ภาคประชาชนหอบแสนชื่อใน 43 วัน ยื่นสภา เตือนอย่าลักไก่ ล็อกสเปกแก้รัฐธรรมนูญ

22 ก.ย. 2563 ไอลอว์, พีเพิลโกเน็ตเวิร์ก, เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ, กลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า, คณะประชาชนปลดแอก และประชาชนหลายร้อยคน เดินทางไปยื่นรายชื่อ 100,732 รายชื่อ เพื่อเสนอแก้รัฐธรรมนูญ 2560 เตือนอย่าลักไก่ ล็อกเสปกแก้รัฐธรรมนูญ

พริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม จากกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า กล่าวว่า วันนี้ไม่ควรต้องปราบมือให้ไอติม แต่ควรปรบมือให้ไอลอว์ ส่วนหัวข้อที่ได้รับมอบหมายให้มาพูดวันนี้ คือ ปัญหาของรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งตนเชื่อว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ประชาชนมารวมตัวกันวันนี้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกร่างด้วยรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารโดยที่ประชาชนไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมออกแบบและแสดงความคิดเห็น และการทำประชามติที่รัฐบาลอ้างว่าผ่านมาด้วย 16 ล้านเสียงภายใต้บรรยากาศที่ต้องจำใจเลือก จำใจรับรัฐธรรมนูญฉบับไปก่อนเพื่อให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด และเป็นการทำประชามติที่ไม่ได้เปิดกว้าง เสรี และเป็นธรรม ฝ่ายคัดค้านไม่สามารถรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลหาเสียงได้ แต่กลับถูกปิดกั้นและดำเนินคดี และยังมีคำถามพ่วงที่ซับซ้อน ชี้นำ และไม่เป็นมาตรฐานประชาธิปไตยสากล

พริษฐ์ วัชรสินธุ

นอกจากกระบวนการที่พริษฐ์เห็นว่าเป็นกระดุมเม็ดแรกที่ติดผิดแล้ว ยังเจอปัญหาในเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ห่างจากหลักประชาธิปไตยสากล และไม่ทันต่อยุคสมัย และความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจสังคม แม้จะเขียนไว้ให้มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แต่สิ่งที่รฐธรรมนูญนี้ทำได้ กลับเป็นการย้อนหลังการเมืองไทยให้ถอยไปเกิน 20 ปี ต่ำต้อยกว่าความเป็นประชาธิปไตยของรัฐธรรมนูญฉบับ 2540

ตัวแทนกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้าเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อ 10 ธ.ค. ปีที่แล้ว ที่ได้คุยคุยกับยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ว่าจะรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร จากนั้นก็มีโอกาสได้รับฟังแนวคิดของทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี จึงเห็นว่า แทนที่จะมานั่งวิพากษ์วิจารณ์ปัญหา เราควรมาลงมือแก้ไข แต่เมื่อถามยิ่งชีพกลับไปถึงการล่า 50,000 รายชื่อ ซึ่งเป็นประตูบานเล็กๆ ที่เขาเปิดไว้ให้แก้ไขจากภาคประชาชนว่าจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ยิ่งชีพก็ตอบจากประสบการณ์ว่าไม่ง่าย

"การล่า 50,000 รายชื่อไม่ใช่การกรอกกูเกิลฟอร์มที่ยืนยันตัวตนไม่ได้ แต่เป็นการที่แต่ละคนต้องนำบัตรประชาชนและสำเนามายืนยันถึงที่ แต่ผ่านมาไม่กี่เดือน ไม่ถึงหนึ่งปี ประชาชน 100,732 คนได้ทำให้เห็นว่า ความหวังและความฝันของเราเป็นจริงได้แล้ว" พริษฐ์กล่าว

พริษฐ์เห็นว่า วันนี้เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น และจะสูญสลายไปทันที ถ้ารัฐสภาโหวตผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่มีการปรับโครงสร้างของประเทศอย่างชัดเจน และมีการลักไก่ที่ทำเหมือนจะแก้แต่ไม่ได้แก้ให้ประเทศของเรากลับสู่ประชาธิปไตย

ตัวแทนกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้ากล่าวอีกว่า ตอนนี้มีปรากฏการณ์ที่อาจเป็นการลักไก่สองปรากฏการณ์ คือ มีการล็อกสเปกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพราะในรายละเอียดแม้ว่าจะมี ส.ส.ร. 200 คน แต่มีเพียง 150 คนเท่านั้นที่มาจากการเลือกตั้ง ส่วน 50 คนมาจากการแต่งตั้ง และปรากฏการณ์ที่สองคือ ส.ว. ลอยนวล ถ้าดูร่างของพรรคร่วม ไม่มีการแตะถึงอำนาจและที่มาของ ส.ว. ชุดปัจจุบัน ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนของการสืบทอดอำนาจ และวิปริตที่สุดเพราะคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ที่มีเพียง 10 คน มี 3 คนแต่งตั้งเครือญาติตัวเองเข้ามาเป็น ส.ว. ยิ่งไปว่านั้น อีก 6 คนเลือกตั้งเองเข้ามาเป็น ส.ว. เสียเอง และเขายังเปรียบเทียบอำนาจของคณะกรรมการสรรหาฯ ว่ายังมีอำนาจที่มากกว่าประชาชนถึงสองล้านเท่า

พริษฐ์กล่าวต่อว่า นอกจาก ส.ว. จะมีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีได้แล้วยังมีอำนาจในการรับรองกรรมการขององค์กรอิสระและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และมีอำนาจในการออกกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ การทำหน้าที่ของ ส.ว. ที่ผ่านมา ที่คนคาดหวังว่าจะมาตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบริหาร ก็จะเห็นว่า 145 มติที่ผ่านจากสภาผู้แทนราษฎรก็ผ่านหมดเลยโดยไม่มีการปัดตก เขาจึงชักชวนประชาชนช่วยกันจับตาว่าจะมีประเด็นใดที่จะถูกแก้และประเด็นใดที่จะมีการลักไก่และยังไม่แก้

"อย่าเพิ่งดีใจนะครับ ถ้าท่านายกฯ ออกมาประกาศว่าแก้รัฐธรรมนูญแล้ว ถ้าเกิด ส.ส.ร. ยังไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง 100% และมีองค์ประกอบที่เป็นกลาง อย่าเพิ่งดีใจนะครับ ถ้ามีการแก้มาตรา 256 ทำให้รัฐธรรมนูญแก้ง่ายขึ้น แต่ไม่มีการปรับลดอำนาจหรือที่มาของวุฒิสภา และท้ายที่สุดนี้ ผมขอเรียกร้องไปถึงสมาชิกรัฐสภา ไม่ว่า 100,732 รายชื่อนี้ หรือร่างฉบับนี้ จะทันหรือไม่ทันตามกระบวนการ เจตจำนงของประชาชนวันนี้ชัดเจนแล้วครับ ท่านไม่ต้องรอให้สิ่งเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการ ท่านก็พิจารณาถึงเนื้อหาได้ เพื่อรื้อระบอบ คสช. เพื่อสร้างหนทางกลับสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ทุกคนนั้นยอมรับและรู้สึกเป็นเจ้าของประเทศนี้ร่วมกัน" พริษฐ์กล่าวทิ้งท้าย

ด้านยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ กล่าวว่า ไอลอว์มีทีมงาน 14 คนทำงานเต็มที่ แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยื่นมือมาช่วยเหลือ ทั้งตั้งโต๊ะ ถ่ายเอกสาร บริจาคกระดาษ เครื่องถ่ายเอกสาร ให้ใช้สถานที่ มีแต่คนยื่นมือเสนอ ไม่ต่ำกว่า 200-300 คน ทำให้รวมชื่อได้รวดเร็วขนาดนี้

ผู้จัดการไอลอว์กล่าวขอบคุณ 100,732 คนที่พยายามตามหาสถานที่ตั้งโต๊ะ ส่งไปรษณีย์ ชวนคนที่บ้าน ที่ทำงาน ที่สถานศึกษา รวบรวมรายชื่อมาส่งให้ หากไม่มีคนจำนวนนี้ วันนี้ก็ไม่ได้มาสภา

ยิ่งชีพ อัชฌานนท์

ยิ่งชีพกล่าวว่า เราต้องการหาทางออกความขัดแย้งทางการเมือง ที่การเมืองตอนนี้ผิดปกติ เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 ตั้งใจเขียนให้รวบอำนาจอยู่กับ คสช. ถ้าคนในรัฐสภายังอ้างเทคนิคการตรวจสอบรายชื่อหรืออื่นๆ เพื่อไม่รับฟังเสียงประชาชน ก็เป็นความผิดของเขา ไม่ใช่ความผิดของประชาชน

ยิ่งชีพปิดท้ายว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังยื่น มีข้อเสนอที่ฉบับร่างฯ ของพรรคการเมืองไม่เสนอ คือต้องการยกเลิก 250 ส.ว. ไปเลย ไม่ใช่แค่ปิดอำนาจบางอย่าง ยกเลิกช่องทางนายกรัฐมนตรีคนนอก อีกเรื่องที่ไม่เห็นพรรคการเมืองเสนอ คือประเด็นองค์กรตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ เช่น ป.ป.ช. กกต. ผู้ตรวจการแผ่นดิน กสม. ที่ผ่านมามีเรื่องชงไปหลายประเด็น แต่รัฐบาลทำอะไรไม่เคยผิดเลย แต่ฝั่งตรงข้ามผิดตลอด ที่เป็นอย่างนี้เพราะการได้ตำแหน่งต้องได้รับรองจาก ส.ว. จึงเสนอยกเลิกที่มาในแบบนี้ ให้เซ็ตซีโร่แล้วสรรหาใหม่

ขณะที่จีรนุช เปรมชัยพร ตัวแทนจากเครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในแสนของประชาชนที่ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ของสังคมไทย ตลอด 43 วันที่ผ่านมา ไม่อยากเชื่อว่าเราจะสามารถได้รายชื่อถึง 100,732 รายชื่อ และเชื่อว่าถ้ากฎหมายอนุญาตให้เข้าชื่อทางดิจิทัล 16 ล้านที่ชอบอ้างว่าผ่านประชามติมา ไม่มีทางสู้ 16 ล้าน ที่เราจะได้จากวิธีรวบรวมรายชื่อทางออนไลน์ คิดว่านี่คือเจตจำนงที่ชัดเจนของประชาชน

ตัวแทนเครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ กล่าวต่อว่า เส้นทางประชาธิปไตยในประเทศนี้ยากลำบากและยาวนาน จนมีคนถามว่าเราจะทำสำเร็จไหมครั้งนี้ เริ่มแรกตนก็ได้แต่บอกว่าไม่รู้ แต่เราจะทำอย่างเต็มที่ เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง คนแสดงเจตจำนงมากขึ้น ชัดเจนขึ้น ตนเชื่อว่าเราทำสำเร็จแน่นอน ประชาชนจะร่วมเขียน ร่วมร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นสัญญาประชาคมว่าด้วยกติกาการปกครองที่ประชาชนเห็นชอบ และเราจะยอมเดินตาม

จีรนุช เปรมชัยพร

นอกจากนี้ จีรนุชยังพบว่า มากกว่า 70% ของรายชื่อที่เสนอมาในวันนี้เป็นผู้หญิงทุกช่วงวัย เกิด 2545 เป็นต้นมา ผู้หญิงเรามีความสามารถที่จะอดทนอดกลั้น ถ้าคุณจะมาลักไก่บอกว่าแก้แล้ว ผู้หญิงเราไม่โง่ นอกจากนี้ยังมีเยาวชนจำนวนมากมาร่วมลงชื่อ ถ้าผู้แทนราษฎรอยากอยู่ในสมัยไปยาวๆ ต้องรับฟังเสียงของพวกเขาที่เข้าร่วมในการเข้าชื่อ

"นี่เป็นปัจจัยสำคัญที่บอกว่า เกมนี้เราพร้อมสู้ยาว เราไม่ยอมให้คุณมาฉกฉวยขโมย เราต้องการการแก้ไขอย่างจริงจัง เสียงของประชาชนจะติดตามไปหลอกหลอนคุณแน่นอน" จีรนุชกล่าว

ตัวแทนเครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญกล่าวถึงการติดตามเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ประชาชนจะแต่งตั้งตนเองเป็นกรรมาธิการประชาชนติดตามร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อติดตามการก้ไขรัฐธรรมนูญทุกตารางนิ้วของประเทศไทย โดยจะเดินเข้าไปหาตัวแทนของพวกเขาในเขตเลือกตั้ง ทวงถามว่าร่างของประชาชนที่เสนอเข้าไปถึงไหนแล้ว จะได้เมื่อไร ไม่มีปาหี่ใช่ไหม เป็นเรื่องที่ประชาชนจะติดตาม เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญจะร่วมกับภาคประชาสังคมติดตามเรื่องนี้ ไม่เฉพาะในพื้นที่สื่อ แต่จะติดตามไปให้ถึงบ้าน ส.ส.

"เราเชื่อว่า ด้วยเกียรติของผู้แทนประชาชน คุณไม่สามารถละเลยเสียงของประชาชนในพื้นที่ของคุณ และคุณไม่สามารถละเลยเสียงของประชาชนเรือนแสนที่ต้องการอะไร เรายังเชื่อในระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เรายังเชื่อในกลไกของรัฐสภา ที่เรามารัฐสภาวันนี้ เราไม่ได้มาอย่างศัตรู แต่เรามาอย่างประชาชนผู้มีเกียรติ และมาพบกับสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติของเรา และก่อนคุณจะเป็นนักการเมือง ก่อนคุณจะเป็น ส.ส. คุณล้วนแต่เคยเป็นประชาชน นี่คือข้างที่คุณเลือกได้ ไม่มีวันแพ้" ตัวแทนเครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญกล่าว

ด้านทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี จากคณะประชาชนปลดแอก กล่าวว่า การมาถึงตรงนี้ได้คือชัยชนะหนึ่งก้าวของประชาชน ปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ ความเป็นธรรมทางสังคมเกิดจากคนไม่กี่คนต้องการรักษาสถานะเอาไว้ ผูกขาดอำนาจการเมืองและเศรษฐกิจและกดหัวประชาชน รัฐธรรมนูญจึงเป็นเครื่องมือรักษาอำนาจของพวกเขา

ทัตเทพกล่าวว่า โครงสร้างการเมืองที่บิดเบี้ยวทำให้สภาและข้าราชการทำงานเพื่อประชาชนไม่ได้ สังเกตได้จากการคุกคามประชาชนทั้งกายภาพ จิตวิทยา ยัดข้อหาคนที่ออกมาใช้สิทธิ เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ สังเกตจากคนเดือดร้อนทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 ที่ไม่ได้รับการเยียวยาจำนวนมาก นักเรียนผูกโบว์ขาวแล้วถูกครูทำร้ายร่างกาย กลั่นแกล้งต่างๆ นานา

ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี

ทัตเทพยังสังเกตเห็นอีกว่า ส.ว. จากการแต่งตั้งยกมือเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งและยังมี ส.ส. ยกมือเห็นชอบให้ พ.ร.ก.ว่าด้วยการโอนกำลังพล ให้กษัตริย์สามารถมีกองกำลังของพระองค์เอง เราจะยอมให้บ้านเมืองเราเป็นอย่างนี้หรือไม่

แกนนำคณะประชาชนปลดแอก กล่าต่อว่า ต้องดูรัฐสภาจะตอบรับร่างนี้อย่างไรต่อไป จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐธรรมนูญต้องถูกร่างใหม่โดยประชาชน ที่มาของ ส.ส.ร. ต้องมาจากการเลือกตั้ง 100% ให้ประชาชนมีส่วนร่วมทุกขั้นตอน

ทัตเทพกล่าวว่า ในระบอบประชาธิปไตย อำนาจชี้ขาดความเป็นไปของรัฐธรรมนูญมาจากประชาชน เราจะให้ใครมาร่างแทนเราไม่ได้ ประชาชนต้องเป็นคนตัดสินใจเนื้อหาทั้งหมด ไม่มีอำนาจใดมาคัดง้าง หักล้าง สมาชิกรัฐสภาเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก ไม่ใช่ล็อกสเปกว่าหมวดไหนจะไม่แก้ เราต้องแก้ได้ทุกหมวด ถ้าล็อกว่ามีหมวดที่แก้ไม่ได้ ถือว่าคุณเป็นกบฏต่อประชาชน

ทัตเทพยังหวังอีกว่า ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาจะเร่งรัดกระบวนการให้ทันพิจารณาพร้อมกับร่างจากพรรคร่วมฝ่ายค้ายและรัฐบาล อย่าใช้ปัญหาทางเทคนิคล้าหลังมาเป็นเงื่อนไข

นอกจากนี้ ทัตเทพยังเชิญชวนว่าวันที่ 24 ก.ย. นี้ ประชาชนจะมารวมตัวที่รัฐสภา ร่วมชุมนุมเพื่อให้สมาชิกรัฐสภา ยกมือโหวตร่างประชาชน หรือที่มี ส.ส.ร. มาจาการเลือกตั้งทั้งหมดในวาระที่ 1

จากนั้น จอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ เป็นตัวแทนยื่นรายชื่อต่อสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎรที่มารับเอกสารแทนชวน หลีกภัย ซึ่งติดภารกิจเป็นประธานมอบรางวัลให้อัยการที่ปฏิบัติตนเป็นข้าราชดีเด่น

จอน กล่าวว่า รู้สึกว่าสภานี้เหมือนไม่ใช่สภาของประชาชน เพราะถ้าเป็นสภาของประชาชน ทุกคนจะได้รับการต้อนรับให้เข้าไปด้านใน และทำไมสภาของประชาชนจะต้องมาอยู่ในที่ที่ค่ายทหารล้อมรอบ และประชาชนไม่สามารถเข้าไปได้ ถ้าในอนาคตมีรัฐธรรมนูญของประชาชน สภานี้ใช้ไม่ได้

จอน อึ๊งภากรณ์

ผอ.ไอลอว์ กล่วว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ ที่ประชาชนหนึ่งแสนรายชื่อมาลงชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญของประชาชน แต่ที่ผ่านมารัฐสภาไม่เคยให้ความสำคัญกับร่างกฎหมายของประชาชน ต้องรอดูว่ารัฐสภานี้จะให้ความสำคัญกับหนึ่งแสนรายชื่อไหม

สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ตัวแทนรับเอกสารแทนชวน หลีกภัย กล่าวว่า เมื่อ 16 ก.ย. ที่ผ่นมา จอนได้นำคณะบุคคลเป็นผู้ริเริ่มขอแก้รัฐธรรมนูญมายื่นโดยตนเป็นผู้รับหนังสือ ขั้นตอนต่อไป คือ ภาคประชาชนมีผู้ร่วมลงรายชื่ออย่างน้อย 50,000 รายชื่อ เพื่อให้รัฐสภาตรวจสอบต่อไป วันนี้เป็นขั้นตอนที่ 2 ที่ทางภาคประชาชนได้นำรายชื่อกว่าแสนรายชื่อให้สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ

สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล

ด้านสุทิน คลังแสง ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยืนยันว่า แสนรายชื่อนี้เป็นสิ่งที่มีคุณค่าต้องให้ความสำคัญ ร่างของฝ่ายค้านกับของภาคประชาชนมีจุดประสงค์เหมือนกัน อาจต่างในรายละเอียดบ้าง แต่ไม่มีปัญหา ในชั้นกรรมาธิการปรับได้ แก้ไขได้ เสนอได้ และกำลังพูดคุยกันในฝ่ายค้านว่าอยากให้ภาคประชาชนมีที่นั่งในกรรมาธิการ เพื่อให้ร่วมคิดด้วยกัน ไม่ว่าร่างประชาชนจะทันสมัยประชุมสภานี้หรือไม่ไม่สูญเปล่า สาระทั้งหมดนำไปบูรณาการได้ หรือห่างวาระของพรรคฝ่ายค้าน และพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ผ่าน ร่างประชาชนก็จะบรรลุเข้าวาระได้ทัน

สุทิน คลังแสง

ส่วนพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า สิ่งที่เห็นวันนี้คือการเมืองที่เป็นไปได้ ก่อนหน้านี้คนพูดว่า 43 วัน ห้าหมื่นกว่าเสียงเป็นไปได้หรือ แต่ไอลอว์ทำได้หนึ่งแสนกว่าชื่อ

พิธากล่าว่า ตนเคยพูดถึงมาตรา 256 และ ส.ส.ร. ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่เป็น ส.ส. ตอนที่พรรคเก่ายังไม่ถูกยุบ มีแต่คนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่วันนี้เป็นไปได้ เพราะประชาชน นี่คืออานุภาพของประชาชน พรุ่งนี้ (23 ก.ย. 2563) ตนจะอภิปรายว่า รัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้เป็นเพียงการสืบทอดอำนาจของ คสช. แต่เป็นการเหนี่ยวรั้งประเทศกลับสู่อดีตย้อนหลังไป 40 ปี รัฐธรรมนูญปี 2521-2522 ให้อำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี 40 ปีต่อมาลูกก็โตแล้ว ยังมี ส.ว. มาเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

หัวหน้าพรรคก้าวไกลเห็นว่า ส.ส.ร. คือ ทางออกสุดท้ายที่อย่าให้ใครมาแย่งชิง แทรกแซงโอกาสครั้งสุดท้าย ส.ส.ร. ต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนเท่านั้น และบทเฉพาะกาล 269-272 ต้องได้รับการแก้ไข

"วันนี้เป็นเวทีของประชาชน ไม่ใช่ของผม พรุ่งนี้เป็นเวทีของผม ผมจะยำให้เละครับ" พิธากล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท