ฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวถึงท่าทีล่าสุดหลังนักข่าวชื่อดังหลายคนและยังมีระดับบริหารลาออกจากช่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บก.อาวุโสยืนยันจะมีการปรับการทำงานให้เป็นมืออาชีพและยอมรับว่าระยะที่ผ่านมาเคย “บิดเบี้ยว” และจะดึงอดีตฝ่ายบริหารกลับมาโดยใช้นโยบาย “เนชั่นเวย์”

10 พ.ย.2563 ฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวหลังจากผู้บริหารและผู้ประกาศข่าวออกจากสถานีเนชั่นทีวีไม่ว่าจะเป็น กนกและลักขณา รัตน์วงศ์กุล ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อนก็ยังมีอัญชะลี ไพรีรัก, สันติสุข มะโรงศรี และสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม นอกจากนั้นยังมีข่าวลือเรื่องจะมีฝ่ายการเมืองเข้ามาถือหุ้นในเครือฯ ซึ่งประเด็นนี้ฉายเคยปฏิเสธไปก่อนหน้านี้แล้ว

ในการแถลงข่าววันนี้ฉายยืนยันอีกครั้งว่าช่องไม่ได้ขายดาราผู้ประกาศ แม้ว่าผู้ประกาศข่าวจะสำคัญ แต่ขายความจริง เป็นดั่งแสงเทียนนำทางสังคมในยามที่มืดมิด เป็นดั่งกระจกสะท้อนสังคมที่บิดเบี้ยวในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ทำตัวเป็นกระจกที่บิดเบี้ยวเสียเอง และขายความรับผิดชอบต่อสังคม

ฉายตอบในประเด็นที่มีข่าวลือการเข้ามาของกลุ่มทุนและบุคคลต่างๆ โดยยืนยันว่าเนชั่นเป็นบริษัทมหาชนที่มีผู้ถือหุ้นเป็นหมื่นคน แต่ในโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงรวมถึงโครงสร้างฝ่ายบริหารและกรรมการก็เป็นชุดเดิม ไม่มีชื่อของบุคคลทางการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลทางการเมือง เรื่องนี้เป็นการใส่ร้ายป้ายสี

ทั้งนี้ฉายได้ตอบคำถามในว่าผลประกอบการของบริษัทไม่ได้มีผลต่อการปรับทิศทางนำเสนอข่าว กองบรรณาธิการก็ยังอยู่ครบมีผู้ประกาศที่ลาออกก็เป็นไปตามวิถีทางธุรกิจ ไม่ได้มีผลกระทบทางธุรกิจแต่เป็นผลกระทบทางจิตใจ ซึ่งการจากไปของพวกเขาเป็นการจากไปด้วยดี

ยังบอกในการแถลงอีกว่าจะเสนอชื่อของอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเนชั่นทีวี ให้บอร์ดบริหารพิจารณาอนุมัติตั้งอดิศักดิ์กลับมาในตำแหน่งบริหารอีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้เพื่อให้เข้ามาทำงานภายในวันศุกร์ที่ 13 หรือจันทร์ที่ 16 นี้

สมชาย มีเสน กล่าวต่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทีมข่าวยังเหมือนเดิมและต่อไปนี้ทิศทางของเนชั่นจะรายงนาข่าวที่ตรงกับข้อเท็จจริงและทำงานอย่างมืออาชีพจริงๆ

วีระศักดิ์ พงศ์อักษร บรรณาธิการอาวุโสเครือเนชั่น กล่าวถึงว่าหลังจากการเปลี่ยนแปลงแล้วดีเสมอ แต่เมื่อดูสถานการณ์ตอนนี้เขารู้สึกไม่ค่อยดีที่นักข่าวภาคสนามช่องเนชั่นทีวีไม่สามารถรายงานข่าวในพื้นที่ชุมนุมได้ต้องไปยืนรายงานจากนอกพื้นที่หรือต้องเก็บสัญลักษณ์ของช่องออก ทำให้ต้องตั้งคำถามตัวเองว่าเรามาขนาดนี้แล้วเหรอซึ่งทางที่ดีที่สุดก็คือกลับไปสู่การทำหน้าที่สื่ออย่างแท้จริงเป็นสถาบันสื่อมืออาชีพอย่างแท้จริง ถ้ายึดตามกรอบ “เนชั่นเวย์” ตลอด 49 ปี คนทำงานก็จะภาคภูมิใจ และเขาเชื่อว่าวิกฤติต่างๆ จะผ่านพ้นไปด้วยดี

"การที่เราดึงกลับ แม้ว่าจะบิดเบี้ยวไปบ้างระยะหนึ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ถ้าทุกคนช่วยกัน" นายวีรศักดิ์กล่าว

ภายหลังการแถลงข่าวอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ซึ่งถูกกล่าวถึงในการแถลงข่าวของฉายได้ตั้งสเตตัสเล่าถึงการพูดคุณกับฉายในวันก่อนการแถลงข่าววันนี้เอาไว้ด้วยในประเด็นที่ตนถูกทาบทามให้กลับมารับตำแหน่งเดิม โดยมีการพูดคุยถึงแนวทางที่ของสถานีที่พึงมี

อดิศักดิ์เริ่มจากการยอมรับที่จะกลับไปรับตำแหน่งซีอีโอของบริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) โดยระบุว่าแนวทางการทำงานที่มีเป้าหมายร่วมกันเพื่อทำให้ช่อง Nation TV22 กลับมาสู่ความเป็นสถานีข่าวมืออาชีพจะต้องยกระดับการทำข่าวให้ได้มาตรฐานของสถานีข่าวทั่วโลกพึงมี ด้วยการทำหน้าที่หลักๆ  เช่น การเป็น "ผู้เฝ้าประตูข่าวสาร" เน้นการนำเสนอความจริง และถูกต้องที่ผ่านการตรวจสอบ ปราศจากอคติ ไม่เน้นความเร็ว

นอกจากนั้นต้องเป็น "กระจก" ส่องสังคม ที่ไม่บิดเบี้ยว ซื่อสัตย์ในการทำหน้าที่ ต้องเป็น "ตะเกียง" ส่องสังคม กำหนดวาระทางสังคมให้มองเห็นวาระทางสังคมที่ควรจะมี อีกทั้งต้องทำหน้าที่หมาเฝ้าบ้าน ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชน

สุดท้าย อดิศักดิ์ระบุถึงหน้าที่ "โรงเรียนของสังคม" ขององค์กร จะต้องเป็นแพลตฟอร์มทางสังคมที่เปิดกว้างสำหรับทุกภาคส่วนในสังคม ในการสร้างเสริมองค์ความรู้ใหม่ๆ นำเสนอออกไปสู่สังคม เพื่อให้สังคมไทยก้าวทันยุคดิจิทัล