Skip to main content
sharethis

ธัญวัจน์ ก้าวไกล ชวนสังคมไทยพูดคุย ทำแท้งถูกกฎหมาย-ยกเลิกพ.ร.บ. ค้าประเวณี ย้ำรู้ดีละเอียดอ่อน แต่หวังสร้างพื้นที่พูดคุยอย่างสาธารณะได้ในอนาคต 

1 ต.ค.2563 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่า ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการทำงานในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ช่วงปิดสมัยประชุมฯ ว่า ในวันนี้ปิดสมัยประชุมสภาแล้ว แต่งานกรรมาธิการยังต้องเดินหน้า ในฐานะเป็นโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการ เด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ และ ผู้มีความหลากหลายทางเพศ  โดยตนได้เตรียมตั้งคณะอนุกรรมธิการเพื่อศึกษาพิจารณา 2 เรื่อง คือ ยกเลิกการทำแท้งเป็นความผิดอาญาในมาตรา 301 และ ยกเลิก พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี โดยประเด็นที่ตนและกรรมาธิการจะทำการศึกษาเพื่อนำสู่การยกร่างนั้น เป็นประเด็นที่อ่อนไหวมากในสังคมไทย คือประเด็นการทำแท้งถูกกฎหมาย  ซึ่งถ้าศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบ จะพบว่า ผู้หญิงในประเด็นการทำแท้งนั้นเอาผิดเฉพาะผู้หญิง และกฎหมายดังกล่าวนำไปสู่ความไม่ปลอดภัยในร่างกายผู้หญิงเพราะเกิดการทำแท้งเถื่อน รวมถึงภาวะจิตใจที่ต้องต่อสู้เพื่อให้ตนเองต้องกลับมาเข้มแข็งและใช้ชีวิตต่อไปได้ เป็นเรื่องที่ห่างไกลในสังคมไทยจะเข้าใจ เพราะเมื่อผู้หญิงทำอะไรในร่างกายของเธอมันจะไม่ใช่เป็นแค่เรื่องของเธอ แต่เป็นของสังคมที่ต้องวิพากย์วิจารณ์ แต่หากเรามองกลับกันว่า เราต้องให้ทรัพยากรมนุษย์ที่อยู่ในปัญหาดังกล่าว กลับมาเข้มแข็งเพราะเธอยังสามารถเป็นประชากรที่สร้างสรรค์และมีคุณภาพในสังคมได้ และเคารพการตัดสินใจของผู้หญิงว่านี้คือเรื่องสิทธิในร่างกายของเธอ และ เป็นเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของผู้หญิงที่เราควรใส่ใจ และเปลี่ยนความคิดคนในสังคมให้ได้ 

รวมถึงการค้าประเวณี ผู้หญิง ผู้ชาย หรือ ผู้มีความหลากหลายทางเพศ นั้นถูกกดทับจากสังคม ถูกขูดรีดจากเจ้าหน้าที่รัฐ และถูกเอาเปรียบและเกิดความไม่เท่าเทียมในสังคม ด้วยมายาคติที่ถูกหล่อหลอมในสังคม และเศรษฐกิจที่บีบบังคับทำให้ชีวิตไม่มีทางเลือก ที่มีทางรอดคืออาชีพที่สังคมตีตรา และสิ่งที่แย่ที่สุดเมื่อพวกเขาเหล่านั้นถูกเอาเปรียบจากทางใดทางหนึ่ง ก็ไม่สามารถแจ้งความหรือเอาผิดกับใครได้เพราะนี่คืออาชีพที่ไม่ถูกกฎหมาย และเราต้องยอมรับกันเสียทีว่า พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีนั้น มันไม่ส่งผลใด ๆ ต่อสังคม เพราะยังไงก็ยังมีการค้าประเวณีอยู่ดี และทำให้เกิดการขูดรีดจากเจ้าหน้าที่รัฐ เรายอมรับได้ไหม หรือเราอยากอยู่ในสังคมที่ปิดตาหนึ่งข้าง อยู่ในสังคมที่เชื่อคำพูดสวยหรูและไม่ดูความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น ข่าวตำรวจลงพื้นที่พัทยาและมารายงานว่าไม่พบการค้าประเวณี 
ธัญวัจน์ กล่าว. 

“ในช่วงที่ผ่านมามีการชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง แต่ในการชุมนุมแต่ละครั้งก็มีเสียงของความหลากหลาย เสียงของเจ้าของปัญหาที่เราได้เห็นผ่านตาได้ยินผ่านหู ก็เป็นเรื่องที่เราชาชินอยู่ในสังคมที่ไม่เคยมีการหาทางออก เสียงของกลุ่มผู้หญิงปลดแอก ที่นำเสนอสื่อสารใน 2 ประเด็นนี้ ตนเชื่อว่าเป็นการเปิดพื้นที่ความคิด และความเห็นอกเห็นใจในสังคมที่เราต้องอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพกัน และความเข้าใจกัน" ธัญวัจน์ กล่าว พร้อมเสริมว่า ตนได้เตรียมดำเนินการตั้งคณะอนุกรรมธิการเพื่อศึกษาพิจารณารอบด้านใน 2 ประเด็นดังกล่าว เพื่อหาจุดร่วมและแนวทางการยกร่างเป็นกฎหมายต่อไป และจะดำเนินการต่อทันทีในช่วงปิดสมัยประชุม รวมถึงการจัดงานรับฟังความคิดเห็น การนำเสนอ การประชุมเชิงปฏิบัติการในประเด็นดังกล่าวเพื่อให้การทำงานในคณะอนุกรรมาธิการได้รับข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อการทำงาน โดยในการประชุมช่วงสมัยที่ผ่านมา

นอกจากนี้ธัญวัจน์ยังระบุว่าตนขอยืนยันอีกครั้งว่า ตนเข้าใจดีว่าเรื่องนี้มีความอ่อนไหวมาก คงเป็นความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนอีกเรื่องหนึ่งในสังคมไทย แต่หากไม่เริ่มต้นเพื่อนำไปสู่การพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา เรื่องเหล่านี้จะไม่นำไปสู่การแก้ปัญหา มีแต่คอยกวาดซ่อนไว้ใต้พรมเหมือนที่เป็นมาตลอด สิ่งที่เสนอเป็นมุมมองหนึ่งเท่านั้น แต่เป้าหมายสำคัญคือการเปิดพื้นที่เพื่อยอมรับต่อข้อเท็จจริงที่ปรากฏเพื่อมาพูดคุยกัน ซึ่งธัญวัจน์เชื่อว่านี่คือก้าวสำคัญที่เราจะเปลี่ยนผ่านปัญหาและจะสามารถช่วยเหลือกันอย่างมีความเข้าอกเข้าใจกันได้อีกมากหวังว่าสังคมไทยจะมีโอกาสพูดคุยเรื่องนี้กันด้วยเหตุและผลต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net