'ธนาธร' เปิดปราศรัยกลุ่มแรงงาน เชิญใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

'ธนาธร' เปิดปราศรัยกลุ่มแรงงาน เชิญใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. ปลุกพลังต่อสู้ทางการเมืองยกระดับสวัสดิการแรงงาน ชี้บทเรียนขบวนการแรงงานถูกอภิสิทธิ์ชนย่อยสลาย-ยกกรณี พ.ร.บ.แรงงานถูกนายกฯ ปัดตก -- ย้ำแรงงานไทยต้องร่วมสู้บนถนนการเมือง

ทีมสื่อคณะก้าวหน้า รายงานว่าเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2563 ในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีสภาองค์กรลูกจ้างแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย (สอยท.) ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองปู่เจ้าสมิงพราย ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมปราศรัยแสดงวิสัยทัศน์ในหัวข้อ “การเปลี่ยนแปลงประเทศไทยเริ่มได้ที่บ้านเรา” ในฐานะส่วนหนึ่งของการรณรงค์เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 20 ธ.ค. นี้

ชี้นโยบายคณะก้าวหน้าท้องถิ่นมุ่งสร้างสวัสดิการพื้นฐานสู่ทุกคน - สานต่ออุดมการณ์อนาคตใหม่

โดยตอนหนึ่ง นายธนาธร ระบุว่านี่เป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งแรกในรอบกว่าสิบปี นับจากปี 2555 มา คนส่วนใหญ่อาจจะลืมไปแล้วว่าครั้งล่าสุดที่ไปเลือกมาคือเมื่อไหร่และไปเลือกใครมา เพื่อนแกนนำสหภาพแรงงานทุกคนในที่นี้ ถ้าเข้าใจไม่ผิดน่าจะอยู่ในกลุ่มโรงงานสี่จังหวัดภาคตะวันออก ไม่ว่าจะเป็นสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง สี่จังหวัดภาคตะวันออกนี้น่าสนใจ การเมมืองท้องถิ่นถูกผูกขขาดโดยเพียงไม่กี่ตระกูลมาเป็นสิบๆปี โอกาสมาถึงแล้วที่เราจะเปลี่ยนแปลง

หลายคนถามตนว่าแล้วการเลือกตั้งท้องถิ่นเกี่ยวอะไรกับชีวิตของเรา ไม่ทราบว่าองค์กรปกครองท้องถิ่นต่างๆมีหน้าที่อะไรบ้าง จนหลายคนไม่สนใจ และออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเพียงประมาณ 50% เท่านั้น หลายคนไม่เข้าใจว่าในระดับจังหวัดจะเลือกไปทำอะไร

แต่สิ่งที่นายก อบจ.ทำ ก็คือการจัดบริการสาธารณะให้กับประชาชนในระดับจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสาธารณะ การจัดการขยะ สุขอนามัย การศึกษา ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่ใกล้ชืดกับชีวิตของพี่น้องประชาชนทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้คณะก้าวหน้าจึงให้ความสำคัญกับการเมืองท้องถิ่นมาก และตัดสินใจส่งผู้สมัครในนามคณะก้าวหน้าถึง 42 จังหวัด และมีนโยบายที่มุ่งหวังให้เกิดสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่ดูแลทุกคนในพื้นที่

นโยบายของเราเน้นเรื่องความเท่าเทียม เน้นเรื่องสวัสดิการสังคม คือหลักคิดที่สานต่อมาจากหลักคิดของพรรคอนาคตใหม่ การเมืองที่ดีจะตอบสนองชีวิตของประชาชนได้ และต้องเริ่มจากรากฐาน ประชาธิปไตยในระดับชาติจะมั่นคงแข็งแรงได้ ท้องถิ่นต้องแข็งแรง เศรษฐกิจของชาติจะเข้มแข็งได้ เศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นต้องเข้มแข็งด้วย

ด้วยการนี้ เราตั้งใจทำงานการเมืองท้องถิ่นบนหลักการสำคัญ 3 ข้อ เราแตกตัวมาจากพรรคอนาคตใหม่ และยังคงหลักการเดิม นั่นคือ 1) การต่อสู้เพื่ออำนาจอธิปไตยของประชาชนและประชาธิปไตยในประเทศนี้ 2) ไม่ซื้อสิทธิซื้อเสียง 3) ไม่ทุจริตคอรัปชั่น นั่นคือส่งที่เราอยากทำ และด้วยหลักการสามข้อนี้ สร้างการเมืองที่มีคุณภาพ ทำให้ประชาชนเห็นวาประชาธิปไตยกินได้จริง

การเลือกตั้งในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ยังไม่ได้เป็นแค่เรื่องของท้องถิ่น แต่ยังเป็นการส่งเสียงถึงสถานารณ์การเมืองระดับชาติด้วย นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนกำลังส่งเสียงเรียกร้องประชาธิปไตย พวกเขาถูกข่มขู่คุกคาม ทำให้ตกอยู่ภายใต้ความกลัว เราอยากให้ลูกหลานของเราเติบโตมาในสังคมแบบนี้หรือ? เรามีโอกาสที่จะใช้บัตรเลือกตั้งของเราในทุกครั้ง ส่งเสียงของประชาชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงให้บ้านเมืองดีขึ้น

“ถ้าเราเลือกตั้งด้วยเจตจำนงที่เสรี ด้วยความกล้าหาญ ต่อสู้กับระบบอุปถัมภ์และการซื้อสิทธิซื้อเสียง อีกไม่เกิน 10 ปีประเทศไทยเปลี่ยนแน่นอน ถ้าเราสร้างการเมืองที่มีคุณภาพขึ้นมาได้ ประเทศไทยเปลี่ยนแน่นอน และนี่คือสิ่งที่เราอยากจะทำ หลายคนไม่เชื่อว่าแนวคิดแบบนี้เป็นไปได้ แต่เราทำให้เห็นแล้วว่ามันเป็นไปได้จริงในการเลือกตั้งระดับชาติที่ผ่านมา และเราจะทำให้เห็นอีก และถ้าเป็นไปได้ สี่จังหวัดนี้ผมอยากให้เราชนะในทุกจังหวัด เพราะผมเชื่อว่าสมุทรปราการดีกว่านี้ได้ ระยองน่าอยู่กว่านี้ได้ ชลบุรีดีกว่านี้ได้ ฉะเชิงเทราไปไกลกว่านี้ได้ ถ้าเราทำให้เป็นจริงได้ เราจะทำให้ให้ประชาชนเห็นว่าประชาธิปไตยที่กินได้เป็นอย่างไร” นายธนาธรกล่าว

ชี้บทเรียนขบวนการแรงงานถูกอภิสิทธิ์ชนย่อยสลาย-ยกกรณี พ.ร.บ.แรงงานถูกนายกฯ ปัดตก -- ย้ำแรงงานไทยต้องร่วมสู้บนถนนการเมือง

นายธนาธรยังกล่าวว่าสุดท้ายนี้ ตนอยากพูดถึงความสำคัญของขบวนการแรงงานกับการเมือง สำหรับตนแล้ว สิ่งหนึ่งที่ฝ่ายอนุรักษ์ประสบความสำเร็จมากที่สุดในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา คือการทำลายขบวนการแรงงานให้แบ่งแยกออกจากกัน ให้การต่อสู้เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีเป็นเรื่องสถานประกอบการนั้นๆ ไม่ใช่เรื่องการเมือง

นานมากแล้ว ที่ชนชั้นแรงงานไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวร่วมกันทั้งขบวนการเพื่อผลประโยชน์ของชนชั้น และนี่คือสำเร็จของชนชั้นอภิสิทธิ์ชน บอกเราเสมอว่าแรงงานอย่าไปยุ่งกับการเมือง การเมืองเป็นเรื่องสกปรก แล้วเมื่อเราไม่ยุ่งกับการเมือง อภิสิทธิ์ชนก็ไม่ต้องแบ่งปันดอกผลของการพัฒนามาให้กับชนชั้นอื่น เอาดอกผลการพัฒนาไปได้อย่างเต็มที่

ถ้าเรายังไม่ตระหนักเรื่องนี้ ขบวนการแรงงานจะอ่อนแอกว่านี้ สำหรับตนการเมืองเป็นเรื่องของการสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้กับคนยุคนี้และยุคหน้า จะเอาอีกหรือ สังคมที่คนรวยคนมีอำนาจทำอะไรก็ไม่เคยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะที่คนจนไม่มีอำนาจทำอะไรก็ผิดกฎหมาย? จะเอาอย่างนี้ต่อไปหรือ เศรษฐกิจที่ถูกผูกขาด เหล้าเบียร์ พลังงาน คนเล็กคนน้อยอยากทำมาหากินไม่มีช่องทางที่จะเติบโต?

พ.ร.บ.แรงงานที่เพิ่งถูกปัดตกจากสภาโดยนายกรัฐมนตรี เป็นหนึ่งในเรื่องที่เราเสียใจมาก มันมาจากประชาชน อย่างน้อยควรจะให้สภาผู้แทนราษฎรได้หารือกัน หากเราไปดูสวัสดิการของประเทศที่ก้าวหน้าทั้งหมด มันล้วนมาจากการเรียกร้องของสหภาพแรงงานที่ต่อสู้เพื่อให้ได้มา อย่าไปเชื่อว่าแรงงานไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเพราะการเมืองเป็นเรื่องสกปรก ถ้าเราไม่ยุ่ง ไม่มีทางที่เรื่องของสวัสดิการอย่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะผ่านได้เลย ถ้าเขาเกรงใจแรงงานมากพอ พ.ร.บ.ฉบับนี้ต้องผ่านสภาไปแล้ว

“ดังนั้น ใช้บัตรเลือกตั้งของเรา ใช้สทธิของเราในฐานะประชาชน สิทธิพลเมือง ไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์บนนถนน ต่อข้อเรียกร้องเพื่อเสรีภาพ-ประชาธิปไตย ต่อข้อเรียกร้องเพื่อสวัสดิการที่ก้าวหน้ามากกว่านี้ ให้มันได้ถูกใช้ในสภา ในทุกการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะระดับชาติ ระดับจังหวัด เทศบาล ตำบล ส่งเสียงของคนที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงออกมา ว่าเราจะไม่ทนกับประเทศแบบนี้อีกแล้ว เรามีภาษีอีกมากมายที่ถูกเอาไปใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนที่ผูกขาด เราต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนจะเกิดขึ้นได้มีอยู่ทางเดียว คือการใช้สิทธิพลเมืองของเรา ไม่ว่าจะผ่านบัตรเลือกตั้งหรือการรณรงค์บนท้องถนน” นายธนาธรกล่าวทิ้งท้าย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท