'ธีรรัตน์ เพื่อไทย' ชี้ญัตติของรัฐบาลเหมือนราดน้ำเข้ากองไฟ เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออก

"ธีรรัตน์ เพื่อไทย" ชี้ญัตติประชุมทั้ง 3 ประเด็นของรัฐบาลยิ่งซ้ำเติมปัญหาใส่ร้ายผู้ชุมนุมเหมือนราดน้ำมันเข้ากองไฟทั้งที่เป็นปัญหาของรัฐบาลเอง และรัฐบาลไม่รับฟังข้อเรียกร้องของประชาชน อีกทั้งการสลายการชุมนุมยังขัดกับมาตรฐานสากล ธีรรัตน์เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ลาออกตามข้อเรียกร้องของประชาชน

27 ต.ค.2563 รัฐสภา เกียกกาย การประชุมสภาสมัยวิสามัญหาทางออกวิกฤตประเทศ วันสุดท้าย มีการอภิปรายต่อญัตติของฝั่งรัฐบาลทั้งสามข้อ คือ ความเสี่ยงการระบาดโรคโควิด-19 ในที่ชุมนุม การขวางและหยุดขบวนเสด็จวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมาและการชุมนุมผิดกฎหมาย

ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าหลังกรอภิปรายไผ่านไปแล้วหนึ่งวัน ท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลดูเหมือนว่าจะไม่รับฟังข้อเรียกร้องของประชาชนเลย ถึงการตอบคำถามของนายกฯ ไม่ได้เป็นการหาทางออกให้ประเทศได้ ญัตติที่เรากำลังอภิปรายกันอยู่นี้เดิมทีจะถูกเสนอจากพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ นำข้อเรียร้องของประชาชนเข้ามาพูดคุย แต่ญัตติที่เสนอมาโดยรัฐบาลกลับเป็นการซ้ำเติมประเทศไทยและปัญหาที่เกิดขึ้นให้มากยิ่งขึ้ ที่กล่าวเช่นนี้เพราะเธอเห็นแต่เพียงข้อความที่ใส่ร้ายกล่าวหาผู้ชุมนุมว่าทำให้เกิดความวุ่นวายอยู่ในญัตติ เป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟและราดใส่ผู้ชุมนุม 

ธีรรัตน์กล่าวว่า เพราะญัตติระบุว่าการชุมนุมอาจทำให้แพร่ระบาดโควิดทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่พบการระบาดในที่ชุมนุมเลยทั้งที่ผ่านมาสามเดือนแล้ว และเป็นหน้าที่ของการรัฐบาลที่จะป้องกันเชื้อไม่ให้เข้ามาในประเทศไทยได้และมีการควบคุมอย่างถูกต้องถึงเรียกว่าเป็นความจริงใจในการป้องกันการระบาดของโควิดของรัฐบาลมากกว่า

ต่อมาเรื่องความไม่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมาที่พล.อ.ประยุทธ์อ้างว่าเป็นความผิดของประชาชนทั้งที่ควรเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลอารักขาความปลอดภัยมากกว่า และข้อที่สามพล.อ.ประยุทธ์ร้องหาความเป็นธรรมให้กับตนเองโดยกล่าวหาว่าผชนทำผิดกฎหมายจึงต้องใช้ความรุนแรงเข้าควบคุมและข่มขู่ผู้ชุมนุมอีกว่ามีการใช้ความรุนแรงและอาจมีการปะทะกันระหว่างผู้เห็นต่าง จนมีการตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มคนที่ออกมาสร้างรุนแรงนั้นเป็นเครือข่ายของพล.อ.ประยุทธ์ และพวกพ้องหรือไม่ 

ธีรรัตน์จึงเห็นว่าญัตติที่เสนอเข้ามาทั้งสามข้อเป็นปัญหาของรัฐบาลไม่ใช่ปัญหาของผู้ชุมนุม รัฐบาลไม่ควรใช้รัฐสภาแห่งนี้ลบล้างความผิดของตนเองแต่ต้องจริงใจในการแก้ปัญหาจริงๆ ไม่ใช่ใช้เสียงข้างมากลากไปอย่างที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเองในสภาแห่งนี้ ซึ่งเราขาดความจริงใจที่จะหาทางออก สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือจะทำอะไรให้ประเทศและประชาชนอย่างไรไม่ใช่หาวิธีจัดการผู้เห็นต่างอย่างไร

ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์เคยกล่าวหาว่าทำให้บ้านเมืองเกิดความเดือดร้อน และบังคับให้ผู้รักษาการณ์นายกรัฐมนตรีต้องลาออกจากตำแหน่งและฉีกรัฐธรรมนูญ แล้วสถาปนาตนเองขึ้นมาเป้นผู้นำรัฐบาลบริหารประเทศให้ตกต่ำมาตลอดหกปี เวลาที่เคยขออีกไม่นานตอนนี้นานเกินไปแล้วประชาชนไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว นอกจากว่าพล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและต้อชดใช้สิ่งที่เคยทำไว้ด้วย

การเรียกร้องของผู้ชุมนุมดำเนินมาอย่างต่อเนื่องด้วยความสงบเรียบร้อยจนเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 16 ต.ค.มีการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงและไม่เป็นไปตามหลักสากล มีการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงผสมสารเคมีฉีดเข้าตรงตัวผู้ชุมนุมชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ฟังข้อเรียกร้องและยังพร้อมใช้อาวุธหนักกับผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ไม่มีอาวุธใดๆ หรือผู้เห็นต่างได้ทุกเมื่อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกคุมตัวและตั้งข้อหาร้ายแรง การตัดสินใจใช้ความรุนแรงของพล.อ.ประยุทธ์ต่อผู้ชุมนุมถือเป็นความผิดพลาดร้ายแรงอย่างยิ่ง 

เธอรู้สึกผิดหวังที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศบอกว่าเป้นเรื่องปกติที่นานาชาติทำกัน ท่านต้องคิดใหม่แล้วมองผู้ชุมนุมที่ชุมนุมอย่างสงบไม่มีอาวุธใดๆ ไม่ได้ก่อเหตุรุนแรงทั้งสิ้นรัฐไม่ควรใช้วิธีการรุนแรงในการปราบปราม ขอให้คิดเสียใหม่เพื่อหาทางออกร่วมกันด้วย หลังจากนั้นผู้ชมุนุมก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากมายและรวดเร็ว แม้ว่าพล.อ.ประยุทธ์จะประกาศยกเลิกสถานการณืฉุกเฉินแล้วแต่การประกาศครั้งนั้นก็ดูเมหือนว่าเปิดทางให้เครือข่ายของตนออกมาก่อเหตุม็อบชนม็อบเช่นเหตุการณ์ที่มหาวิทยาลัยรามคำแห่งและอีกหลายสถานที่มีกลุ่มคนของนักการเมืองประกาศว่าจะทำร้ายนิสิตนักศึกษาผู้เห็นต่างทางการเมืองมีการเข้าประจันหน้าข่มขู่ ใช้ความความรุนแรงจนนักศึกษาได้รับบาดเจ็บ และขณะนี้ก็ไม่มีใครถูกตั้งข้อกล่าวหาจากการกระทำในครั้งนั้น ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจน

ธีรรัตน์กล่าวต่อว่าเมื่อดูฝั่งของนิสิตนักศึกษากลับถูกตั้งข้อกล่าวหารายวันถูกออกหมายจับถูกคุมตัว แม้กระทั่งนพ.ทศพร เสรีรักษ์ที่เข้าไปดูความสงบเรียบร้อยและดูแลความปลอดภัยของเยาวชนก็ถูกตั้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน นอกจากนั้นยังมีกนักข่าวถูกจับกุมขณะปฏิบัติหน้าที่ มีเยาวชนต่ำกว่า 15 ปีถูกคุมตัวเช่นเดียวกัน เป้นหลักฐานที่ชัดเจนว่าการปฏิบัติการของรัฐบาลครั้งนี้ไม่เป็นไปตามหลักสากลและไม่สามารถยอมรับ ประชาชนจะไม่อภัยให้เด็ดขาด คณะกรรมธิการของสภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งคณะติดตามการชุมนุมของนิสิตนักศึกษาเพื่อให้ความช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมในกรณีที่เกิดปัญหาได้ลงไปคุยกับเยาวชน ยังพบว่ามีการคุกคามเยาวชนเหล่านั้นอย่างต่อเนื่องทั้งร่างกายและจิตใจ การออกเรียกร้องในครั้งนี้พวกเขาเชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงการปกครองรวมถึงการพัฒนาของไทยให้ดีขึ้นได้ มาด้วยความอัดอั้นตันใจ เห็นกันทุกวันว่าบนท้องถนเต็มไปด้วยผู้ที่ไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ จึงต้องออกมารวมพลังบริสุทธิ์ไม่ได้มีพลังอำนาจใดแอบแฝงไว้ เราต้องยอมรับในข้อนี้และรับฟัง หากมัวแต่ปิดหูปิดตากลัวที่อำนาจของตัวเองจะหลุดลอยไปก็ไม่เหลือทางออกใดนอกจากประชาชนจะต้องรวมตัวกันบนท้องถนน 

ธีรรัตน์กล่าวว่ามีนักศึกษาถูกออกหมายจับเพราะชุมนุมโดยสงบมีคุมตัวในยามวิกาลไป ตชด.ภาค 1 ทั้งที่ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว เธอคิดว่าการกระทำเช่นนี้ของเจ้าหน้าที่เป้นการริดลอนสิทธิของประชาชนเป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง เป้นการใส่ร้ายให้นักศึกษามีคดีติดตัวจนไม่กล้าออกมาเคลื่อนไหวอีก ยังมีผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งยังถูกควบคุมตัวไว้ รัฐบาลต้องปล่อยตัวพวกเขาโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น 

ธีรรัตน์กล่าวต่อว่า ข้อเรียกร้องเกิดขึ้นเนื่องจากความไม่ไว้วางใจในการบริหารประเทศของพล.อ.ประยุทธ์ และมีที่มาจากรัฐธรรมนูญฉบับอัปยศนี้ ความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารและการใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องจนเกิดการทุจริตทุกหย่อมหญ้า สร้างความเหลื่อมล้ำให้กับสังคม นี่เป้นเพียงส่วนหนึง่ที่ประชาชนออกมาเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยเร็วก่อนที่ประเทศชาติจะเสียหายไปมากกว่านี้

ธีรรัตน์เสนอทางออกว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและพวกต้องนำข้อเสนอของนิสิตนักศึกษาทั้งสามข้อมาพิจารณาดูว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ ข้อแรกที่ทำได้เลยคือพล.อ.ประยุทธ์ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นการแสดงความจริงใจที่จะหาทางออกกับประเทศจริงๆ ส่วนข้อสองและสามให้เป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่จะดำเนินการต่อไป เธอมั่นใจว่าถ้าพล.อ.ประยุทธ์ประกาศลาออกผู้ชุมนุมข้างนอกก้จะหยุดกรเคลื่อนไหวจนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท