Skip to main content
sharethis

'ธนาธร' ชี้ 'ปฏิรูปกองทัพภายใน 100 วัน' ของ 'อภิรัชต์' หลังเหตุกราดยิงโคราช คือการโกหก ปชช. 'รังสิมันต์ โรม' ซัดกองทัพผลาญงบฯ ประเทศชาติ ชี้ ความจำเป็นของการปฏิรูปกองทัพ ย้ำ บริบทกองทัพเปลี่ยนไป เเนะยกเลิกเกณฑ์ทหารคือทางออก

2 ต.ค.2563 เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์ถึง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ.ที่เพิ่งเกษียณอายุ แต่ยังไม่ได้ทำตามสัญญาปฏิรูปกองทัพที่ได้ให้ไว้หลังจากเกิดเหตุกราดยิงโคราช

แกนนำคณะก้าวหน้า ระบุว่า ผ่านมาแล้วกว่า 236 วันแล้วนับจากเหตุการณ์กราดยิงโคราชที่เป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญคนทั้งประเทศ ภายใต้แรงกดดันจากสังคมให้เกิดการปฏิรูปกองทัพ พล.อ.อภิรัชต์ได้ให้สัญญากับประชาชนว่ากองทัพบกจะปฏิรูปกองทัพในหลายเรื่อง จนถึงวันนี้การปฏิรูปกองทัพที่คุณอภิรัชต์สัญญาไว้ ไม่ได้เกิดขึ้นจริง

"ปฏิรูปกองทัพภายใน 100 วันคือการโกหกประชาชน" ธนาธร โพสต์

แกนนำคณะก้าวหน้า ระบุในโพสต์ต่อว่า จนถึงวันนี้การพานิชย์ของกองทัพยังคงดำรงอยู่ โรงแรมและสนามกอล์ฟที่สวนสนปดิพัทธ์ รวมถึงหอประชุมที่เชียงราย ถึงแม้จะให้สัมปทานเอกชนบริหารไปแล้ว แต่ก็เป็นการให้สัปทานโดยไม่มีการประมูลกับกลุ่มดุสิตธานีที่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับกองทัพมาอย่างช้านาน เมื่อตนขอรายละเอียดเอกสารสัญญาในชั้นกรรมาธิการ คุณอภรัชต์ก็รับปากว่าจะให้ แต่ท้ายที่สุด ตนก็ยังไม่ได้เอกสารที่ขอไว้จนถึงวันนี้

สนามมวยที่หมดสัญญาไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก็ไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หรือจะเปิดประมูลใหม่อย่างโปร่งใสหรือไม่ การจัดการการพานิชย์ในกองทัพที่เกี่ยวข้องกับที่ดินทั้งหมดไม่มีการเปิดเผยให้สาธารณะได้รับทราบ ไม่มีการตอบใดๆ ถึงคำถามเกี่ยวกับกิจการสนามม้า ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางของบริษัท อาร์มี่ฟุตบอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่จัดการทีมฟุตบอลของกองทัพบกโดยใช้ทรัพยากรของรัฐ

การซ้อมทรมานกับทหารชั้นผู้น้อยนั้น ธนาธร ระบุว่า ยังดำรงอยู่ ยังมีพลทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างต่อเนื่องหลังจากเหตุการณ์ยิงกราดที่โคราช การทุจริตและประพฤติมิชอบไม่มีการจัดการอย่างเป็นรูปธรรม ทหารชั้นผู้น้อยยังถูกเอาเปรียบและถูกปฏิบัติอย่างไร้ซึ่งสิทธิและศักดิ์ศรี กรณีหมู่อาร์มเป็นตัวอย่างที่ดีว่าผู้ร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรมและกลับถูกคุกคาม

"คุณอภิรัชต์เป็นส่วนหนึ่งของระบอบอภิสิทธิ์ชน และกองทัพเป็นเครื่องมือรักษาอำนาจของคนกลุ่มนี้ การที่คุณอภิรัชต์ไม่ทำตามที่พูดอาจแสดงให้เห็นถึงเจตนาทางชนชั้นว่าไม่ต้องการปรับตัวเปลี่ยนแปลงช แม้ผู้คนจำบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น แต่กลับไม่ได้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของกองทัพภายใต้การนำของคุณอภิรัชต์เลย" ธนาธร โพสต์

'รังสิมันต์ โรม' ย้ำความจำเป็นของการปฏิรูปกองทัพ

วันนี้ (2 ต.ค.63) ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่า รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงความล้มเหลวในการบริหารของกองทัพจากกรณีพลทหารเสียชีวิต ว่า กว่าทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยผ่านการพิสูจน์แล้วว่ากองทัพควรจะยอมรับเสียที่ว่าปฏิบัติการทางการทหาร ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

ก่อนหน้านี้ ผลสำรวจความคิดเห็นสามจังหวัดชายแดนใต้ออกมา ส่วนใหญ่มองว่าทางออกคือการเจรจาสันติวิธี ข้อมูลทั้งหมดในช่วงที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าต้อง #ยกเลิกเกณฑ์ทหาร แต่งบประมาณล่าสุดที่ออกมากลับลดงบเจรจาลง และยังคงมีการเกณฑ์ทหาร เห็นได้ชัดว่าภายใต้คำพูดสวยหรูว่าจะปฏิรูปกองทัพ มันก็เป็นแค่คำหลอกลวง

และข่าวนี้ก็คือผลงานจากความหลอกลวงของพวกบ้าอำนาจที่ไม่รู้จักพอ การยังส่งพลทหารไปและนำมาซึ่งความสูญเสีย คือความสูญเสียของทั้งครอบครัวและประเทศชาติ แต่ความสูญเสียเหล่านี้นั้น มีผู้ที่ได้ประโยชน์อยู่มากมายครับ ทั้งบริษัทอาวุธ เหล่านายพลมากยศมากบารมีทั้งหลาย แลกด้วยชีวิตและความสูญเสียของครอบครัวนับไม่ถ้วน ซึ่งนอกจากจะแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้แล้ว ยังซ้ำเติมให้สาหัสขึ้นไปอีก นอกจากสมานใจไม่ได้แล้ว ยังเติมเชื้อเพลิงความเกลียดชังอีก

และจากกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดขบวนรถยนต์ลำเลียงกำลังพลทหาร กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 เดินทางจากอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มุ่งหน้า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสับเปลี่ยนกำลัง บนถนนหมายเลข 43 สายหาดใหญ่-ปัตตานี บ้านคลองประดู่ หมู่ 4 ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บหลายนาย เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา โดยเมื่อขบวนรถมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดขึ้นแรงระเบิดทำให้รถยนต์บรรทุกขนาด 2 ตัน (FTS) ได้รับความเสียหายเล็กน้อยกำลังพลเสียชีวิต 1 นายบาดเจ็บ 6 นาย

"เมื่อไหร่กองทัพและผู้มีอำนาจ จะสำนึกได้ว่าพวกคุณไม่มีความชอบธรรมจะมาผลาญทั้งงบประมาณ ชีวิต ความสุขและโอกาสของประชาชนทั้งประเทศถึงขนาดนี้"

“เมื่อไหร่ที่ผู้นำกองทัพจะสำนึกถึงความเลือดเย็นของคุณ เพราะคุณรู้อยู่แก่ใจดีว่าปัญหามีทางออก และต้องแก้อย่างไร แต่ที่คุณไม่ทำ เพราะความเห็นแก่ตัวของคุณ" รังสิมันต์ กล่าว

รังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้าย ว่า ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า การจัดการความรุนแรงใน 3 จังหวัดไม่ใช่การตอบโต้กันไปกันมา แต่คือการพัฒนา คือการให้เสรีภาพ และใช้การเจรจาอย่างสันติเพื่อหาทางออกจากความขัดแย้ง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net