Skip to main content
sharethis

1 พ.ย. 2563 ศบค. แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 4 คน พบจากสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ รวมผู้ติดเชื้อสะสม 3,784 คน รักษาหายเพิ่ม 2 คน รวมรักษาหายสะสม 3,592 คน ผู้เสียชีวิตสะสม 59 คน - สธ.เผยผลตรวจเชื้อโควิดแรงงานเมียนมาที่พัทลุง เป็นการติดเชื้อรายเก่าที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และความสามารถในการแพร่เชื้อมีโอกาสน้อยมาก 

1 พ.ย. 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 4 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน (Quarantine Faclities) โดยมาจากสหราชอาณาจักร 2 ราย อัฟกานิสถาน 1 ราย และรัสเซีย 1 ราย โดยวันนี้จะมีเที่ยวบินนำคนไทยเดินทางกลับมาอีก 281 ราย

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร 2 ราย คนแรกเป็นชายสัญชาติอังกฤษ อายุ 28 ปี อาชีพครู เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2563 เข้าพัก ASQ ใน กทม. ผลตรวจครั้งแรกในวันที่สี่เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2563 ไม่พบเชื้อ แต่ผลตรวจครั้งที่สองในวันที่สิบเอ็ดเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2563 พบเชื้อ มีอาการไอ ไข้ น้ำมูก เข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชน

อีกรายเป็นหญิงสัญชาติไทย อายุ 27 ปี ไม่ได้ประกอบอาชีพ เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 26 ต.ค.63 เข้าพัก SQ ใน กทม.ผลตรวจหาเชื้อครั้งแรกในวันที่สี่เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2563 พบเชื้อแต่ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่สถาบันประสาท

รายที่สามเดินทางมาจากอัฟกานิสถาน เป็นชายสัญชาติอังกฤษ อายุ 65 ปี อาชีพที่ปรึกษาด้ายความปลอดภัย เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2563 เข้าพัก ASQ ใน จ.นนทบุรี ผลตรวจครั้งแรกในวันที่ห้าเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2563 พบเชื้อแต่ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชน

รายที่สี่เดินทางมาจากรัสเซีย เป็นชายสัญชาติรัสเซีย อายุ 41 ปี อาชีพนักธุรกิจ เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2563 เข้าพัก ASQ ใน กทม.เคยมีประวัติติดเชื้อ ผลตรวจครั้งแรกในวันที่สองเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2563 พบเชื้อแต่ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชน

ส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,784 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,451 ราย และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 836 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 2 ราย รวมเป็น 3,592 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 133 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงเดิมที่ 59 ราย

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 46,373,777 ราย เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 1,200,193 ราย โดยสหรัฐมีผู้ป่วยสะสมสูงสุดที่ 9,402,590 ราย และเสียชีวิตสะสมสูงสุดที่ 236,072 ราย ตามมาด้วยอินเดียมีผู้ป่วยสะสม 8,182,881 ราย บราซิล 5,535,605 ราย รัสเซีย 1,618,116 ราย และฝรั่งเศส 1,367,625 ราย ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 147

สธ.เผยผลตรวจเชื้อโควิดแรงงานเมียนมาที่พัทลุง

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2563 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 เป็นแรงงานชาวเมียนมาในพื้นที่จังหวัดพัทลุง 1 ราย นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่ากรมควบคุมโรค โดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 จ.สงขลา) ซึ่งดูแลพื้นที่จังหวัดพัทลุงได้ส่งทีมปฏิบัติการสอบสวนโรค ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อร่วมสอบสวนโรค ตรวจสอบรายละเอียดและค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติม พร้อมทั้งให้คำแนะนำการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่ดังกล่าว

จากกสอบสวนโรคเพิ่มเติม พบว่าผู้ป่วยชายชาวเมียนมารายนี้ อายุ 26 ปี ไม่มีโรคประจำตัว เดินทางไปทำงานที่มาเลเซียตั้งแต่ปี 2561 อาชีพรับจ้างเข็นผักในตลาดแห่งหนึ่ง อาศัยบ้านเช่า ช่วงสถานการณ์โควิด 19 ตลาดที่ทำงานถูกปิด ผู้ป่วยไม่มีเอกสารเดินทางจึงต้องการกลับเมียนมาโดยเดินทางผ่านไทยไปเข้าทางอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ส่วนประวัติการเดินทาง วันที่ 26 ต.ค. 2563 ผู้ป่วยเดินทางคนเดียวโดยรถบัสไปรัฐปีนัง มีนายหน้ารับขึ้นรถเพื่อข้ามฝั่งไปไทย กับเพื่อนร่วมทางอีก 8 คน โดยนอน 1 คืนที่เกาะลังกาวี จากนั้น 04.00 น. ของวันที่ 27 ต.ค. 2563 ลงเรือใกล้ชายฝั่งที่จังหวัดสตูล จากนั้นจะเดินทางต่อด้วยรถยนต์ไปชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จนมาถูกตำรวจจับกุมที่ด่านอำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง ตามรายงานข่าว

นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า จากรายงานข่าวก่อนหน้านี้ที่ผู้ป่วยรายดังกล่าว มีการตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อโควิดในปริมาณน้อย โดยวิธี RT-PCR เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2563 หลังเข้าไทยเพียง 1 วันก็พบเชื้อ แสดงว่าติดเชื้อมาก่อนแล้ว ไม่ได้ติดเชื้อโควิด 19 ในไทย และแจ้งให้รอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ตรวจเลือดหาภูมิคุ้มกัน นั้น ในบ่ายวันนี้ผลการตรวจเลือด ปรากฏว่าพบภูมิคุ้มกันในร่างกาย แสดงให้เห็นว่าเป็นการติดเชื้อรายเก่าที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และความสามารถในการแพร่เชื้อมีโอกาสน้อยมาก ซึ่งผลการสอบสวนครั้งนี้คาดว่าผู้ป่วยอาจรับเชื้อมาจากมาเลเซีย ถึงแม้ไม่สามารถระบุแหล่งที่รับเชื้อได้ชัดเจน แต่สันนิษฐานว่าผู้ป่วยอาศัยอยู่ในพื้นที่มีการระบาดเนื่องจากตลาดที่ผู้ป่วยทำงานถูกปิด ส่วนผู้สัมผัสกับผู้ป่วยผลตรวจก็ยังไม่พบเชื้อโควิด 19 แต่อย่างใด

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จะดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนและมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องให้ครบกระบวนการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่และประชาชนชาวไทยทุกคน อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนยังคงดูแลป้องกันตนเอง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องเช่นเดิม "สวมหน้ากาก ล้างมือ แยกของใช้ เว้นระยะห่าง ลดแออัด" จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยได้ หากพบผู้ติดเชื้อกระทรวงสาธารณสุขจะเข้าไปดำเนินการทันที

"ขอเน้นย้ำว่าประเทศไทยมีหลายจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้หน่วยงานทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันเข้มงวดมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งผู้เดินทางและเฝ้าระวังการลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันเฝ้าระวังบุคคลแปลกหน้าที่เข้ามาในชุมชน อาจะเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งมีความเสี่ยงที่อาจนำเชื้อโควิด 19 เข้ามาในประเทศได้ หากสงสัยขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินมาตรการป้องกันต่อไป และขอแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ผู้ที่นำพาเข้ามาและนายจ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายดังกล่าว จะมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและเฉียบขาดกับผู้กระทำผิดทุกราย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422" นายแพทย์โอภาส กล่าวปิดท้าย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net