แต่พระเจ้าห้ามไว้เพียงอย่างเดียว คือ ผลไม้แห่งความบ้าอำนาจ

"วันหนึ่ง ซาตานคู่ปรับของพระเจ้าได้แปลงร่างเป็นงูเห่า เลื้อยมาจากเชียงใหม่ มาถึงสวนอัมพร แล้วย้ายที่อยู่ไปยังภูมิใจใครก็ไม่รู้ ได้เข้ามายุยงเอวาว่า เธอไปลองกินดูสิ ผลไม้ชนิดนี้ ถ้าเธอกินเข้าไป เธออาจจะมีอำนาจเหมือนพระเจ้าก็ได้ เอวาก็อยากกิน จึงไปชวนโอดัมให้กิน โอดัมก็กินตามคำที่เอวาสอน และพระเจ้าก็ล่วงรู้ในการละเมิดคำสั่งของพระเจ้า พระเจ้าจึงสาปให้มนุษย์ทั้งคู่ลงมาเกิด

"ในการลงมาเกิดนั้น พระเจ้าบอกว่า ผู้หญิงเป็นเพศที่อยากรู้อยากเห็น พระเจ้าจึงสาปให้ผู้หญิงมีร่างกายอ่อนแอจะได้มีประสิทธิภาพในความอยากรู้อยากเห็นน้อยลง แต่พระเจ้าก็สาปให้ผู้ชายเป็นทาสของผู้หญิง เพราะเชื่อคำผู้หญิง ผู้ชายบางคนจึงเห็น...ดีกว่าราษฎร นั่นเป็นผลจากคำสาปของพระเจ้า

"ในขณะที่มนุษย์มาเกิด พระเจ้าก็ได้แอบใส่เมล็ดพันธุ์แห่งสลิ่มให้ทุกคน ดังนั้น ในตัวเราทุกคนจึงมีความเป็นสลิ่มอยู่เสมอไม่ว่าจะมากหรือน้อย แต่ด้วยความซื่อสัตย์อื่นๆ ที่มนุษย์มอบให้พระเจ้า พระเจ้าจึงมอบพรด้วยว่า โรคสลิ่มนั้นรักษาหายถ้าเต็มใจจะรักษา แต่ถ้าใครไม่ยอมรักษา พระเจ้าจะปล่อยให้สลิ่มตายไปพร้อมลมหายใจของเขา

"เมื่อมนุษย์คู่แรกลงมาเกิดก็ขยายเผ่าพันธุ์ เกิดเป็นชนเผ่า ในชนเผ่านี้มนุษย์ก็ไม่ต่างจากสัตว์ในทีแรก มนุษย์ต้องการหัวหน้าฝูง จึงดึงมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดมาเป็นหัวหน้า ในยุคที่มนุษย์โง่ที่สุด เราเลือกผู้ที่แข็งแกร่งมาเป็นหัวหน้า หลังจ่าฝูงคนแรกตายลง มนุษย์ก็ไม่รู้จะให้ใครมาเป็นหัวหน้าฝูงอีก จึงให้ลูกของจ่าฝูงคนเดิมเป็นจ่าฝูงต่อ

"เป็นเช่นนี้มารุ่นแล้วรุ่นเล่า ส่งทอดตำแหน่งจ่าฝูงจากรุ่นสู่รุ่น แต่อย่าลืมว่ามนุษย์มีเมล็ดพันธุ์แห่งความบ้าอำนาจอยู่ ในความบ้าอำนาจนั้น มนุษย์ที่เป็นจ่าฝูงจากการสืบทอดกันทางสายเลือดบอกว่า ทุกคนที่อยู่ในฝูงนี้คือทาสของจ่าฝูง ผืนแผ่นที่ทั้งฝูงสร้างมาด้วยกันเป็นของจ่าฝูง วันดีคืนดีที่มนุษย์จ่าฝูงได้ส่งคนในครอบครัวไปแต่งงานกับจ่าฝูงฝูงอื่น แล้วเกิดการทะเลาะกันเอง ก็เกณฑ์มนุษย์ในฝูงด้วยกันไปสู้รบปรบมือกับฝูงอื่นจนล้มหายตายจาก แล้วมาอ้างเอาความชอบธรรมจากมนุษย์ในฝูงด้วยกันว่า ฉันคือคนที่รักษาฝูงไว้ให้พวกแก

"วันหนึ่งมนุษย์มีความฉลาดมากขึ้นจนคิดว่า มันไม่โอเคแล้วนะที่เราจะให้จ่าฝูงสืบทอดกันทางสายเลือด งั้นเรามาสืบทอดจ่าฝูงด้วยการเลือกตั้งกัน แต่เราก็จะยังให้ตระกูลของจ่าฝูงเดิมอยู่ในตำแหน่งของหมอผีประจำหมู่บ้านต่อไป แต่วันดีคืนดี หมอผีของหมู่บ้านที่อยู่ในตำแหน่งเป็นเคารพศรัทธาของมนุษย์ในหมู่บ้าน ก็ไปแอบจับมือกับยามประจำหมู่บ้าน ยึดอำนาจจ่าฝูงคนใหม่ที่เข้ามาในรูปแบบการเลือกตั้ง

"ทุกครั้งที่เกิดการจับมือระหว่างหมอผีที่เคยเป็นจ่าฝูงเดิม กับยามประจำหมู่บ้าน ความศรัทธาที่มีต่อหมอผีประจำหมู่บ้านจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ และถ้าหากเกิดการจับมือระหว่างหมอผีประจำหมู่บ้านกับหัวหน้ายามซึ่งเป็นการแย่งชิงอำนาจของคนในหมู่บ้านอีกเมื่อใด ความศรัทธาต่อหมอผีจะไม่มีอีกต่อไป

"วันนี้ที่มนุษย์ได้เปลี่ยนการปกครองจากระบบจ่าฝูงที่สืบทอดกันทางสายเลือด มาสู่ระบบการเลือกตั้งแล้ว เราจึงต้องถามว่า ตกลงแล้วคนทั้งฝูงเป็นทาสของจ่าฝูงหรือไม่ แผ่นดินทั้งหมด ประเทศทั้งหมด หมู่บ้านทั้งหมดเป็นของจ่าฝูงหรือไม่

"นิทานเรื่องนี้จบลงแต่เพียงเท่านี้ เพราะนิทานเรื่องนี้ยังรอให้เราเขียนมันร่วมกัน เรามาสู้วันนี้เราไม่ได้สู้เพื่อใครอื่น เรามาสู้เพื่อประชาชนคนกันเองทั้งสิ้น เรากำลังมาสู้เพื่อรัฐสวัสดิการ เรากำลังมาสู้เพื่อประเทศที่น่าจะดีกว่านี้

"หากจะมีใครสักคนที่ผมจะยกย่องเทิดทูนและสู้เพื่อเขาในวันนี้ มีอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นคือผู้กองปูเค็ม ปรบมือดังๆ ให้กับผู้กองปูเค็ม ไม่ว่าเขาจะยืนอยู่ฟากฝั่งไหน มีทัศนคติทางการเมืองที่ตรงข้ามกับเรา แต่เราไม่เป็นสลิ่มก็ควรเทิดทูนในวีรกรรมของเขาที่เขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าเขาอาจจะใช้สติและปัญญาน้อยไปหน่อย และไม่มีใครควรโดนกระทืบในบ่อน ถ้าเราไม่มีมาเฟียครองประเทศนี้

"ในช่วงสุดท้ายนี้ ผมอยากมอบรางวัลสัก 4-5 รางวัล รางวัลที่หนึ่ง คือ "นักร้องเสียงทอง" ผมมอบให้แก่ แรมโบ้อีสาน วาทกรรมเผาบ้านเผาเมืองยังถูกใช้มาจนถึงปัจจุบันในหมู่วงจรสลิ่ม แต่คนที่เป็นแกนนำยุยงให้ดกิดการเผาบ้านเผาเมืองมันย้ายไปอยู่กับรัฐบาลชั่วโฉดหมดแล้ว และวันนี้เาไม่ได้แค่เผาบ้านเผาเมือง สิ่งที่เขาทำคือการเผาและผลาญงบประมาณของประเทศนี้

"รางวัลต่อไปที่ผมจะมอบ คือ รางวัลคนหายแห่งปี ขอมอบรางวัลนี้ให้แก่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หายกันไปเลย ไม่รู้มีเรื่องอะไรต้องทำ ฟังกันชัดๆ นะครับ ย้ำกันอีกที พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีทางสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี อีตอแหล! เลือกตั้งเสร็จปุ๊บ หัวหน้าพรรคออกปั๊บ คำพูดของหัวหน้าพรรคไม่ใช่จุดยืนของพรรค โธ่! แมลงสาบ แล้วคุณอภิสิทธิ์ เวชาชีวะก็หายไป หายไป อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ทัน รอจังหวะชุบตัวอยู่หรือเปล่า

"รางวัลต่อไปที่ผมจะมอบ คือ รางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะบทบู๊หรือบทเศร้า เขาก็ทำได้ดี การันตีด้วยรางวัลเต็มหน้าอก เหรียญตรามาครบ สนามรบไม่เคยไป วีรกรรมยิ่งใหญ่คือยิงปืนใส่ประชาชน ในละครเรื่องนี้ หากคุณอยากจ้างเขาเป็นนักแสดงนำ ค่าตัวไม่มากไม่มายครับ 4 พันล้านก็พอ เหลือเวลาอีก 9 วัน ที่ พล.อ.อภิรัช์ คงสมพงษ์ จะเกษียณอายุราชการ หวังนะครับว่าท่านจะไม่ทำรัฐประหาร และหวังว่าต่อจากนั้น ผู้บัญชาการทหารบกคนถัดไป รัฐประหารจะไม่เกิดขึ้น เพราะอย่าลืมนะครับว่าต้นทุนของรัฐประหาร คือ ศรัทธาของประชาชน

"รางวัลต่อไป รางวัลผู้ตื่นรู้แห่งปี ในที่สุดไอ้ต้าวป้อมของพี่ใหญ่ก็รู้สักที คงกินซีอิ๊วไปเยอะ

"รางวัลรองสุดท้าย คือ รางวัลสื่อคุณภาพแห่งปี ผมขอมอบรางวัลนี้ให้กับ 'ไอ้ต้าวเนชั่น' พลังของสื่อส่งผลต่อสังคมครับ และถ้าสื่อบิดเบือนความจริง ใส่ร้ายป้ายสีประชาชน ยุยงให้เกิดความแตกแยกในชาติ ไม่เคยมีใครไปปิดเขาให้จอดำ สื่อมาพร้อมกับการโฆษณาชวนเชื่อ คนบางคนถูกยกย่องให้เลอค่า ให้สูงเด่นเยี่ยงวีรบุรุษ นั่นก็เพราะการโฆษณาชวนเชื่อแต่เพียงฝ่ายเดียว เราเชื่อบางอย่างโดยไม่ตั้งข้อสงสัย เราเทิดทูนบางคนจากการโฆษณาของสื่อ

"จากการตายของคนหนึ่งคน เหตุการณ์ต่อมาคือชายอีกคนกลายเป็นฮีโร่ของสังคม กลายเป็นวีรบุรุษที่แทบจะอยู่ในใจคนทั้งแผ่นดิน ผมไม่ได้พูดถึงใครครับ นอกจากไทยรัฐทีวี ผมต้องขอแอร์ไทม์ยาวๆ หน่อยนะครับ เพราะลุงพลได้ขึ้นเวทีแล้ว

"ก่อนที่ผมจะจากไป รางวัลสุดท้าย รางวัลอาหารอีสานจานเด็ด ได้แก่ ลาบก้อย มีข้าวคั่ว มิมัวหมอง กินเยอะระวังเป็นพยาธิ สวัสดีครับ"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net