Skip to main content
sharethis

ตำรวจแถลงจะมีการปิดการจราจร 2 สถานที่ คือ บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และที่แยกอโศก-เพชรบุรี การปิดการจราจรพื้นราบจะพิจารณาปิดตามสถานการณ์จริงเท่านั้น เลือกปิดเส้นทางดังกล่าวเป็นเพียงสมมติฐานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมอาจมีการชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนสถานีรถไฟฟ้า BTS จะปิดให้บริการรวม 14 สถานี ตั้งแต่สถานีอารีย์ถึงสถานีพร้อมพงษ์


ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย

17 ต.ค. 2563 สำนักข่าวไทย รายงานว่าพลตำรวจตรียิ่งยศ เทพจำนง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าการปฏิบัติการเมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) เป็นไปตามหลักสากล มีการเผยแพร่คำเตือนแล้วทั้งในพื้นที่และผ่านทางสื่อมวลชน ยืนยันว่าไม่ต้องการใช้กำลัง และไม่มีการใช้อาวุธรุนแรงในการสลายการชุมนุม โดยใช้รถฉีดน้ำซึ่งเป็นแบบแรงดันเบา ผสมสารเคมี ซึ่งตามหลักสากลระบุว่าเหมาะต่อการใช้ควบคุมสถานการณ์ เพื่อระงับยับยั้งเหตุความรุนแรง ส่วนสารเคมีที่ผสมในน้ำ มีอาการข้างเคียงแค่ระคายเคืองเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต หากวันนี้ (17 ต.ค.) ยังมีการชุมนุมอีก ก็จะปฏิบัติเป็นขั้นเป็นตอน ขอย้ำว่าการชุมนุมในเวลานี้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย พร้อมเตือนเรื่องการทำลายระบบขนส่งมวลชน ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายร้ายแรง

ด้านพลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่าในการดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุม จำเป็นต้องมีการปิดการจราจรผ่านระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ โดยสถานีรถไฟฟ้า BTS จะปิดให้บริการรวม 14 สถานี ตั้งแต่สถานีอารีย์ถึงสถานีพร้อมพงษ์ และสถานีสนามกีฬาแห่งชาติถึงสถานีศาลาแดง ซึ่งจะเริ่มปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 14.00 น.ที่สถานีอารีย์ สนามเป้า อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พญาไท ราชเทวี สยาม ชิดลมเพลินจิต นานา อโศก พร้อมพงษ์ สนามกีฬาแห่งชาติ ราชดำริ ศาลาแดง ส่วนสถานีรถไฟใต้ดินมีการปิดให้บริการเส้นทางสายสีน้ำเงินทั้งสาย ตั้งแต่เวลา 12.30 น. ส่วนสายสีม่วงยังให้บริการได้ตามปกติ ส่วนสถานีแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ จะปิดแค่สถานีพญาไทเท่านั้น

ส่วนการจราจรพื้นราบ จะมีการปิดการจราจร 2 สถานที่ คือ บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และที่แยกอโศก-เพชรบุรี การปิดการจราจรพื้นราบจะพิจารณาปิดตามสถานการณ์จริงเท่านั้น ส่วนผู้ที่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลใกล้จุดที่มีการปิดการจราจร ได้กำหนดเส้นทางเลี่ยงให้เข้าไปบริเวณด้านหลังของโรงพยาบาลแทนแล้ว ส่วนการใช้ทางด่วนลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยังสามารถใช้การได้ แต่จะไม่สามารถเข้าไปในวงเวียนได้หากมีการปิดการจราจรไปแล้ว จึงแนะนำประชาชนที่ต้องเดินทางผ่าน 2 จุดนี้ ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น หรือตรวจสอบเส้นทาง ก่อนออกเดินทาง

พลตำรวจตรีจิรสันต์ กล่าวต่อว่า การเลือกปิดเส้นทางดังกล่าวเป็นเพียงสมมติฐานว่ากลุ่มผู้ชุมนุมอาจมีการชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าว แต่หากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงก็จะปรับเปลี่ยนวิธีการต่อไป พร้อมย้ำว่าจะมีการจัดการจราจรเพื่อลดผลกระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด

ด้านตัวแทนโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งรับตำรวจมาดูแลรักษาพยาบาลแล้ว 5 นาย จากการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 1 นาย และวันที่ 16 ต.ค. อีก 4 นาย ส่วนประชาชนได้กระจายไปรักษาตามโรงพยาบาลต่าง ๆ รวม 3 คน ทั้งหมดแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว ส่วนเรื่องสารเคมีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าเป็นแก๊สน้ำตาหรือไม่ ยอมรับว่า ยังไม่ทราบว่าเป็นสารเคมีชนิดใด ขอเวลาตรวจสอบก่อน ทราบแต่ว่าเป็นสารเคมีที่ใช้ในการควบคุมฝูงชนทั่วโลก ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต หลังจากนี้อาจให้เจ้าหน้าที่เทคนิคชี้แจงรายละเอียดเรื่องนี้อีกครั้ง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net