'อรรถพล บัวพัฒน์' หรือ 'ครูใหญ่' เผยหลังปารีณาเข้าเเจ้งความคดีหมิ่มกษัตริย์ ย้ำไม่หวั่นไหว พร้อมใช้เสรีภาพของตัวเองเข้าเเลกกับเสรีภาพของประชาชน ระบุยังไม่เคยเที่ยวโพธาราม คาดว่าอีกไม่นานคงได้ไป

23 พ.ย. 2563 อรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ ให้สัมภาษณ์ก่อนการชุมนุมของ เครือข่ายเเรงงานเพื่อสิทธิประชาชน บริเวณตรงข้ามห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต วันนี้ โดยระบุถึงกรณีการถูกแจ้งความดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดย ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ

อรรถพล เปิดเผยว่า ปารีณาทำงานขยันขันแข็ง แต่ตน ไม่ได้หวั่นไหวต่อการแจ้งความและเข้าใจว่านี่คืออุบายที่รัฐจะใช้เพื่อให้คนเหนื่อยกับการโดนคดี โดยใช้การแจ้งความในหลายพื้นที่ในหลายจังหวัด สำหรับอำเภอโพธารามนั้นตนเองก็ยังไม่เคยได้เดินทางไป แต่ก็คาดว่าอีกไม่นานคงจะได้ไป

“การที่ภาครัฐหรือผู้สนับสนุนภาครัฐ พยายามใช้กฎหมายมาตรา 112 กับผู้เห็นต่าง นั่นเท่ากับว่าคุณกำลังใช้ต้นทุนสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ นั่นคือความศรัทธาของประชาชน กรุณาอย่านำสถาบันมาเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมืองโดยตรง เพราะคุณเอาสถาบันมาเกลือกกลั้วกับพวกคุณมานานมากพอแล้ว” อรรถพล กล่าว

อรรถพล กล่าวต่อว่า กฎหมายมาตรานี้มีโทษสูง แต่การที่เดินมาถึงวันนี้ก็ได้เตรียมใจไว้พอสมควรแล้ว ไม่หวั่นไหว อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด หากเสรีภาพของตน มันสามารถแลกกับเสรีภาพของประชาชนในประเทศนี้ ก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะแลก

เขาย้ำด้วยว่า ที่ผ่านมามีแต่เพียงการพูดถึงเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ไม่ใช่การล้มล้าง และการพูดก็ไม่ได้ระบุเฉพาะเพียงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่เป็นการพูดถึงในนามสถาบัน และขอให้ปารีณาช่วยใช้สติปัญญาแยกแยะด้วยว่า การพูดถึงสถาบันของตนนั้นเป็นการพูดถึงองคาพยพทั้งหมด

“เข้าใจว่ามีสติปัญญาอยู่อย่างจำกัด มีสติปัญญาอย่างพอเพียง แต่ก็ขอให้ใช้ความพอเพียงให้มีประสิทธิภาพที่สุด” อรรถพลกล่าว