ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการของนิวซีแลนด์ออกมาว่า จาซินดา อาร์เดิร์น จากพรรคแรงงานได้เป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยที่ 2 โดยที่พรรคแรงงานได้รับคะแนนเสียงมากขึ้นกว่าเดิมจากครั้งก่อนหน้านี้ มีการวิเคราะห์ว่าเพราะมีกระแสความนิยมในตัวเธอสูงขึ้นโดยเฉพาะหลังนิวซีแลนด์ฝ่าวิกฤต COVID-19 ได้โดยที่เศรษฐกิจไม่ได้พังพาบ แต่ขณะเดียวกันการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองก็มีเรื่องท้าทายจากสัญญานโยบายเดิมในบางเรื่องที่ยังทำไม่สำเร็จ

จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ | แฟ้มภาพ

จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีหญิงนิวซีแลนด์ชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ในผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2563 โดยหลังจากมีการนับคะแนนไปแล้วร้อยละ 98.5 พบว่าพรรคแรงงานนิวซีแลนด์ซึ่งเป็นพรรคซ้ายกลางชนะคะแนนโหวตร้อยละ 49 เทียบเท่าที่นั่งในสภา 64 ที่นั่งจากทั้งหมด 120 ที่นั่ง ขณะที่พรรคอันดับที่สองฝ่ายขวากลางคือพรรคเนชันแนลได้รับคะแนนโหวตอย่างน้อยร้อยละ 26.9 เทียบเท่ากับ 35 ที่นั่ง

ทั้งนี้ในผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการยังระบุอีกว่ามีพรรคฝ่ายขวากลางอีกพรรคหนึ่งคือพรรค ACT คว้าไปอย่างน้อย 10 ที่นั่งเท่ากับพรรคฝ่ายซ้ายคือพรรคกรีนคว้าไปอย่างน้อย 10 ที่นั่งเช่นกัน ขณะที่พรรคเมารีซึ่งเป็นพรรคของกลุ่มชนพื้นเมืองชนะอย่างน้อย 1 ที่นั่ง

อาร์เดิร์นให้สุนทรพจน์ในการชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า "ในค่ำคืนนี้ นิวซีแลนด์ได้แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนพรรคแรงงานอย่างยอดเยี่ยมที่สุดในช่วงตลอดระยะเวลาอย่างน้อย 50 ปี"

สื่อซีเอ็นเอ็นระบุว่าในนิวซีแลนด์มักจะมีลักษณะของการหาพรรคแนวร่วมเพื่อจัดตั้งรัฐบาลเพราะไม่เคยมีพรรคใดเลยที่ชนะเสียงข้างมากเกินครึ่ง ทั้งนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคหลักที่ขับเคี่ยวกับพรรคแรงงานคือพรรคเนชันแนลได้รับคะแนนเสียงน้อยลงกว่าเดิมในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาคือร้อยละ 44 ซึ่ง จูดิธ คอลลินส์ หัวหน้าพรรคเนชันแนลกล่าวยอมแพ้ให้กับอาร์เดิร์นและแสดงความยินดีกับเธอว่า "ผลคะแนนยอดเยี่ยม"

ผลการนับคะแนนของนิวซีแลนด์จะประกาศอีกครั้งอย่างเป็นทางการในอีก 3 สัปดาห์หลังจากนี้ หลังจากื่มีการนับผลจากชาวนิวซีแลนด์ที่อาศัยอยู่นอกประเทศแล้ว

มีการตั้งข้อสังเกตอึกว่าทั้งพรรคแรงงานและพรรคกรีนของนิวซีแลนด์ทำได้ดีขึ้นทั้งคู่เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งในคราวที่แล้ว ส่วนพรรคฝ่ายขวาคือ ACT ก็ได้คะแนนเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

มีสื่อต่างประเทศบางส่วนวิเคราะห์ประเมินว่าอาร์เดิร์นมีโอกาสสูงมากอยู่แล้วที่จะชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 จากกระแสที่เรียกว่า Jacindamania (ความคลั่งไคล้จาซินดา) จากการที่เธอสามารถแก้ไขปัญหา COVID-19 ได้กีทำให้มีภาพลักษณ์ของผู้นำที่มีประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่าจะสูญเสียความเชื่อมั่นไปบ้างหลังจากที่โอ๊คแลนด์กลับมาเกิดการระบาดอีกครั้ง แต่ก็ยังมีคะแนนนิยมในโพลมากกว่าผู้นำฝ่ายพรรคเนชันแนล นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าในการเลือกตั้งล่าสุดนี้มีคนใช้สิทธิเลือกตั้วแบบล่วงหน้ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์

นักรัฐศาสตร์จอร์จินา เมอร์เรย์ บอกว่าถึงแม้ปกติแล้วเธอจะลงคะแนนให้กับพรรคแรงงานนิวซีแลนด์แต่ในครั้งนี้เธอลงคะแนนล่วงหน้าให้พรรคกรีน เพราะหวังว่าจะ "ทำให้พรรคแรงงานมีความซื่อตรงต่อไป" เธอบอกว่าเธอชื่นชมอารเดิร์นในแง่ที่เป็นผู้นำสิทธิสตรี ประณามการเหยียดเชื้อชาติสีผิวอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะ ดูเป็นคนที่ "อบอุ่น" และทำให้คนมองเห็นความเป็นผู้นำในรูปแบบใหม่

อย่างไรก็ตามนักวิจารณ์การเมืองอีกคนหนึ่งคือ เบน โทมัส ก็บอกว่าถึงแม้จาซินดาจะชนะใจชาวนิวซีแลนด์ได้ในหลายๆ ด้านแต่ชาวนิวซีแลนด์หลายคนก็ยังไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามที่สัญญาได้ เช่น เรื่องสัญญาที่เธอให้ไว้เกี่ยวกับการยกระดับเด็กออกจากปัญหาความยากจน และการสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยเพื่อแก้ปัญหาคนไร้บ้าน รวมถึงเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เธอยังไม่ได้ทำ อย่างไรก็ตามภาพลักษณ์ของอาร์เดิร์นกลับมาเป็นบวกหลังจากกรณีการแก้ไขวิกฤต COVID-19 ได้ด้วยดี ซึ่งไม่เพียงแค่ตัวเลขผู้เสียชีวิตน้อย แต่ยังทำได้โดยไม่กระทบเศรษฐกิจในระดับที่ทำให้เสียหายหนักด้วย

นักเศรษฐศาสตร์ แบรด โอลเซน วิเคราะห์ว่าสิ่งท้าทายที่อาร์เดิร์นจะต้องเผชิญในการเป็นรัฐบาลสมัยถัดจากนี้ คือการตัดสินใจเรื่องการขยับขยายเปิดพรมแดนในช่วง COVID-19 ปัญหาการว่างงานที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่อาร์เดิร์นจะทำตามสัญญาในนโยบายที่พักอาศัยได้หรือไม่จากการที่มีคนอยู่ในรายชื่อรอรับเป็นผู้อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเกือบ 20,000 รายแล้ว เมื่อเทียบกับจำนวน 4,000 รายต่อปีในช่วงก่อนปี 2559 ในประชากรที่กำลังรอรับกลุ่มนี้ยังประกอบด้วยชาวเมารี, เยาวชน และผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ขณะเดียวกันปัญหาราคาที่พักอาศัยที่เพิ่มสูงขึ้นก็ยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนกว้างขึ้นด้วย ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าถึงแม้วิกฤต COVID-19 จะทำให้อาร์เดิร์นได้คะแนนบวก แต่ถ้ายังทำตามสัญญานโยบายอื่นๆ ไม่ได้ ชาวนิวซีแลนด์ก็จะไม่ทนอีกในสมัยต่อไป

เรียบเรียงจาก
New Zealand PM Jacinda Ardern wins second term in landslide election victory, CNN, 17-10-2020
As it happened: Jacinda Ardern claims victory, Collins concedes defeat, Sydney Morning Herald, 17-10-2020
‘Jacindamania’ set to return Jacinda Ardern as New Zealand PM, Aljazeera, 16-10-2020