20 พ.ย. 2563 มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) เปิดเผยว่า เครือข่ายประชาชนผู้ฟ้องคดีเตรียมยื่นหนังสือถึงประธานศาลปกครองสูงสุดเพื่อให้เร่งรัดการพิจารณาคดีฟ้องเพิกถอนผังเมือง EEC ในวันที่ 23 พ.ย. 2563 หลังผ่านไป 4 เดือน ศาลปกครองสูงสุดยังไม่มีคำสั่งรับฟ้องของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก 3 จังหวัด
คดีนี้ เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ระยอง และชลบุรี ยื่นฟ้องคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกและคณะรัฐมนตรีต่อศาลปกครองสูงสุด เมื่อ 16 ก.ค. 2563 เพื่อเพิกถอนประกาศแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินฯ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินฯ ที่มีผลเป็นการยกเลิกผังเมืองเดิม และเปลี่ยนแปลงพื้นที่ชนบทเกษตรกรรมเป็นพื้นที่รองรับอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น ทำลายความคุ้มครองหลักด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชุมชนและประชาชนในพื้นที่ กระทบถึงอาชีพและคุณภาพชีวิตของประชาชนจำนวนมาก
มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อมระบุว่า นับจากวันที่ 16 ก.ค. 2563 ผู้ฟ้องคดีติดตามตรวจสอบสถานะคดีอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแจ้งว่าคดียังอยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาคำฟ้อง เพื่อมีคำสั่งว่าศาลจะรับฟ้องไว้พิจารณาหรือไม่ แต่ผ่านไปกว่า 4 เดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าว่าศาลจะมีคำสั่งรับฟ้องไว้พิจารณาหรือไม่
คดีนี้ถือเป็นคดีสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบในวงกว้างและอยู่ในความสนใจของสาธารณะและสื่อมวลชนจำนวนมาก เนื่องจากผังเมือง EEC มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดการใช้ประโยชน์พื้นที่ไปจากเดิม ไม่สอดคล้องกับระบบนิเวศ ลักษณะทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต และภูมิปัญญา อันหลากหลายของชุมชนและสังคม โดยปัจจุบันมีโครงการและกิจการต่าง ๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนจำนวนมากสามารถดำเนินการขออนุญาตและประกอบกิจการโดยอาศัยผังเมือง EEC ที่มีปัญหาความไม่ชอบด้วยกฎหมายได้ในระหว่างที่ยังไม่มีการระงับหรือยกเลิกเพิกถอน
มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม ระบุว่า เมื่อยังไม่มีความคืบหน้าเช่นนี้ ผู้ฟ้องคดีในพื้นที่ต่างๆ จึงจะเดินทางมายื่นหนังสือเพื่อติดตามสอบถามถึงความคืบหน้าของคดีนี้จากประธานศาลปกครองสูงสุดเพื่อให้เร่งรัดการพิจารณาคดีนี้โดยเร็ว เพื่อคุ้มครองสิทธิการดำรงชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีของผู้ฟ้องคดีและประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอันเป็นประโยชน์สาธารณะต่อไป ในวันที่ 23 พ.ย. 2563 ณ ศาลปกครองสูงสุด