Skip to main content
sharethis

หากไม่คุย ‘พื้นที่ที่ปลอดภัย’ เรื่อง ‘สถาบันกษัตริย์’ ก็ไม่ต้องตั้ง คกก.สมานฉันท์  ‘ชัยธวัช’ ย้ำ ปลดล็อกประตูบานแรก ‘ประยุทธ์’ ต้องลาออก

29 ต.ค.2563 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่า วันนี้ (29 ต.ค.63) ที่หน้าศาลแขวงปทุมวัน ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของพรรคก้าวไกลต่อกรณีเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติว่า การตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ชุดนี้ต้องไม่ใช่การตั้งเพื่อยืดอายุและซื้อเวลาให้กับรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ต้องเป็นไปเพื่อปลดล็อกความขัดแย้งในสังคม ขั้นตอนแรกจำเป็นต้องปลดล็อกพลเอกประยุทธ์ ออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีก่อน เพราะหากไม่ปลดล็อกออกไปจะไม่สามารถคลี่คลายความขัดแย้งที่มีอยู่ในสังคมขณะนี้ได้เลย รวมทั้งจะมีปัญหาความชอบธรรมในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย หากนายกรัฐมนตรีก็คือคนที่เคยเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร 

“เมื่อปลดไปแล้วการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ไม่จำเป็นต้องใช้เสียง ส.ว. และต้องไม่ใช่การมีนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือเป็นรูปแบบรัฐบาลแห่งชาติ แต่สามารถใช้เสียง ส.ส.โหวตเลือกกันเองได้เลย พรรคก้าวไกล พร้อมที่จะยกมือโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แม้ว่าจะได้ร่วมรัฐบาลหรือไม่ก็ตาม นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องมีที่มาจากการตกลงเลือกกันของพรรคการเมืองที่มี ส.ส.ในสภา และได้รับการยอมรับจาก ส.ส. ไม่ว่าจะมาจากบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคภูมิใจไทยก็ตาม เพราะในส่วนของพรรคก้าวไกล เราไม่มีบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี”

เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยังกล่าวด้วยว่า คณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติชุดนี้ ที่อาศัยอำนาจการแต่งตั้งของประธานรัฐสภา ต้องไม่มีองค์ประกอบสัดส่วนที่มาจากคณะรัฐมนตรี เพราะการมีอยู่ของคณะกรรมการต้องไม่ไปผูกติดกับการคงอยู่ของคณะรัฐมนตรีชุดนี้ แต่สัดส่วนความเหมาะสมของคณะกรรมการจะเป็นอย่างไรให้อยู่ที่ประธานรัฐสภาพิจารณาความเหมาะสม  ซึ่งสามารถมีที่มาจากนักวิชาการ นิสิตนักศึกษา NGOs ประชาชน ฯลฯ 

“การมีคณะกรรมการชุดนี้ กระบวนการเป็นเรื่องที่สำคัญมาก จำเป็นต้องสร้างพื้นที่ปลอดภัย ในหัวข้อที่มีความเห็นขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของวงปิดหรือเวทีสาธารณะ และสามารถใช้กลไกประชาธิปไตยในการจัดรูปแบบได้ และคณะกรรมการชุดนี้ควรมีส่วนในการเปิดพื้นที่พูดคุยกันในประเด็นเรื่องสถาบันกษัตริย์อย่างปลอดภัย หากไม่มีเรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีคณะกรรมการชุดนี้แต่อย่างใด เพราะตอนนี้ประเด็นนี้คือเรื่องที่สำคัญของปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทย”

ในส่วนเรื่องประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชัยธวัช กล่าวว่า เมื่อเปิดประชุมสภาแล้ว อีกแนวทางหนึ่งคือการเอาร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประชาชนร่วมกันลงชื่อมาร่วมพิจารณาด้วย เพราะหากพิจารณาเฉพาะร่างของ ส.ส. จะทำให้ร่างของประชาชนไม่ได้ทันพิจารณาในสมัยประชุมนี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net