Skip to main content
sharethis

เวทีสนามหลวง #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร 'อานนท์ นำภา' เตือนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำร้องแกนนำล้มล้างการปกครองฯ โดยขอให้ปฏิบัติหน้าที่ซื่อสัตย์กับความคิดตัวเองและวางหัวโขน เพราะคำพิพากษาจะผูกพันกับทุกองค์กร ระบุเช้านี้เตรียมปักหมุดคณะราษฎรหมุดที่ 2 ด้าน 'เพนกวิ้น' เผย 3 แนวทางล้มกระดานเผด็จการ 'ไล่ประยุทธ์-ร่างรัฐธรรมนูญ-ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ฯ' ส่วนความเคลื่อนไหวตำรวจเช้ามืดวันอาทิตย์นี้ เริ่มวางแนวกั้นหลายด่านทั้งผ่านฟ้าฯ และมัฆวานรังสรรค์

19 ก.ย. 2563 การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ที่ท้องสนามหลวง ในช่วงค่ำ เวลาประมาณ 19.50 น. พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงข่าวระหว่างชุมนุมตอนหนึ่งระบุว่าตั้งแต่เวลา 08.00 น. จะเคลื่อนขบวนทำเนียบรัฐบาล ยืนยันไปกันมือเปล่า ถ้ามีความรุนแรงจะไม่ได้มาจากประชาชนแต่มาจากฝ่ายรัฐ ซึ่งการไปทำเนียบรัฐบาลจะไม่ได้ไปยื่นข้อเรียกร้อง แต่จะมีเซอร์ไพรส์

ส่วนยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหว วันอาทิตย์ (20 ก.ย.) มี 3 ประเด็นคือ โดยพริษฐ์เรียกว่า "ยุทธศาสตร์ล้มกระดานเผด็จการ" 1. ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวกพ้องออกไป รวมถึงองค์กรอิสระต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ส.ว. หรือ กกต. ต้องออกไปให้หมด 2. เรียกร้องการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่โดยมาจากเสียงของประชาชน โดยเฉพาะหมวด 1 และ 2 และข้อ 3. การปฏิรูป​สถาบันกษัตริย์ ซึ่งการต่อสู้​ครั้งนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่ทำวันเดียวเสร็จ แต่ประชาชนต้องร่วมมือกันให้มาก

ทั้งนี้ในเวลา 01.30 น. เข้าสู่วันที่ 20 ก.ย. พริษฐ์ได้ย้ำยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหว 3 ข้อบนเวทีปราศรัยอีกครั้ง เขากล่าวด้วยว่าอยากสื่อสารกับวีรชนปี 53 ถึงแม้ตอนนั้นผมอยู่ ป.5 แต่ไม่ได้ออกมาร่วมกับพี่น้องมากเท่าที่ควร ผมขอโทษที่นักศึกษาอย่างพวกเราไม่ได้ออกไปวันนั้น พี่น้องจึงต้องเสียเลือดเสียเนื้อ แต่วันนี้นักศึกษาทุกสถาบัน โดยเฉพาะธรรมศาสตร์ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดชุมนุมวันนี้ ขออาสามาทำหน้าที่นักศึกษาคุ้มกันพี่น้องทุกคน

อานนท์ นำภา

ช่วงหนึ่งของการแสดงงิ้วธรรมศาสตร์ฯ

เวลาประมาณ 22.50 น. ส่วนอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ขึ้นเวทีปราศรัยเริ่มแรกเขากล่าวว่าที่หัวเกรียน ไม่ได้ไปเป็นทหาร แต่ไปเข้าคุกมา 5 วัน ก็ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้เห็นชีวิตในเรือนจำและได้พบกับณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงที่ติดคุกจากตดีประท้วงหน้าบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี คนตายไปแล้ว แต่คนติดคุกก็ยังติดอยู่ ระหว่างติดคุก พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ มีอธิบดีกรมราชทัณฑ์เข้าไปเยี่ยม มารู้ทีหลังว่าเขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองราชเลขาธิการ ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าจะได้รับแต่งตั้ง เขาจะฝากข้อเสนอ 10 ข้อปฏิรูปสถาบันกษัตริย์กับอธิบดีกรมราชทัณฑ์

อานนท์กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีคนไปร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญว่าการเคลื่อนไหวของประชาชนเป็นการล้มล้างระบอบการปกครอง ซึ่งศาลก็รับฟ้อง ขออนุญาตฝากไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่าคำพิพากษาที่จะเกิดขึ้นนั้นจะผูกพันทุกองค์กร จะผูกพันพี่น้องประชาชนทุกคน ถ้าท่านตัดสินว่าเราปฏิรูป มันก็จะเป็นเช่นนั้น หากบอกว่าเราล้มล้างสถาบัน มันก็จะเป็นเช่นนั้น 

"ปากกาอยู่ที่ท่าน บ้านเมืองจะไปทางไหนก็เลือกเอา เราจะยืนยันว่า 10 ข้อมีแค่นั้น อยากให้กษัตริย์อยู่คู่สังคมไทยอย่างแท้จริง ไม่มีใครเหนือกว่าใคร ใครทำผิดต้องขึ้นศาล ก็แค่นั้น"

อานนท์กล่าวด้วยว่าอยากให้องค์คณะศาลรัฐธรรมนูญซื่อสัตย์กับความคิดของตัวเอง วินิจฉัยว่าพี่น้องที่มาชุมนุมเป็นไปตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ลองวางหัวโขนงานลง อย่าไปรับใช้อำนาจเผด็จการซึ่งจะอยู่ได้ไม่นาน เขาระบุว่าที่มีคนตื่นขึ้นมาเรือนแสนเรือนหมื่น ที่บ้านเมืองมาถึงจุดนี้ กระบวนการตุลาการก็มีส่วน มีอีกข้อเสนอว่า ถ้าเกิดการรัฐประหาร ศาลต้องไม่รับรองอำนาจคณะรัฐประหาร ต้องกล้าพิพากษาว่าคณะรัฐประหารเป็นกบฏ ทั้งนี้เขาระบุว่าที่เลือกแนวทางนี้ เชื่อว่ามาถูกทางถ้าชนะก็จะเป็นการชนะร่วมกันทั้งประชาชน และสถาบันพระมหากษัตริย์ก็จะอยู่อย่างสง่าผ่าเผย

ในตอนท้ายเขาระบุว่าในเช้าวันที่ 20 ก.ย. จะมีพิธีสำคัญ "คือการปักหมุดคณะราษฎร หมุดที่ 2 ซึ่งถูกหล่อมาด้วยทองเหลืองขนาด 11 นิ้ว จะปักลงแผ่นดินนี้ ด้วยข้อความว่า' 'ย่ำรุ่งของวันที่ 20 ก.ย. เราประกาศร่วมกันว่า ประเทศนี้เป็นของประชาชนทั้งผอง ไม่ใช่ของสถาบันกษัตริย์อย่างที่เขาหลอกลวง' เขายังกล่าวด้วยว่า "วันนี้คณะราษฎร 2563 ได้ก่อเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ที่สนามราษฎร์แห่งนี้แล้ว พรุ่งนี้หมุดจะถูกปักลง ประกาศคณะราษฎรฉบับที่ 2 จะถูกอ่านขึ้น พวกเรา ก็จะเป็นไท"

รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล

ต่อมาเวลาประมาณ 00.05 น. รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าการชุมนุมวันนี้ได้ปลุกจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ให้กลับมารับใช้ประชาชน และยึดสนามหลวงมาเป็นสนามราษฎร นอกจากนั้นได้กล่าวย้ำ 10 ข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์จากเวทีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม

เวลา 03:00 น. ของเช้าวันที่ 20 ก.ย. หลังการแสดงดนตรีบนเวทีจบลง มีการปิดเวที ก่อนนัดหมายมวลชนรวมตัวกันช่วงเช้ามืด เพื่อเริ่มกิจกรรมปักหมุดคณะราษฎรในเวลา 06.00 น.

ส่วนความเคลื่อนไหวช่วงเช้ามืด เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มวางแนวกั้นหลายด่าน โดยวางแนวป้องกันตั้งแต่ปากทางถนนราชดำเนินนอกด้านสะพานผ่านฟ้าลีลาศ และแยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ใกล้ทำเนียบรัฐบาล

โดยเมื่อเวลา 01.20 น. บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งตามกฎหมายการชุมนุมต้องเว้นระยะห่างทำเนียบรัฐบาล 50 เมตร และเขตพระราชฐาน 150 เมตร พบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนำลวดหนาม และแท่งคอนกรีต แท่งแบริเออร์พลาสติกมาวางเพื่อกั้น โดยเริ่มปิดถนนตั้งเเต่เเยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ จนถึงแยก จปร. โดยยังเว้นช่องทางจราจรให้สัญจรขึ้นสะพานพระราม 8 นอกจากนี้ยังปิดเส้นทางถนนราชดำเนินนอก ไปจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้าและตามแยกถนนต่างๆ ที่มุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาลกับลานพระบรมรูปทรงม้า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net