Skip to main content
sharethis

อัพเดทล่าสุดเวลา 18.00 น. วันที่ 14 ต.ค.63

รื้อสวน ยึดคืนพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

13.25 น. แกนนำคณะราษฎร ได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมเดินหน้าเข้าไปรื้อรั้วแผงเหล็กที่ปิดกั้นพื้นที่บริเวณฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยออก พร้อมให้รื้อสวนที่ กทม. จัดไว้ บริเวณดังกล่าวด้วย โดยระบุว่า นี่คือการทวงคืนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยให้เป็นของประชาชน

ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า ระหว่างที่กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ารื้อสวนนั้น กลุ่มคนเสื้อเหลืองหลายสิบคนได้วิ่งกรูกันเข้ามาเพื่อจะทำร้ายร่างกายกลุ่มผู้ชุมนุม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนสามารถสกัดไว้ได้ทัน อย่างไรก็ตามกลุ่มคนเสื้อเหลืองได้ของปาสิ่งของเข้ามาทางกลุ่มผู้ชุมนุม จากนั้นมีการปากลับไป แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถหยุดเหตุการณ์ไว้ได้

ด้านภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง ให้สัมภาษณ์สื่อ หลังพามวลชน เข้ารื้อสวนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยว่า การที่เรานำต้นไม้ออกคือ การแสดงให้เห็นว่าพวกเราต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง และต้องการให้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกลับมามีความหมายอีกครั้งหนึ่ง

ภาณุพงศ์ ระบุด้วยว่า จากนี้จะเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องดูกันต่อไปว่าประชาชน กับเจ้าหน้าที่ของรัฐใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน ใครจะเป็นเจ้าของประเทศตัวจริง และการที่เจ้าหน้าที่รับปิดกั้นไม่ให้เราชุมนุม ถือว่าเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาลต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก หากเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชุมนุม

ภาณุพงศ์ กล่าวถึงเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อเหลืองด้วยว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการยั่วยุ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมเองชุมนุมมาหลายครั้ง ไม่เคยมีความวุนวายเกิดขึ้น แต่ครั้งนี้มีการปลุกระดมข้าราชการให้ออกมา บังคับให้ใส่เสื้อเหลือง โดยที่ข้าราชการหลายคนไม่ต้องการมา แต่มีบางคนบอกว่าหลังจากหมดเวลาที่ถูกเรียกมาแล้ว จะถอดเสื้อออกแล้วมาอยู่กับฝั่งผู้ชุมนุม

เคลื่อนขบวนสู่ทำเนียบ เตรียมปักหลักค้างคืน ไล่ประยุทธ์ลงจากเก้านายกฯ ด้าน ตร. ปิดแยกผ่านฟ้าแล้ว

14.26 น. มีรายงานว่า แกนนำคณะราษฎร ประกาศเคลื่อนขบวนสู่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมเตรียมปักหลักค้างคืน โดยมีการขอให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนอย่างสันติ หากมีกลุ่มคนเสื้อเหลืองตะโกนด่า ก็ขอให้ตอบโต้ด้วยการชูสามนิ้วและเดินหน้าต่อไป

สำหรับเส้นทางที่ใช้ในการเคลื่อนขบวนที่ทางแกนนำประกาศคือ เดินมุ่งหน้าสู่แยกผ่านฟ้า และตรงไปยังแยกมัฆวานรังสรรค์ จากนั้นจะเลี้ยวขวาไปยังสะพานสะพานชมัยมรุเชฐ แต่เมื่อเดินทางไปถึงแยกผ่านฟ้า พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรึงกำลังปิดกั้นเส้นทางที่มุ่งตรงไปยังแยกมัฆวานแล้ว ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงเปลี่ยนเส้นทางไปยังถนนนครสวรรค์แทน ทั้งนี้ก่อนหน้าที่จะเคลื่อนตัวต่อไปกลุ่มผู้ชุมนุมได้หยุดอยู่หน้าแผงกั้นของเจ้าหน้าที่ ชูสามนิ้วและตะโกนให้เจ้าหน้าที่เปิดทาง 

มีรายงานด้วยว่า 14.59 ขบวนได้เคลื่อนไปยังถนนนครสวรรค์ โดยมีรถเครื่องเสียงนำขบวน นอกจากนี้ประชาชนได้ทำการพ่นสีบนถนนนครสวรรค์ เป็นข้อความว่า 'ถนนราษฎร์ดำเนิน' และ 'ศักดินาจงพินาศ'

นอกจากนี้บรรยากาศระหว่างเคลื่อนขบวนสู่ถนนนครสวรรค์ของคณะราษฎร มีประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นออกจากบ้านมาชูสามนิ้วสนับสนุนการต่อสู้ของคณะราษฎรด้วย

15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ยอมเปิดทางบริเวณ สะพานเทวกรรมรังรักษ์ เพื่อให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนต่อไปยังทำเนียบรัฐบาลได้ ทั้งนี้มีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมเล็กน้อยจากการผลักดันรั้วเหล็ก แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ทั้งนี้เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณ แยกนางเลิ้ง ก่อนถึงสนามนางเลิ้งซึ่งถูกรื้อทิ้งไปแล้ว พบว่า มีด่านสกัดอีกหนึ่งชั้น โดยเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชนได้นำรถบัสมาจอดขวางขบวน พร้อมทั้งตรึงกำลังกั้นแผงเหล็กไว้

มีรายงานด้วยว่า แกนนำคณะราษฎรได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมทั้งหมดที่มาถึงบริเวณนี้แล้วนั่งรอก่อน เนื่องจากท้ายขบวนยังออกมาเดินออกจากบริเวณแยกผ่านฟ้าไม่หมด

เวลาประมาณ 15.44 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ช่วยกันย้ายต้นไม้บริเวณรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมาไว้ที่ทางเท้า แล้วเดินขบวนไปทำเนียบรัฐบาบ เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมกำลังขนต้นไม้กลับไปวางที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยดังเดิมจนแล้วเสร็จ

16.30 น. แกนนำคณะราษฎรเข้าเจรจาขอให้ ตร. เปิดเส้นทางบริเวณแยกนางเลิ้ง เวลานี้ผ่านไป 30 กว่านาทีแล้ว ตร. ยังไม่ยอมเปิดเส้นทาง นอกจากนี้มีรายงานว่าบริเวณท้ายขบวนมี ตร. นำแผงเหล็กไปกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมที่เพิ่งเดินทางมา เข้ามารวมกลุ่มในขบวนได้ โดยเวลานี้ทางกลุ่มแกนนำกำลังเข้าไปเจรจา

17.24 น. ผู้ชุมนุมยังคงปักหลักหน้าแยกนางเลิ้ง ที่ตำรวจยังคงตรึงกำลัง ตั้งรั้วและจอดรถบัสขวางไว้ 

17.30 น. ทวิตเตอร์มีผู้เผยแพร่คลิปสั้นมีผู้ชู 3 นิ้ว ขณะที่มีขวบวนเสด็จผ่านด้านหน้าทำเนียบฯ 

17.31 น. ที่แยกนางเลิง หน้าถนนนครสวรรค์ 16 ผู้ชุมนุมคณะราษฎร เดินฝ่าแนวกั้น ทำให้แนวกั้นของตำรวจ ไม่พบผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อเหลือง

17.50 น. ผู้ชุมนุมคณะราษฎรเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพิษณุโลก มุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล ถึงสะพานชมัยมรุเชฐ

17.55 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแนวหน้าของผู้ชุมนุมอีกประมาณ 50 เมตร ถึงรั้วหน้าทำเนียบรัฐบาล

18.00 น. ด้านหน้าของกลุ่มผู้ชุมนุมถึงบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาลแล้ว ต่อมา 18.20 น. รถเครื่องเสียงเคลื่อนที่ขบวนตอนกลาง เดินหน้าเข้าพื้นที่หน้าทำเนียบ แกนนำกล่าวว่า เราประสบความสำเร็จแล้วในการมาเยือนทำเนียบรัฐบาล ในขณะที่มวลชนชู 3 นิ้วหลั่งไหลเข้าพื้นที่หน้าทำเนียบอย่างไม่ขาดสาย

สัมภาษณ์กลุ่มผู้ชุมนุม

อดีต พญ.สุพัตตรา สิทธิราชา อายุ 82 ปี ระบุเข้าร่วมชุมนุมเพราะอยากมาให้กำลังใจเด็กๆ และอยากเห็นประเทศที่ดีขึ้นกว่าเดิม

“ป้ามาตั้งแต่ก่อนปี 49 ตอนที่มีชุมนุมก็พยายามมาทุกครั้ง เพราะอายุเรามากแล้วอยากจะสัมผัสว่าเด็กเขาคิดอะไรยังไง และเราก็อยากจะมาให้กำลังใจเด็ก เราชื่นชมที่เขามีความกล้า ปัญญาเขาแหลมคมมาก

ที่มาร่วมชุมนุมเพราะเราไม่ค่อยจะชอบความอยุติธรรม ไม่ชอบความเหลื่อมล้ำอยู่แล้ว แล้วบางครั้งการปกครอง ทัศนคติ ทัศนวิสัยของผู้นำเราก็อยากให้เทียบเท่าต่างประเทศบ้าง หรือถ้าไม่เทียบกับต่างประเทศเราก็อยากให้เป็นของตัวเอง หรือว่าอยากให้สามารถนำประเทศ ไม่เฉพาะคนข้างบนแต่รวมถึงคนข้างล่าง ชนชั้นกลางต่างๆ ให้เขาสามารถลืมตาอ้าปาก เขาจะต้องมีโอกาส มีสวัสดิการที่ดีกว่านี้ มันเหลื่อมล้ำมากเกินไปจนเขาอยู่ไม่ได้”

ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดยังไงที่ฝั่งตรงข้ามเขาบอกว่ารัฐบาลทำดีแล้ว เธอตอบว่า

“ก็ช่างเขาสิ มันเป็นความคิดของเขา ทุกคนสามารถมีความคิดได้ มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่เขาได้รับข้อมูลมา หรืออย่างบางทีดูสื่อข้างเดียว แล้วก็ความในใจลึกๆ ที่เราถูกปลูกผังมาตลอดถูกย้ำมาตลอด มันก็มีผลในการตัดสินใจ อันนี้เราเคารพความคิดเห็น คนเห็นต่างก็อยู่กันได้ เพียงแต่เราไม่อยากให้เขาเอาข้อนี้มาหาว่าเราชังชาติ หนักแผ่นดินบ้าง เมาบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง อันนี้เราว่ามันไม่ถูก แล้วก็มาดูถูกเด็กๆ ว่าไม่รู้เรื่องมันไม่ได้ ถ้าเขาเปิดใจนะ ได้มาสัมผัสจะเห็นว่าสติปัญญาพวกเขามันเกินรุ่นป้าไปมากๆ เวลามาเราได้สัมผัสบรรยากาศก็ทำให้เรามีพลังงานเพิ่มขึ้น มีกำลังใจเพิ่มขึ้นด้วย”

เมื่อถามว่ากังวลไหมที่มีการจัดม็อบข้างๆ กัน เธอตอบว่า

“สำหรับพวกเราไม่กังวลอะไรเลย เพราะเรามาแบบบริสุทธ์ใจ เราไม่ได้จะเป็นศัตรูอะไรกับใคร แต่ว่ากลุ่มนั้นอาจจะเกณฑ์มาเราเข้าใจ เป็นข้าราชการบ้างอะไรบ้าง เราเข้าใจแล้วเราก็ยอมรับ แต่เราก็สามารถชุมนุมไปด้วยกันได้ แล้วอย่ามาสร้างความเกลียดชัง มันทำให้เราคนไทยเดิมทีแทนที่จะรักกัน เป็นเพื่อนกัน เป็นพี่น้องกัน แต่พอมีอย่างนี้เข้ามาทำให้เข้าหน้ากันไม่ได้ ซึ่งมันไม่ควร”

“ฝากถึงทุกคนที่รักความเป็นธรรมเปิดใจให้กว้างๆ แล้วก็ศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนที่จะวิจารณ์อะไรออกไป เพราะว่าตอนนี้ประเทศเราต้องการความสามัคคี ตอนนี้ประเทศไทยวิกฤติทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ศาสนา ทุกอย่าง”

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net