ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุผู้ชุมนุมแจ้งขอจัดการชุมนุมแล้ว โดยขอให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตามกฎหมาย ยืนยันไม่ใช้รถฉีดน้ำควบคุมฝูงชน

แฟ้มภาพประชาไท

14 พ.ย.2563 Thai PBS รายงานเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ว่าพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณีการจัดการชุมนุมในวันนี้ว่า ทั้ง 3 กลุ่มได้แจ้งขอจัดการชุมนุมในที่สาธารณะแล้ว และตำรวจได้แจ้งข้อกำหนดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม รวมทั้งขอให้ทุกกลุ่มปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการชุมนุมในที่สาธารณะ ซึ่งตำรวจไม่ได้ปิดกั้นการชุมนุม แต่อยากให้คำนึงถึงผู้ใช้ทางสาธารณะของประชาชนคนอื่นด้วย

เบื้องต้นทราบว่า กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนจะพักค้างคืนในพื้นที่ชุมนุม ยืนยันว่าดูแลรักษาความสงบในพื้นที่ได้และไม่กังวลว่าจะมีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น ตำรวจจะไม่ใช้รถฉีดน้ำควบคุมผู้ชุมนุม แต่หากพบการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ตำรวจก็มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนวันนี้จะมีขบวนเสด็จพระราชดำเนินผ่านเส้นทางการชุมนุม ทางตำรวจได้แจ้งข้อกำหนดกับกลุ่มผู้ชุมนุมไว้แล้ว และเชื่อว่าจะปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้แจ้งไว้

สำหรับกรณีที่มีการเผยแพร่เพลงที่ชื่อว่า “ปฏิรูป” นั้น ขอให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ตรวจสอบและให้ข่าวกับสื่อมวลชน เนื่องจากเป็นเรื่องความมั่นคง

ขณะเดียวกัน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดรับสมัครตำรวจอารักขาและควบคุมฝูงชนหญิงจำนวน 150 นาย และวันนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้ให้โอวาท ก่อนจะที่จะเข้ารับการฝึกภาคสนามที่ค่ายนเรศวร จังหวัดเพชรบุรี เป็นเวลา 4 เดือน ซึ่งการเพิ่มกำลังอัตราจำนวนนี้ เพื่อไว้ใช้ปฏิบัติการควบคุมฝูงชน โดยเฉพาะผู้ชุมนุมที่มีเด็ก ผู้หญิง และผู้สูงอายุ เพื่อความเหมาะสมในการควบคุมฝูงชน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2563 ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่าพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ระบุถึงการดูแลการชุมนุมตลอดแนวถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 14 พ.ย. ว่าตั้งแต่ลานพระบรมรูปทรงม้าต่อเนื่องไปจนถึงสนามหลวง จะใช้กำลังตำรวจจำนวน 34 กองร้อย โดยไม่มีการปิดการจราจร และวางเครื่องกีดขวาง แต่ในจุดที่สำคัญจะมีการวางกำลัง เพื่อเตือนไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าใกล้สถานที่สำคัญ

ทั้งนี้ จะมีผู้ชุมนุมทั้งหมด 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มนักเรียนเลว นัดชุมนุมหน้ากระทรวงศึกษาธิการ และจะเคลื่อนขบวนมาสมทบที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 2.กลุ่มผู้หญิงปลดแอก นัดชุมนุมบริเวณสี่แยกคอกวัว และ 3.กลุ่มราษฎร ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวที่แจ้งการชุมนุมกับตำรวจไว้แล้ว

'ประยุทธ์' เข้าทำเนียบฯ ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ท่ามกลางอารักขา รอบทำเนียบฯ ปิดถนนทุกสายป้องกันผู้ชุมนุม

ก่อนหน้านี้เวลา 7.30 น. Thai PBS รายงานว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 37 ผ่านการประชุมระบบทางไกล

ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณ ถ.ราชดำเนินนอก ที่ปิดการจราจรบางช่วง และถ.พิษณุโลก เพื่อป้องกันผู้ชุมนุมเข้ามายังทำเนียบรัฐบาล

บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ มีรั้วเหล็กกั้นเป็นแนว ริมทางเท้าเกาะกลางถนน ตลอดแนวไปถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ พร้อมป้ายข้อความ “เขตห้ามเข้า 50 เมตร ทำเนียบรัฐบาล”

ซึ่งช่วงบ่ายวันนี้ มีกลุ่มนักเรียนเลว นัดชุมนุมหน้ากระทรวงศึกษาธิการ และจะปราศรัย 1 ชั่วโมง ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปสมทบการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขณะที่รั้วด้านหน้าของกระทรวงปิดทำการ มีเพียง รปภ. ของกระทรวงฯ ที่ยืนอยู่ภายใน

บริเวณ ถ.ราชดำเนินกลาง ช่วงแยกสะพานผ่านฟ้า ไปจนถึงแยกโรงแรมรัตนโกสินทน์ มีรั้วเหล็กของเจ้าหน้าที่ นำมาวางเป็นแนวของการจัดระเบียบ ทั้งริมทางเท้าทั้ง 2 ด้าน ของถ.ราชดำเนิน และ เกาะกลางถนน ซึ่งเจ้าหน้าที่นำมากั้นไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้

โดยวันนี้ ที่จะมีการชุมนุมของกลุ่มคนที่รวมตัวกันกว่า 20 เครือข่าย ตั้งแต่เวลา 14.00 น. จนท.เตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยการชุมนุม

เวลา 11.00 น.บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เริ่มมีมวลชนและการ์ดอาชีวะ เริ่มลงพื้นที่กำหนดจุดลงทะเบียนสื่อ เต๊นท์สวัสดิการ และรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้ามาตั้งเวที 3 จุด บริเวณแยกสะพานผ่านฟ้า อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และบริเวณแยกคอกวัว

ต่อมา เวลา 11.40 น. รถตำรวจและรถควบคุมผู้ต้องขัง ขับเข้าไปเตรียมกำลัง ภายในรั้วทำเนียบรัฐบาล

เวลา 11.45 น.หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด (EOD) นำชุดตรวจหาสิ่งแปลกปลอม และนำสุนัขดมกลิ่น เดินสำรวจสแกนทุกจุด บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสนามไชย ถ.สนามไชย เขตพระนคร พร้อมกับตั้งเต้นท์ จุดคัดกรองประชาชน ที่จะมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ ในเย็นวันนี้ ตามหลักปฎิบัติสากล

ตร.ออกข้อกำหนดให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะ-ไม่ปิดกั้นการชุมนุม

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานว่าพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) กล่าวถึงดูแลสถานการณ์การชุมนุมวันนี้ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 3 กลุ่มในวันนี้ ได้ยื่นขอจัดการชุมนุมต่อทางสน.ชนะสงครามซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้ดูแลการชุมนุมสาธารณะแล้ว ประกอบด้วย กลุ่ม MOB FEST ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หน้าร้านแมคโดนัลด์ กลุ่มนักเรียนเลว ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ และกลุ่มผู้หญิงปลดแอกที่บริเวณแยกคอกวัว

ซึ่งทาง สน.ชนะสงคราม ได้แจ้งเงื่อนไขต่อกลุ่มต่างๆ ดังนี้ กลุ่ม MOB FEST กำหนดเงื่อนไข ให้กลุ่มผู้ชุมนุมควบคุมคนให้อยู่บนบาทวิถี หน้าร้านแมคโดนัลด์เท่านั้น ห้ามเคลื่อนไปจุดอื่นๆ หากกรณีผู้ชุมนุมเต็มทางเท้าให้ลงมาได้ 1 ช่องจราจรเท่านั้น และให้ตั้งเวทีหันหน้าไปทางแยกคอกวัว

ส่วนกลุ่มของนักเรียนเลว กำหนดเงื่อนไขคือ กลุ่มผู้จัดชุมนุมขอเคลื่อนขบวนจากหน้ากระทรวงศีกษาธิการไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทางสน.ชนะสงครามกำหนดให้ดำเนินการให้เสร็จก่อนเวลา 15.00 น.

สำหรับกลุ่มที่ 3 ผู้ดูแลการชุมนุม มีเงื่อนไขให้ผู้จัดการชุมนุมให้ผู้ชุมนุมอยู่ในบริเวณแยกคอกวัวเท่านั้น ห้ามเคลื่อนไปจุดอื่น

นอกจากนี้ ยังได้กำหนดให้ทั้ง 3 กลุ่มดำเนินการในรูปแบบเดียวกัน คือ 1. ห้ามใช้ข้อความหมิ่นประมาท ดูหมิ่น ยุยง ปลุกระดม ให้เกิดความวุ่นวาย

2.ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมหรือใช้เส้นทางอื่นที่ไม่ได้แจ้งไว้

3.ห้ามใช้เครื่องเสียงที่มีอัตราเสียงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือ ที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณา โดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 คือ เครื่องเสียงที่ใช้ได้ต้องไม่เกิน 115 เดซิเบล หรือค่าเฉลี่ยไม่เกิน 75 เดซิเบล

4. การชุมนุมต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี ไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นเกินควร

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับการใช้เจ้าหน้าที่ในการดูแลผู้ชุมนุมวันนี้ ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกเป็น 3 โซนหลัก ๆ ได้แก่ โซนแรก หน้ากระทรวงศึกษาธิการ-สะพานมัฆวานฯ โซนสอง แยกจปร. แยกผ่านฟ้า อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แยกคอกวัว และ โซนสาม บริเวณรอบท้องสนามหลวง โดยใช้กำลัง 35 กองร้อย

นอกจากนี้ยังมีกำลังชุดเคลื่อนที่เร็ว และกำลังชุดอื่นๆ ที่ดูแลพื้นที่และสถานที่สำคัญในกทม. รวมทั้งสิ้น 53 กองร้อย

เผยกำลังส่งเพลง ‘ปฏิรูป’ ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบ หากพบมีความผิดจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน The Reporters รายงานเพิ่มเติมว่าพลตำรวจตรียิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในวันนี้เวลา 17.00 น. จะมีหมายกำหนดการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดสถานีรถไฟฟ้าสนามไชย โดยจะใช้เส้นทางจากพระราชวังดุสิต มายังถนนราชดำเนินนอก ถนนราชดำเนินกลาง และเข้าถนนสนามไชย จากนั้นจะประทับรถไฟฟ้าใต้ดินไปยังสถานีรถไฟหลักสอง ส่วนเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินกลับ จะใช้เส้นทางถนนกาญจนาภิเษก เข้าถนนบรมราชชนนี ขึ้นสะพานพระราม 8 กลับมายังพระราชวังดุสิต จึงขอเชิญชวญประชาชนเฝ้ารับเสด็จตลอดเส้นทางได้ โดยจะมีตำรวจนครบาลดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง

สำหรับกรณีที่กลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship นำเพลงที่ชื่อว่า ปฏิรูป เผยแพร่ในยูทูป แล้วมีการใช้ถ้อยคำที่พาดพิงบุคคลอื่นนั้น พลตำรวจตรียิ่งยศ เปิดเผยว่า การเผยแพร่เพลงต่างๆ สามารถกระทำได้ แต่ต้องไม่ไปละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเพลงดังกล่าวให้กับฝ่ายกฎหมาย กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีความผิดในข้อหาใดบ้าง แต่ตำรวจยืนยันจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ความผิดที่ตำรวจสามารถแจ้งข้อหากับผู้ผลิตเพลง หากตรวจสอบแล้วมีการกระทบสิทธิ์ หรือเข้าข่ายผิดกฎหมายในข้อใดข้อหนึ่ง ส่วนที่สอง คือ หากผู้ที่ฟังแล้วพบว่ากระทบสิทธิ์ของตัวเอง ก็สามารถมาร้องทุกข์ให้ตำรวจดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย และหากมีผู้มาร้องทุกข์ตำรวจก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งหากมีความผิดจริงตำรวจก็จะร้องให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม และสำนักงาน กสทช. สั่งให้นำออกจากระบบคอมพิวเตอร์