ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง คดีผู้ว่าอุบลฯ ฟ้องหมิ่นประมาท ผู้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการสั่งปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล

ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง คดีที่ผู้ว่าอุบลฯ ฟ้องหมิ่นประมาท พร้อม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ 'กฤษกร ศิลารักษ์' (ป้าย ปากมูล) จากกรณีการโพสต์ข้อความแสดงความเห็นเกี่ยวกับการสั่งปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล


กฤษกร ศิลารักษ์ | แฟ้มภาพประชาไท

เพจ Human Rights Lawyers Association รายงานว่าเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563 ศาลอุทธรณ์ อ่านคำพิพากษาคดี ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดอุบลราชธานี โจทก์ โดยนายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้กล่าวหาและร้องทุกข์ กับ นายกฤษกร ศิลารักษ์ จำเลย ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงฯ ข้อหาหมิ่นประมาทและดูหมิ่นผู้อื่นโดยการโฆษณา

จากกรณีการโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นพร้อมรูปภาพบนเฟสบุ๊คส่วนตัวเพื่อคัดค้านการประชุมของอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำเขื่อนปากมูลและไม่เห็นด้วยกับการสั่งปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลของผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯ

ในคดีนี้ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยว่า กรณีที่มีการสั่งปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล จนทำให้จำเลยกับพวกไม่สบายใจและไม่สามารถจัดพิธีสู่ขวัญปลาเรียกปลาเข้าวังซึ่งเป็นพิธีสำคัญ จำเลยจึงได้เผยแพร่ข้อความเพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจ อันเป็นเพียงการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ว่าจำเลยคัดค้านต่อต้านการประชุมของอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำเขื่อนปากมูลและไม่เห็นด้วยกับการปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2560

ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ข้อความของจำเลยในโพสต์ ที่ระบุว่า “ลอยอังคาร ” ผู้ว่าอุบลฯ มีความหมายเพียงว่าให้มาร่วมลอยอังคารผู้เสียหายกรณี ปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล เท่านั้น ซึ่งเป็นเพียงถ้อยคำในลักษณะเปรียบเทียบในเชิงประชดประชันอันไม่สุภาพและไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่มิได้มีความหมายเกินเลยไปถึงขนาดว่าผู้เสียหายถึงแก่ความตาย จึงให้มาร่วมกันลอยอังคารลอยอังคาร

อีกทั้งในกรณีนี้ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ผู้เสียหายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะข้อความดังกล่าวไม่ได้เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่า ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีปฏิบัติหน้าที่มิชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตในการสั่งการให้มีการปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูล โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนและผู้เสียหายได้ถึงแก่ความตายไปแล้ว ดังนั้น การกระทำของจำเลยในส่วนนี้จึงไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาทและดูหมิ่นผู้เสียหายโดยการโฆษณา ตามที่โจทย์กล่าวอ้าง

กรณีที่ศาลชั้นต้นมีความพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จและเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ หมิ่นประมาทและดูหมิ่นผู้อื่นโดยการโฆษณานั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษา “ยกฟ้อง”

ภูมิหลังคดี

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ 28 ต.ค. 2560 นายกฤษกร ศิลารักษ์ ผู้เป็นจำเลย ได้โพสต์ข้อความเฟสบุ๊ค โดยพิมพ์ข้อความแสดงความคิดเห็นว่า ในกรณีเปิด-ปิดเขื่อนปากมูล ที่หน่วยงานราชการจังหวัดอุบลราชธานีได้มีหนังสือ เรียกประชุมอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำเขื่อนปากมูล ซึ่งในขณะนั้นมีปริมาณน้ำมากมายมหาศาลที่เขื่อนอุบลรัตน์ ระบายลงจนท่วมจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และไหลลงสู่แม่น้ำชี และต่อมาจะไหลเข้าสู่จังหวัดอุบลฯ และประกอบกับปริมาณน้ำในลำน้ำมูล มีปริมาณมากกำลังเอ่อท่วมจังหวัดศรีษะเกษก็กำลังไหลเข้าสู่ตัวเมืองอุบลฯ

ซึ่งนายกฤษกร เห็นว่าหากมีการปิดประตูเขื่อนปากมูล จะทำให้มวลน้ำเหล่านี้ท่วมเมืองอุบลฯเพราะไม่สามารถไหลลงสู่แม่น้ำโขงได้ นายกฤษกรจึงได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็น พร้อมกับลงรูปภาพ บน Facebook ส่วนตัว ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะ โดยในข้อความนั้น นายกฤษกรได้ใช้คำว่า "ลอยอังคาร ผู้ว่าฯ"

ต่อมาโจทก์เห็นว่า การโพสต์ข้อความดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ ทำให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ซึ่งนายสฤษดิ์ ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีและในฐานะประธานอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำเขื่อนปากมูล ผู้เสียหาย เป็นผู้ดำเนินการปฏิบัติหน้าที่ ได้กล่าวว่าข้อมูลที่จำเลยกล่าวเป็นข้อมูลอันเป็นความเท็จจึงได้แจ้งความดำเนินคดีต่อนายกฤษกร ศิลารักษ์ ในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงฯ ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 25550 มาตรา 3 และ มาตรา 14 ข้อหาหมิ่นประมาทและดูหมิ่นผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 326, 328, 384 และมาตรา 393

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://naksit.net/2019/06/slapps_12122/

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท