Skip to main content
sharethis

หลัง “คณะราษฎรอีสาน” มาจัดเตรียมสถานที่ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตั้งแต่เช้าวันนี้ ช่วงเย็น ตำรวจเข้าจับกุม “ไผ่-แอมมี่” และเพื่อนรวม 21 คน ไปบก.ตชด.ภาค 1 ผู้ชุมนุมบางส่วนจึงแบ่งมวลชนไปทวงถามหาเพื่อนที่ สตช.

13 ต.ค.2563 การชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเริ่มต้นขึ้นแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ โดยมีมวลชนที่เดินทางมาจากอีสานตั้งเต็นท์และจัดเตรียมสถานที่บริเวณด้านหน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและมีการใช้รถเครื่องเสียงทำเป็นเวทีปราศรัยชั่วคราว แต่ยังไม่ทันข้ามวันตำรวจชุดควบคุมฝูงชนก็เข้าจับกุม จตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ The Bottom Blues และยังมีผู้ชุมนุมอื่นๆ ที่ถูกจับกุมอีกรวมแล้ว 21 คน โดยมีการรายงานว่าถูกนำตัวไปที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 (บก.ตชด.ภาค 1)

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานทางทวิตเตอร์ว่าเมื่อเวลา 19.20 น. ทนายความของจตุภัทร บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ขอเข้าพบอีกครั้งแต่เจ้าหน้าที่ด้านหน้าของ บก.ตชด.ภาค 1 ยังคงปฏิเสธและให้ไปคุยกับตำรวจ สน.ท้องที่เกิดเหตุ

ทนายขอเข้าพบครั้งแรกตั้งแต่ 17.50 น. โดยเจ้าหน้าที่ขอจดชื่อทนายความไปผู้บังคับบัญชา แต่กลับได้คำตอบว่าให้เข้าพบไม่ได้แม้ว่าจะเป็นทนายความ

รายชื่อผู้ถูกจับกุม

1. นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน”
2. นายวชิรวิชญ์ ลิมป์รนวงศ์
3.  นายปริญญ์ รอดระหงษ์
4.  นายปวริศ แย้มยิ่ง
5.  นายฐิติสรรค์ ญาณวิกร
6.  นายไชยอมร เเก้ววิบูลพันธุ์ หรือ แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์
7.  นายวันชัย สุธงศา
8. นางสาว วรางคณา แสนคูล
9.  นายนันทพงศ์ ปานมาศ
10.  นายทวีชัย มีมุ่งธรรม
11.  นายเมยาวัฒน์ บึงมุม
12.  นายธนกฤต สุขสมวงศ์
13. นาง เพ็ญศรี เจริญเณรรักษา
14. นางสาว อภิชญา เพิ่มพงษ์พิพัฒน์
15.  นายมุสิด ผิวอ่อน
16.  นายภักดี ศรีรัศอำไพ
17.  นายนวพล ต้นงาม
18.  นายกิตติภูมิ ทะสา
19.  นายทรงพล สนธิรักษ์
20.  นายศศลักษณ์ สุขเจริญ
21.  นายจิรวัฒน์ รูปใหญ่

คณะราษฎรทวงปล่อยเพื่อนต่อที่ สตช.

หลังเกิดการจับกุมผู้ชุมนุม 21 คน ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้ว ทางด้านผู้ชุมนุมนัดรวมตัวกันใหม่ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพเพื่อที่จะเดินไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เรียกร้องให้ตำรวจปล่อยตัวทั้ง 21 คน 

17.30 น. ในขณะที่ขบวนผู้ชุมนุมด้านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเริ่มออกเดิน ทางด้านสกายวอล์คหน้าหอศิลปฯ ผู้ชุมนุมเริ่มรวมตัวกันโดยมีพริษฐ์ ชิวารักษ์ ประกาศระดมคนเพื่อเดินไป สตช. ไปด้วยเช่นกัน โดยมีการตะโกน "หยุดคุกคามประชาชน" เป็นระยะ

จากนั้นเวลาประมาณ 18.30 น. พริษฐ์นำมวลชนออกเดินไปที่ สตช. โดยระหว่างการเดินบวนได้ตะโกน "ตำรวจต้องรับใช้ประชาชน" และ "หยุดคุกคามประชาชน" ไปตลอดทาง ส่วนมวลชนที่เดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยยังคงเดินไม่ถึง

ผู้ชุมนุมบริเวณลานสกายวอล์คหน้าหอศิลปฯ ก่อนออกเดิน


สกายวอล์คช่วงสถานีรถไฟฟ้าสยามถึงสถานีชิดลมมีการกั้นแนวและวางกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนไว้

ประมาณ 20 นาทีต่อมา ขบวนผู้ชุมนุมเดินถึง สตช. โดยบริเวณด้านหน้ามีการวางแนวตำรวจและนำรั้วกั้นประตูทางเข้าและป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกชั้น ส่วนทางด้านผู้ชุมนุมก็ตะโกนเรียกร้องให้ปล่อยผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมไป และพริษฐ์เจรจาให้ตำรวจกลับเข้าไปในพื้นที่ด้านในของ สตช.เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้ชุมนุมสามารถขึ้นไปบนบาทวิถีได้ เนื่องจากไม่มีที่ยืนและต้องกีดขวางการจราจร

ผู้ชุมนุมบนสกายวอล์คชูสามนิ้ว

ผู้ชุมนุมสาดสีไปที่ป้ายของ สตช. ทำให้เกิดความชุลมุนขึ้นเล็กน้อย

20.45 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ชุมนุมประกาศยุติการชุมนุมบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจ พร้อมนัดหมายชุมนุมวันพรุ่งนี้ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 14.00 น. ขณะที่ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยินยอมออกมาชี้แจงกรณีคุมตัวผู้ชุมนุมเมื่อเย็นวันนี้ตามประสงค์ของผู้ชุมนุม

ตร.จับ 'คณะราษฎรอีสาน' 21 คน ส่ง ตชด.ภาค 1

การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เวลาประมาณ 15.45 น. ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนหลายร้อยนาย พยายามเข้ารุมล้อมรถเครื่องเสียงจากทุกด้านและทยอยเข้าจับกุมผู้ชุมนุมไปทีละคน จตุภัทรกล่าวปราศรัยโดยอ่านกวีของ “วิสา คัญทัพ” จนกระทั่งจตุภัทรก็ถูกจับกุมไปด้วยในภายหลัง

ทั้งสองภาพเป็นเหตุการณ์ขณะตำรวจชุดคุมฝูงชนเข้าจับกุม ภาพโดย กันต์ แสงทอง

นอกจากนั้นการจับกุมผู้ชุมนุมแล้วเจ้าหน้าที่เทศกิจยังเข้ารื้อเต็นท์ที่ตั้งอยู่หน้าร้านแมคโดนัลด์ด้วย

ก่อนเกิดการจับกุม The Reporters รายงานว่าจตุภัทรได้ประกาศว่าจะมีการทำกิจกรรมชูสามนิ้วในขณะที่มีขบวนเสด็จผ่าน ตำรวจจากสน.สำรายราษฎร์ได้เข้าเจรจาให้ยุติการชุมนุมแล้วสลายตัวไป อีกทั้งเป็นการมิบังควรในขณะที่ขบวนเสด็จผ่าน โดยจตุภัทรยืนยันว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะแสดงออกและปักหลักชุมนุมต่อ ทั้งนี้ตำรวจก็ประกาศให้ผู้ชุมนุมกลับขึ้นไปอยู่บนบาทวิถีและไม่ลงมาที่พื้นผิวการจราจรด้วยไปตลอดด้วย

เมื่อเหตุชุลมุนดำเนินไปราว 30 นาที เมื่อการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ยุติลง ทางด้านผู้ชุมนุมได้ประกาศว่าจะเดินทางไปรวมตัวกันที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ เพื่อรวมตัวกันใหม่ เนื่องจากผู้ที่จะมาร่วมชุมนุมเดินทางได้สะดวกกว่าและเดินทางไปทวงถามถึงการจับกุมเพื่อนร่วมการชุมนุมว่าจะนำตัวไปที่ใด

ทั้งนี้จากเฟซบุ๊กชื่อ นันทพงศ์ ปานมาศ แจ้งว่าผู้ที่ถูกจับกุมมีทั้งหมด 21 คนในขณะนี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปควบคุมตัวไว้ที่ บก.ตชด.ภาค 1 อ.คลองหลวง ปทุมธานี ทั้งนี้ 18.10 น. ผู้สื่อข่าวยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าทั้ง 21 คนมีบุคคลใดบ้างนอกจากจตุภัทร แอมมี่และนันทพงศ์ เจ้าของโพสต์นี้

17.32 น. มีรายงานว่า ขณะที่ขบวนเสด็จฯ ผ่านบริเวณถนนราชดำเนิน อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่ง ได้ชูสามนิ้ว แล้วยืนสงบนิ่ง พร้อมกับกล่าวคำว่า "เอาเพื่อนเราคืนมา" โดยมี จนท.ตำรวจรักษาความปลอดภัยโดยรอบ (ภาพจากช่างภาพนิรนาม)

ตำรวจอ้างไม่แจ้งจัดชุมนุม ฝ่าฝืนพ.ร.บ.ชุมนุมฯ แจ้ง 8 ข้อหา

แนวหน้ารายงานว่า วันนี้(13ต.ค.63) พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า มีการควบคุมตัวแกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมนุมสาธารณะฯ ไม่มีการแจ้งการชุมนุมต่อเจ้าพนักงาน และมีการกระทำความผิดกฎหมายในฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ฝากขอความร่วมมือให้ผู้ชุมนุมปฎิบัติตนตามกรอบของกฎหมาย ไม่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฎิบัติหน้าที่โดยใช้หลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ควบคู่กันไป เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับสังคม

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เจรจาขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมกลับขึ้นไปชุมนุมบนทางเท้าบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หน้า รร.สตรีวิทยา แต่การเจรจาไม่เป็นผล และเกิดการปะทะกันเล็กน้อย กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. ตำรวจเข้าจับกุมนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน บนรถปราศรัย

เพจเฟซบุ๊ก โปลิศไทยแลนด์ ระบุว่า ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดี 8 ข้อหา ได้แก่ 1.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ป.อาญา มาตรา 368 จำ 10 วัน ปรับ 5,000 2.มั่วสุม 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวาย ป.อาญา มาตรา 215 3.กีดขวางจราจร พรบ.ทางบก มาตรา 114+148 ปรับ 500 4.กีดขวางขยะ พรบ.ความสะอาด 19,39,40,32 5.สาดสีลงพื้นถนน พรบ.ความสะอาด มาตรา 12 6.กีดขวาง ป.อาญา มาตรา 385 ปรับ 5,000 7.สาดสีใส่ เจ้าหน้าที่ทำให้เสียทรัพย์ ป.อาญา มาตรา 358 และ 8.ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต พรบ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 มาตรา 4 และ 9

 

เพิ่มข้อมูลเวลา 21.30 น. 13 ต.ค.2563

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net