Skip to main content
sharethis

ครบรอบ 1 ปี โครงการ Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) เรียกร้องภาคเอกชนและภาครัฐต้องร่วมมือกันเพื่อเพิ่มการลงทุนในธุรกิจของผู้หญิงทั้งในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 และช่วงอื่น ๆ 


ที่มาภาพประกอบ: World Bank (CC BY-NC-ND 2.0)

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2563 UN Women ออกแถลงการณ์ระบุว่า หนึ่งปีที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นที่จะให้ความรู้และเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการสตรี 10 ล้านคนในช่วงสิบปีข้างหน้าผ่านโครงการ Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) โดยเราเริ่มวางรากฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบเพื่อทำลายอุปสรรคที่ทำให้ผู้หญิงไม่สามารถบรรลุอิสรภาพทางการเงินและการมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับตนเองและชุมชน

ทุกวันนี้ อนาคตของผู้หญิงกำลังอยู่ในทางแยกของประวัติศาสตร์ ผู้หญิงได้รับผลกระทบในด้านลบอย่างไม่สมสัดส่วนจากความหายนะทางเศรษฐกิจที่เป็นผลมาจาก COVID-19 แต่ในขณะเดียวกันผู้หญิงก็กุมกุญแจสำคัญในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วย โดยปัจจุบันมีผู้หญิงจำนวน 39% ในการจ้างงานทั่วโลก แต่ว่ามีการสูญเสียงานโดยรวมของสตรีในช่วงการระบาดใหญ่ คิดเป็น 54% และพวกเขามีแนวโน้มที่จะทำงานในภาคส่วนที่มีความเสี่ยงต่อผลกระทบจาก COVID-19 มากกว่า เช่น ภาคการผลิต การศึกษา การท่องเที่ยว การบริการและอาหาร การขายส่งและการขายปลีก สถานประกอบการของสตรีมีความอ่อนไหวต่อแรงสั่นสะเทือนทางเศรษฐกิจเป็นพิเศษ แต่ในสถานการณ์ที่เราดำเนินการในขณะนี้เพื่อต่อสู้กับแนวโน้มเหล่านี้การมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของผู้หญิงสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับ GDP ได้ถึง 13 ล้านล้านดอลลาร์ทั่วโลกภายในปี 2573 ดังนั้นเพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกประเทศ จึงควรให้ผู้หญิงเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาเศรษฐกิจหลังการระบาดและความพยายามในการฟื้นตัว

นั่นคือเหตุผลที่ผู้ประกอบการสตรีต้องกลายเป็นสถาปนิกของเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ ซึ่งจะเป็นเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ยืดหยุ่น และเท่าเทียมกันสำหรับทุกคน มันเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของเราในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย โดยให้ธุรกิจที่นำโดยผู้หญิงเป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลง

กรอบนโยบาย: เราเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกสหประชาชาติพัฒนากรอบนโยบายระดับชาติโดยมีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมและเป้าหมายระดับชาติที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในอันที่จะส่งเสริมเพิ่มจำนวนและสร้างขีดความสามารถของธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของ เราขอปรบมือให้กับประเทศที่ได้เริ่มใช้นโยบายการตอบสนอง COVID-19 ในการระดมทุนเพื่อสตรีและเสนอบริการให้กับผู้ประกอบการสตรีแล้ว อย่างไรก็ดีธุรกิจของผู้หญิงมักจะยังไม่อยู่ในแผนและมาตรการระดับชาติของประเทศส่วนใหญ่ในด้านการสนับสนุน SMEs

การเข้าถึงด้านการเงิน: ภาคเอกชนและภาครัฐต้องร่วมมือกันเพื่อเพิ่มการลงทุนในธุรกิจของผู้หญิงทั้งในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 และช่วงอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาโซลูชั่นทางการเงินระดับนวัตกรรม ผ่านการจัดหาทุนและการชำระหนี้และการแนะนำสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อสนับสนุนภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19

การจัดหางาน: รัฐบาลและบริษัททุกขนาดสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างเหลือเชื่อโดยการซื้อกิจการที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของ สร้างความแตกต่างแบบก้าวกระโดดของการเพิ่มขึ้นของธุรกิจที่มีสตรีเป็นผู้นำในห่วงโซ่อุปทานโดยการแสวงหาธุรกิจที่เป็นของผู้หญิง ตั้งและติดตามเป้าหมาย พร้อม ๆ กับสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีให้เข้าถึงโอกาสในการจัดหางานใหม่ ๆ

การศึกษาเชิงดิจิทัล: ผู้ประกอบการสตรีจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลทักษะดิจิทัลและการฝึกอบรมเพื่อให้สามารถเป็นผู้นำและผู้สร้างผลงานในโลกออนไลน์ได้ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเลิกการกีดกันทางเพศแบบดิจิทัลและช่วยให้ผู้หญิงเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลทางการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นและสามารถเข้าถึงได้

การคุ้มครองทางสังคม: 75% ของผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทั่วโลกทำงานบ้านโดยไม่ได้รับค่าจ้าง  และการทำงานบ้านก็เพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 การคุ้มครองทางสังคม เช่น การลาเพื่อดูแลบุตร เงินสนับสนุนจากรัฐในการดูแลบุตรการประกันสุขภาพ และการชดเชยการว่างงานจะต้องได้รับการสนับสนุนให้ครอบคลุมผู้หญิงในการจ้างงานอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการซึ่งรวมไปถึงผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระด้วย สิ่งนี้จะสร้างเสถียรภาพให้กับชุมชนทั้งหมดทำให้ผู้หญิงมีทางเลือกในการพิจารณาเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการมากขึ้น

การสนับสนุนข้ามภาคส่วน: เราทุกคนมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเป็นผู้ประกอบการของสตรี ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรภาคประชาสังคม สมาคมเชิงธุรกิจ โรงเรียนและมหาวิทยาลัย สามารถร่วมมือกันเพื่อสร้างระบบนิเวศที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสตรีเติบโตขึ้นได้

หากเราไม่ให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้หญิงในระหว่างการต่อกรในระยะยาวกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 เราเสี่ยงที่จะทิ้งผู้หญิงหลายล้านคนไว้ข้างหลังและการสูญเสียความก้าวหน้าด้านความเท่าเทียมทางเพศที่เราสามารถเก็บเกี่ยวมาได้นานหลายทศวรรษ ซึ่งนี่ยังรวมถึงการจัดการกับอุปสรรคที่มีมายาวนานตลอดจนการดูแลความปลอดภัยของผู้หญิงทุกคน

ผลกระทบเชิงลบของ COVID-19 ทำให้ความไม่เท่าเทียมกันที่มีอยู่ทวีความรุนแรงมากขึ้นซึ่งทำให้ผู้หญิงที่มีภูมิหลังที่หลากหลายไม่สามารถมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมในทีม ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องใช้มุมมองแบบประสานภาคส่วน (intersectional lens) ในการพัฒนากลยุทธ์เพื่อรองรับความต้องการทางเศรษฐกิจของผู้หญิงทุกคนในการพยายามฟื้นฟูโลกหลังจากภาวะ COVID-19

การลงทุนในผู้ประกอบการสตรีเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นตัวจากการระบาดของโรค COVID-19 พร้อม ๆ ไปกับการสร้างสังคมที่เข้มแข็ง ครอบคลุมทั่วถึงมากขึ้น มีความสามารถในการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งมากขึ้น อนาคตของเราขึ้นอยู่กับการลงทุนในผู้ประกอบการสตรี

เกี่ยวกับ the Women’s Entrepreneurship Accelerator

Women’s Entrepreneurship Accelerator เป็นโครงการริเริ่มที่มีพันธมิตรหลายรายซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้ความรู้และส่งเสริมผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก ภารกิจของ Accelerator คือการขจัดอุปสรรคสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลกผ่าน 4 วิธีการส่งเสริมศักยภาพ หรือ Four Pathways of Empowerment ได้แก่ ด้านการศึกษา การให้ทุน การสนับสนุน และการมีส่วนร่วม โครงการริเริ่มระดับโลกที่เริ่มต้นโดย Mary Kay Inc. ที่ไม่มีการกีดกั้นด้านการมีส่วนร่วม เป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่พัฒนาขึ้นโดยการหารือกับหน่วยงานของสหประชาชาติ 6 แห่ง ได้แก่ UN Women, สำนักงานเพื่อความร่วมมือแห่งสหประชาชาติ (UNOP), องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO),  International Trade Centre (ITC), UN Global Compact (UNGC) และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) อนึ่ง Accelerator ตั้งเป้าที่จะเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับผู้หญิง 10 ล้านคนภายในปี 2573

ที่มา
Statement on One-Year Anniversary of Women’s Entrepreneurship Accelerator (Business Wire, 24/9/2020)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net