ภาคีศิลปินและคณะดนตรีเสรีแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์เชิญชวนทุกภาคส่วน ได้ศึกษาและทำความเข้าใจที่มาที่ไปในมูลเหตุของข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มเยาวชนปลดแอกและคณะราษฎรอย่างถี่ถ้วน เรียกร้องให้มีการเกิดพื้นที่สำหรับการเปิดใจรับฟังและถกเถียงกันอย่างอารยะในข้อเรียกร้องที่ไม่อาจมองข้ามได้ในเวลานี้
14 พ.ย. 2563 ภาคีศิลปินและคณะดนตรีเสรีแห่งประเทศไทย (Association of Free Artists and Musicians of Thailand) ออกแถลงการณ์ระบุว่าด้วยวิกฤตการทางการเมืองอันสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการสื่อสารและการทำความเข้าใจร่วม
เราเห็นเพื่อนพี่น้องกำลังโดนคุกคามมากขึ้นทุกวันจากการที่พวกเขาออกมาพยายามเปล่งเสียงของตัวเอง
จากกรณีที่มีการพยายามปิดกั้นสื่อมวลชนในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ‘เรา’ ในฐานะศิลปินผู้ผลิตงานศิลปะและคณะดนตรี มีความกังวลว่า วันนึงการคุกคามทางนิติรัฐและอำนาจอยุติธรรมเช่นนี้จะขยายวงกว้างขึ้น และสักวันนึงมันอาจจะมาเคาะประตูบ้านของ ‘เรา’ ในไม่ช้า
เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การเคลื่อนไหวของมวลชนที่เรียกร้องการปฏิรูปนั้นมีข้อเสนอที่ตั้งอยู่บนหลักการสากล โดยมีมูลเหตุมาจากปัญหาทางโครงสร้างที่ควรได้รับการรื้อ ถกเถียง และแก้ไขอย่างเป็นวงกว้าง เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมร่วมกันในท้ายที่สุด
เราอยากเชิญชวนให้ทุกคน ทุกภาคส่วน ได้ศึกษาและทำความเข้าใจที่มาที่ไปในมูลเหตุของข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มเยาวชนปลดแอกและคณะราษฎรอย่างถี่ถ้วน อันได้แก่
1.ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และองคาพยพ ลาออก
2.รัฐสภาต้องเปิดประชุมวิสามัญทันทีเพื่อรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย
เมื่อพิจารณาตามวิจารณญาณของท่านแล้ว เราขอให้มีการเกิดพื้นที่สำหรับการเปิดใจรับฟังและถกเถียงกันอย่างอารยะในข้อเรียกร้องที่ไม่อาจมองข้ามได้ในเวลานี้
สังคมที่มีความเคารพจุดยืนของทุกคนโดยการเปิดทางให้มวลชนมีเจตจำนงค์อย่างเสรี และขับดันให้เกิดภาวะและกติกาอันปกติวิสัยตามแนวคิดการเมืองแบบระบอบประชาธิปไตย ย่อมนำพามาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนทุกภาคส่วน
รัฐธรรมนูญได้รับรองเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพทางวิชาการไว้ในมาตรา 34 ที่บัญญัติว่า “มาตรา ๓๔ บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจำกัดเสรีภาพดังกล่าวจะกระทำมิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชน”
บัญญัติกฎหมายข้อนี้ ควรครอบคลุมและคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกขั้นพื้นฐาน การเสนอความเห็น การวิพากษ์วิจารณ์ แต่จากการจับกุมนักกิจกรรม นักเคลื่อนไหว และความพยายามในการเซ็นเซอร์สื่อมวลชน สิ่งที่เราต้องตั้งคำถามคือ ความมั่นคงของรัฐคืออะไร และการธรรมรงค์ไว้ซึ่งความมั่นคงนั้นเป็นไปเพื่อคนส่วนใหญ่หรือคนบางกลุ่มกันแน่
เราขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรม นักศึกษา นักวิชาการ ผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองในขอบเขตการแสดงออกทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ ยืนยันสิทธิมนุษยชนให้มีเสรีภาพในการพูดและออกความเห็นทางการเมืองโดยปลอดภัย
เราไม่สนับสนุนและขอประนามการใช้ความรุนแรงทุกชนิดต่อผู้เห็นต่างทางการเมือง และขอต่อต้านการรัฐประหารไม่ว่าเงื่อนไขและบริบทของสถานการณ์การเมืองจะเป็นเช่นไร
เราทุกคนต้องอยู่ร่วมกันและค้ำจุนกันและกันในสังคมนี้ต่อไป
ด้วยความเคารพในเสรีภาพ และชีวิตของทุกคน