แอดมินเพจ "บอดินไม่อินเผด็จการ" ถ่ายภาพสัญลักษณ์ชูสามนิ้วส่งให้ผู้สื่อข่าวระหว่างจัดกิจกรรมนัดหยุดเรียนในวันที่ 28 กันยายน 

เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา กลุ่มบอดินไม่อินเผด็จการได้จัดกิจกรรมแฟลชม๊อบที่หน้าโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนีย์) ภายใต้กิจกรรมชื่อ "ทุบกะลาตาสว่าง" เพื่อเรียกร้องให้หยุดคุกคามนักเรียนนักศึกษา และแก้ไขกฎระเบียบกระทรวงศึกษาธิการที่ล้าหลัง โดยจัดร่วมกับกลุ่มนักเรียนเลว องค์กรนักเรียนอื่น ๆ รวมถึง ครู และนักกิจกรรมด้วย

กิจกรรม "ทุบกะลาตาสว่าง" ในวันดังกล่าวได้มีการจัดกิจกรรมปราศัย ชูสามนิ้ว ผูกโบว์ขาวหน้าประตู และโยนสำเนาจดหมายเข้าไปในรั้วโรงเรียน เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยที่ผู้บริหารโรงเรียนออกคำสั่งให้ปิดการเรียนการสอนในวันที่จะมีการประท้วง ทั้งนี้ จดหมายดังกล่าวเป็นของ รมต. ศึกษาธิการ ที่สั่งให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงออกความคิดเห็นของนักเรียน

หลังจากกิจกรรมดังกล่าว กลุ่มบอดินไม่อินเผด็จการได้จัดกิจกรรมอีกครั้ง โดยนัดหยุดเรียนในวันที่ 28 กันยายน เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยที่โรงเรียนประกาศหยุดเรียนในวันที่มีแฟลชม็อบ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังแอดมินเพจบอดินไม่อินเผด็จการ ได้ความว่าวันที่ 28 กันยายนมีการนัดหยุดเรียนจริงโดย “เอาตามความสะดวกของแต่ละคน”

แอดมินให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าในวันนั้นมีการนัดหยุดเรียน “เยอะพอสมควร” ในระดับชั้น ม.6 “หยุดกันเกือบครึ่งระดับ” ขณะที่ “ในระดับ ม.4 ม.5 พอมีบ้าง ส่วน ม.ต้น ไม่ค่อยมี”

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมว่ามีใครโดนคุกคามอะไรจากการนัดหยุดเรียนหรือไม่ แอดมินระบุว่า “มีครูหลายท่านไม่พอใจ แต่มีพูดประชดนักเรียนนิดหน่อย” โดยเพื่อนที่ไปเรียนในวันดังกล่าวบอกกับแอดมินว่าอาจารย์บางคนพูดประกาศหน้าแถวกับในห้องเรียนทำนองว่าไม่รักโรงเรียน ไม่สำนึกบุญคุณครุ ไม่รู้หน้าที่ แต่ยังไม่มีใครถูกทำโทษร้ายแรง เนื่องจากยังไม่มีใครถูกเรียกเข้าห้องปกครอง

เมื่อถามว่าจะมีการนัดหยุดเรียนแบบนี้อีกหรือไม่ แอดมินตอบว่า “ถ้านัดหยุดรอบหน้า ก็น่าจะพร้อม ๆ กับพี่ ๆ นักศึกษาวันที่ 14 ตุลา” ซึ่งเป็นวันที่คณะประชาชนปลดแอกว่าจะมีการนัดหยุดงาน และนัดหยุดเรียนครั้งใหญ่ เพื่อกดดันเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในรัฐสภา ทั้งนี้ แอดมินฝากทิ้งท้ายว่า “โรงเรียนควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นทางการเมือง”

แฉคลิปครูพูดจาไม่เหมาะสม ตีเด็กนักเรียน ณัฎฐา ช่วยแจ้งความ

หลังจากการพูดคุยกับแอดมินกลุ่มบอดินไม่อินเผด็จการ ได้มีการเปิดเผยคลิปเสียงของครูคนหนึ่งพูดว่า “ไอ้พวกเนรคุณ” “ไอ้พวกเลว” “กเฬวราก” “หมาเห่าใบตองแห้ง” “พ่อแม่ก็สอนมันไม่ได้” “จนปัญญา” “ต่ำทราม” “ต่ำช้า” และมีการบอกด้วยว่า “อย่าเอามาเป็นอารมณ์”  ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวมีความยาวประมาณ 2 นาที

คลิปเสียงหลุด❗️เสียงครูท่านหนึ่งด่านักเรียนในคาบเรียนเกี่ยวกับการชุมนุม #ทุบกะลาตาสว่าง โดยครูระบุไม่ได้ฟังการปราศรัยด้วยตัวเอง แค่ฟังคนอื่นเขาเล่ามา#บอดินไม่อินเผด็จการ pic.twitter.com/TTTflJSa0M

— บอดินไม่อินเผด็จการ (@bodin_democracy) September 29, 2020

นอกจากนี้ ยังมีวิดิโอครูตีเด็กถูกปล่อยออกมาทางเฟสบุ๊คและอินสตาแกรมของกลุ่มบอดิน ฯ ด้วย แต่เป็นการตีเด็กที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมเรียกร้องของนักเรียน ต่อมาคลิปวิดิโอครูตีเด็กนักเรียนถูกลบไป ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา ได้ความว่าวิดิโอดังกล่าวถูกลบโดยเฟสบุ๊ค เนื่องจากเป็นภาพความรุนแรงที่ขัดต่อมาตรฐานของชุมชน แสดงให้เห็นว่าการตีนักเรียนเป็นสิ่งที่สากลไม่ให้การยอมรับ

หลังจากมีการเผยแพร่คลิปต่าง ๆ ดังกล่าว กลุ่มบอดินไม่อินเผด็จการได้โพสต์ว่า “ครูเจ้าของเสียงได้สั่งให้นักเรียนที่อัดเสียงไปขอขมา และจะตัดคะแนนพฤติกรรม 10 คะแนน” พร้อมเรียกร้องให้ครูหยุดการกระทำดังกล่าว

ต่อมา โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมที่ผลักดันเกี่ยวกับสิทธิเด็ก ได้เข้าแจ้งความพร้อมกับตัวแทนนักเรียน เพื่อดำเนินคดีกับครูที่ตีนักเรียน โดยนำส่งหลักฐานเป็นคลิปเสียง คลิปวิดิโอ และภาพมือเด็กที่เป็นรอย ทั้งนี้ ณัฏฐาได้โพสต์ข้อมูลอัพเดตจากทางนักเรียนด้วย ระบุว่าผู้อำนวยการสั่งให้ครูหยุดเอาเรื่องกับเด็กนักเรียนแล้ว

หลังเหตุการณ์แจ้งความ กลุ่มบอดินไม่อินเผด็จการได้โพสต์เอกสารรายงานประจำวันของตำรวจ สน. วังทองหลาง โดยระบุว่าผู้ต้องสงสัยที่ปรากฎในคลิปเสียงและคลิปวิดิโอ ได้แก่ ครูสมร จันทนาคม ซึ่งเป็นครูสอนวิชาภูมิศาสตร์ หมวดสังคม ของโรงเรียนบดินทรเดชา ฯ ทั้งนี้ ตำรวจจะดำเนินการรวบรวมหลักฐานและสอบสวนต่อไป

สมร จันทนาคม ครูผู้ต้องสงสัยว่าใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับนักเรียนที่ออกมาชุมนุม
และตีเด็กนักเรียน ตามที่มีการเผยแพร่คลิปในช่วงที่ผ่านมา

ณัฏฐาโต้ทุกประเด็น หลัง ผอ. บดินทร ออกมาปัด

หลังจากที่มีการแจ้งความ มติชนออนไลน์รายงานว่านายวิสิทธิ์ ใจเถิง ผู้อำนวยการโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้ออกมากล่าวว่าตนทราบเรื่องแล้วและได้เรียกครูมาสอบถาม แต่ปรากฎว่าไม่มีครูคนใดหักคะแนนนักเรียน (ก่อนหน้านี้ ณัฏฐาระบุว่าผู้อำนวยการเป็นผู้สั่งไม่ให้เอาเรื่องเอง หลังจากมีคลิปหลุดออกมาสู่สาธารณชนแล้ว)

นายวิสิทธิ์ยังอ้างด้วยว่าคลิปครูตีนักเรียนมาจากการถ่ายเล่น ๆ และเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดมาจากการที่เด็กไม่ยอมทำการบ้าน ส่วนไม้ที่ใช้ตีเป็นไม้บรรทัดเยลลี่ไม่ได้ทำให้เจ็บมากนัก เหมือนเป็นการลงโทษเชิงสัญลักษณ์ตามข้อตกลง นายวิสิทธิ์อ้างด้วยว่าคลิปหลุดนั้นมาจากการแชร์เล่นภายในกลุ่มเด็ก นำไปสู่ความเข้าใจผิด แต่ผู้ปกครองเข้าใจและไม่ได้จะไปแจ้งความ แต่อย่างไรเสีย จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและนำข้อสรุปมาเปิดเผยอีกครั้ง

ในกรณีที่ณัฎฐาไปแจ้งความนั้น นายวิสิทธิ์ระบุว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ตามสิทธิ แต่ได้ทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่สามารถรับแจ้งความได้ เพราะไม่ใช่ผู้เสียหาย หลังนายวิสิทธิ์ออกมาพูดกับมติชนออนไลน์ ณัฎฐาได้โพสต์เฟสบุ๊คตอบโต้ โดยชี้แจงว่าสิ่งที่ ผอ. วิสิทธิ์ ระบุไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด:

จากการพูดคุยล่าสุดกับผู้สื่อข่าว ณัฏฐาระบุทางโทรศัพท์ว่าตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเรื่องจะจบที่สถานีตำรวจหรือชั้นศาล ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของคดี

เปิดข้อกฎหมายครูตีเด็กนักเรียน

จากการสืบค้นข้อมูลข้อกฎหมายโดยผู้สื่อข่าวพบว่า ครูอาจถูกดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย 2 มาตราด้วยกัน ได้แก่ มาตรา 295 ระบุว่า “ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” สำหรับความผิดฐานทำร้ายร่างกายนั้น การยอมความของผู้เสียหายไม่ส่งผลให้คดียุติ

อีกช่องทางหนึ่งคือการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก ฯ ซึ่งมาตรา 26 ระบุว่า ห้ามมิให้กระทำหรือละเว้นการกระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจเด็ก และมาตรา 78 ที่ระบุว่าผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษ พ.ศ. 2548 ข้อ 6 ยังระบุด้วยว่า “ห้ามลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธหรือด้วยความพยาบาท” วิธีที่อนุญาติให้ใช้ได้มีเพียงการว่ากล่าวตักเตือน การทำทัณบนฑ์ ตัดคะแนนประพฤติ และทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเท่านั้น