Skip to main content
sharethis

แม่พลทหารทหารพิชวัฒน์ ยื่นขอโอนคดีมาที่กองปราบฯ ชี้มีแรงกดดันจากทหารทำให้ตำรวจท้องที่ไม่สามารถทำคดีได้ ขณะที่ ผบ.ทบ. ลั่นกองทัพไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ ด้านแม่พลทหารสถาพร ซึ่งเสียชีวิตระหว่างถูกขังในเรือนจำ เชื่อลูกชายไม่ได้เสียชีวิตจากการทำร้ายร่างกาย ยืนยันไม่เอาเรื่องกับทหาร พร้อมทั้งเตรียมดำเนินคดีกับผู้โพสต์

9 พ.ย. 2563 ครอบครัวของพลทหารพิชวัฒน์ เวียงนนท์ ที่ผูกคอเสียชีวิตภายในห้องขัวงกองรักษาการณ์ มณฑลทหารบกที่ 27 ค่ายประเสริฐสงคราม จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป.เพื่อขอให้โอนคดีมาอยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบฯ เนื่องจากครอบครัวผู้ตายถูกเจ้าหน้าที่ข่มขู่หลังพยายามสืบหาความจริงเนื่องจากไม่เชื่อว่าผู้ตายจะฆ่าตัวตายเอง อีกทั้งยังถูกข่มขู่จนเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ร่วมเดินทางไปยื่นเรื่องด้วย

ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ครอบครัวผู้ตายยังมีความสงสัยกับสาเหตุการตาย เพราะผู้ตายได้ออกจากค่ายไป แล้วถูกตามกลับไป ก่อนที่วันรุ่งขึ้นก็เสียชีวิตจากการแขวนคอ มองว่าเป็นการฆ่าตัวตายจริง หรือเป็นการอำพรางศพหรือไม่ หากผู้ตายมีอาการซึมเศร้าจริงตามที่มีกระแสข่าวนั้น โดยทั่วไปผู้ป่วยต้องมีสัญญาณบอกเหตุแต่นี่ยังบอกให้แฟนสาวนำโทรศัพท์มาให้ อีกทั้งยังมีแรงกดดันจากทหารทำให้ตำรวจท้องที่ไม่สามารถทำคดีได้ และญาติยังถูกห้ามไม่ให้เข้าไปดูที่เกิดเหตุ จึงร้องขอให้โอนคดีมายังกองปราบ พร้อมกันนี้ หากคุกทหารมีกล้องวงจรปิดก็ขอให้ใช้กฎหมายไปนำหลักฐานมา

นอกจากนั้น ยังต้องการให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมชันสูตรพลิกศพรวมถึงตรวจสอบร่องรอยต่างๆ บนเชือกที่ใช้ผูกคอด้วย เนื่องจากผลการตรวจเบื้องต้น มีรอยช้ำที่หูจากการผูกรัด และศพเกิดอาการเน่าเนื่องจากไม่แช่โลงเย็นทำให้เสื่อมสภาพ แต่ยังต้องตรวจสอบชิ้นเนื้อตามซอกเล็บและอื่นๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้ ทางครอบครัวยังถูกเจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่งโทรศัพท์เข้ามากดดันว่าให้หยุดไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ เลย

หนูไกร บุญวิเศษ แม่ ผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ตนอยากรู้ความจริงว่าใครทำอะไรลูก ให้พูดมาจะได้จบๆ ไป เพราะตนมีที่พึ่งคือลูกเท่านั้น เมื่อสัปดาห์ก่อน มีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ให้สื่อสารกลับลูกชาย ให้กลับมารายงานตัวที่ค่าย แต่เมื่อกลับไป ลูกชายบอกว่าถูกเหยียบคอ โรยพริกเกลือ ตัดผมและตีหลังจนช้ำ เขาบอกว่าไม่อยากกลับไปอีกไม่งั้นคงตายแน่ๆ กระทั่งตอนเสียชีวิต มีตำรวจและพยาบาลเซ็นต์ส่งศพไป รพ.ร้อยเอ็ด ทั้งที่ยังไม่แกะเชือกออกจากศพ และครอบครัวก็ถูกห้ามไม่ให้เข้าไปดูศพ มันไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมา ลูกชายป่วยเป็นวัณโรคที่ปอดทำให้เหนื่อย ทำให้ต้องเข้าออกค่ายอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดมีใบแพทย์สั่งให้ออกมาพักฟื้น 6 เดือน ปกติก็ทำเรื่องขอออกมาถูกต้องทุกครั้ง แต่ล่าสุดไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับเรื่องไว้รายงานผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ด้าน พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก(นขต.ทบ.) กรณีพลทหารพิชวัฒน์ ผูกคอเสียชีวิตที่มณฑลทหารบกที่ 27 ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย กองทัพบกไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด ใครผิดต้องรับผิดชอบ รับผลของการกระทำผิด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมี 2 กรณี คือการผูกคอตายเสียชีวิตในที่ควบคุม

“กองทัพบกปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ถือเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบตรงนั้นคือกองรักษาการณ์กับรองผู้บังคับการกองรักษาการณ์ ซึ่งต้องถูกลงทัณฑ์ทางวินัย แต่เรื่องของสาเหตุ ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องต้องสืบสวนสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมาย ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด หากเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนหรือเจ้าหน้าที่ในส่วนนั้นมีความเกี่ยวข้อง ต้องรับผิดตามกฎหมาย ขณะเดียวกันกองทัพบกมีความรู้สึกเสียใจ เพราะไม่มีใครอยากให้ทหารเสียชีวิต กองทัพบกพร้อมจะช่วยเหลือดูแลครอบครัว” ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว

ส่วนที่มีผู้โพสต์เฟสบุ๊กกรณีพลทหารสถาพร เผียดผัด อายุ 22 ปีเสียชีวิตระหว่างถูกขังในเรือนจำที่มลฑลทหารบกที่36 จังหวัดเพชรบูรณ์ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า การทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตไม่ใช่นโยบายของกองทัพบก ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาและน่าจะหมดไปแล้ว เพราะฉะนั้นคนพวกนี้ต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายทหารคือขึ้นศาลทหาร ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้นำญาติของผู้เสียชีวิตไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีทางอาญาด้วยแล้ว เพื่อให้คนเหล่านี้ได้รับโทษทัณฑ์ในฐานะที่ทำร้ายร่างกาย กองทัพบกจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เพราะอยู่ในพื้นที่ของกองทัพบก

อย่างไรก็ตาม วันนี้มีรายงานด้วยว่า กรณีของพลทหาร สถาพร เผียดผัด ญาติได้นำศพตั้งบำเพ็ญอยู่ที่วัดโนนสว่างจันทร์ หมู่ 1 บ้านวังโค้ง ต.ตะเบาะ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาญาติ ของผู้เสียชีวิต

จากการสอบถามปลาหนัน เผียดผัด อายุ 47 ปี แม่ผู้เสียชีวิต ทราบว่า ผู้ตายมางานศพตา ตั้งแต่เดือน มิ.ย 2563 แล้วไม่ได้กลับเข้าค่าย เป็นเวลา 5 เดือน มากลับไปอีกทีเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยลูกชายจะโดนติดคุกประมาณ 27 วัน ระหว่างนั้นมีการส่งข้อความทางโทรศัพท์ มาบอกว่าลูกสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง แถมยังบอกตนว่าให้มาเยี่ยมบ้างนะ และมาทราบข่าวอีกทีว่า เสียชีวิตแล้ว เมื่อช่วงเวลา 2-3 ทุ่ม  

ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตคือ หัวใจล้มเหลว ไม่ได้เกิดจากการถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต แต่อย่างใด พร้อมทั้งไม่ติดใจสาเหตุการตาย ยืนยันไม่เอาเรื่องกับทางค่ายทหาร ขณะที่ทางทหารก็เข้ามาดูแลจัดการงานศพให้เป็นอย่างดี และไม่ทราบว่าใครที่มีการนำข่าวเท็จ เรื่องลูกตนเองถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด พร้อมทั้งเตรียมดำเนินคดีกับผู้โพสต์ โดย วันนี้จะมีการเดินทางไปแจ้งความ ที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อดำเนินคดี กับผู้โพสต์

ที่มาจาก : สำนักข่าวไทย , TheReporters , Ch3plus

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net