Skip to main content
sharethis

ดำ อ่อนเมือง นักปกป้องสิทธิที่ดินและสมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) ถูกลอบยิงกลางดึก แต่รอดมาได้ ส่วนผู้ต้องสงสัยถูกตำรวจควบคุมตัวแล้ว ด้านองค์กรสิทธิเรียกร้อง กสม. ให้การคุ้มครองและให้องค์กรระหว่างประเทศช่วยติดตามและเร่งรัดรัฐบาลไทยในการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิและ สกต.

20 ต.ค.2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุลอบฆ่า ดำ อ่อนเมือง นักปกป้องสิทธิที่ดินและสมาชิกชุมชนสันติพัฒนา สมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. โดยคนร้ายบุกเข้ามาและนำปืนจ่อยิงเข้าไปที่ศีรษะของดำ แต่ดำได้หลบทันจึงรอดมาได้ 

ดำ อ่อนเมือง

ภายหลังทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ สมพร ฉิมเรือง หรือนายตุ๋ย ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นคนงานของบริษัทเอกชนที่มีข้อพิพาทกับชุมชนมาก่อน ซึ่งหลังจากก่อเหตุได้ขับรถยนต์หลบหนีไป และต่อมาตำรวจควบคุมตัวสมพร ที่สถานีตำรวจ สภ.บางสวรรค์ ในขณะที่สมาชิกกลุ่มได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเช้าวันเดียวกัน

รอยวิถีกระสุน (ภาพซ้าย) เศษหัวกระสุน (ภาพขวา)

รอยกระสุน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนถึงวันที่ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีนัดไต่สวนคดีที่ชาวบ้านและบริษัทมีข้อพิพาทกันในวันที่ 27 พ.ย. ที่จะถึงนี้เพียงเดือนเศษ

ทั้งนี้ชุมชนแห่งนี้เผชิญกลุ่มผู้มีอิทธิพลและบริษัทเอกชนที่พยายามแย่งยึดที่ดินของชุมชนอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่ศาลอาญาเคยมีคำสั่งว่าโฉนดที่บริษัทใช้อ้างสิทธิครอบครองเป็นเอกสารที่ถูกจัดทำขึ้นหรือเป็นเอกสารปลอมซึ่งออกโดยหน่วยงานของรัฐแล้วและเป็นการได้ที่ดินมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่สมาชิกชุมชนยังถูกดำเนินคดีทางแพ่งอีก

นอกจากกรณีของดำแล้ว ยังมีกรณีคุกคามสมาชิก สกต. คนอื่น ๆ อีก อาทิ ธีรเนตร ไชยสุวรรณ เพียรรัตน์ บุญฤทธิ์ ณัฐาพันธ์ แสงทับ และประทีป ระฆังทอง โดยนายธีรเนตรเคยได้รับคำเตือนว่ามีมือปืนติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด ส่วนนายเพียรรัตน์เคยถูกคสช. เรียกไปปรับทัศนคติ และคุมขังโดยภายใต้อำนาจพิเศษเป็นเวลาสามวัน ที่จังหวัดทหารบก สุราษฎร์ธานี (ค่าย วิภาวดีรังสิตกรมทหารราบที่ 25) โดยภายหลังจากที่เขาถูกปล่อยตัว ก็ได้ถูกติดตามความเคลื่อนไหวจากเจ้าหน้าที่รัฐอย่างใกล้ชิด

ปรานม สมวงศ์ ตัวแทนจาก Protection International (PI) ที่ทำงานด้านความปลอดภัยของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนได้ทำหนังสือด่วนถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ให้เร่งหามาตรการและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนในการปกป้องนักปกป้องสิทธิด้านที่ดินกรณีที่ตกอยู่ในความเสี่ยงให้มีความปลอดภัยในชีวิตหลังจากเกิดการถูกสังหารและข่มขู่ถึงขั้นจะเอาชีวิตชาวบ้านที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของตนตลอดหลายเดือนที่มีการเผชิญหน้ากันระหว่างทั้งสองฝ่าย

ปรานม กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า สมาชิกของสกต. เผชิญการคุกคามหลายรูปแบบ ทั้งการใช้ความ รุนแรงทางกายภาพ การฟ้องร้องดำเนินคดี การลอบทำร้ายโดยใช้อาวุธสงคราม การถูกจับกุมคุมขังโดยมิชอบ ไปจนถึงการสังหารนักปกป้องสิทธิด้านที่ดินไปแล้วสี่ราย แต่ตำรวจและกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้เลย จึงอยากให้สังคมช่วยกันจับตาดูว่าคดีนี้ เกิดความผิดซึ่งหน้าขนาดนี้ ตำรวจจะสามารถจับตัวผู้กระทำความผิดได้ไหม จะเกิดภาวะลอยนวลพ้นผิดอีกไหม

ปรานมกล่าวต่อว่าทางองค์กรได้เรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  คณะทำงานแห่งสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UNWG), สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP), โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งประชาชาติ (United Nations Environment Programme สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNOHCHR) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง  ซึ่งทำงานในประเด็นธุรกิจและสิทธิมนุษยชน ให้ใช้ทรัพยากร และอำนาจที่มีอยู่เพื่อประกันว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหลายจะยุติการคุกคามทั้งทางกายภาพและด้วยกฎหมาย หรือการใช้นโยบายต่อสมาชิก สกต.ทันที และให้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยและสวัสดิภาพที่ดีของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน เพื่อส่งเสริมการทำธุรกิจที่ดีและมีการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่าง

ขณะที่ พ.ต.ท.บัญชร วัฒนะปรีชาพงศ์  สว.สอบสวน สภ.บางสวรรค์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับแจ้งความในคดีนี้กล่าวว่า ตอนนี้จับผู้ต้องหาได้แล้วและได้ดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่า  ส่วนขั้นตอนการดูแลชาวบ้านเพิ่มเติมในพื้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดส่งสายตรวจไปดูแลชาวบ้านเพิ่มเติมแล้ว เมื่อสอบถามถึงกรณีที่ชาวบ้านขอสำเนาใบแจ้งความแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ให้ชาวบ้านไปในทันทีนั้น พ.ต.ท.บัญชรกล่าวสั้นๆเพียงว่าเบื้องต้นได้ประสานกับชาวบ้านและได้แอดไลน์พูดคุยกับชาวบ้านในกรณีนี้เรียบร้อยแล้วก่อนจะตัดบทสนทนาไป

ประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า กสม.ได้รับหนังสือจาก PI แล้ว และกำลังดำเนินการด่วนเพื่อคุ้มครองสมาชิก สกต.ที่ถูกลอบสังหาร โดยเบื้องต้น กสม.ได้ทำหนังสือด่วนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีในพื้นที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงไปดูแลเรื่องความปลอดภัยโดยด่วนและขอให้ตำรวจส่งสำเนาใบแจ้งความกลับมาให้กสม.ได้เก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย

ส่วนการลงพื้นที่เพื่อไปดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับชาวบ้าน ทาง กสม.จะดูจังหวะเพื่อที่จะลงพื้นที่เพื่อดูแลและช่วยแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านตามข้อเรียกร้องของ PI  อย่างไรก็ตามในส่วนของการคุกคามนักปกป้องสิทธิมนุษยชนตนมองว่าเรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจกับทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจให้มีความเข้าใจในบทบาทของนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและสิทธิของประชาชนในพื้นที่และภาคธุรกิจก็จะต้องเข้าใจว่าการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนนั้นจะต้องไม่กระทบต่อสิทธิของประชาชนด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net