คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยและสวัสดิภาพของเด็กในพื้นที่การชุมนุมแนะผู้ปกครองไม่ควรพาเด็กเล็กเข้าร่วมชุมนุม ย้อนอ่านความเห็นกลุ่ม ‘ในม็อบมีเด็ก’ จัดกิจกรรมให้ความรู้ผู้ชุมนุมเรื่องการดูแลเด็กในพื้นที่ชุมนุม ย้ำเด็กสามารถมาร่วมชุมนุมได้โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาดูแลเลยด้วยซ้ำ โดยที่รัฐไม่ควรใช้วิธีการคุกคามหรือใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบตั้งแต่แรก
1 ธ.ค.2563 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รายงานว่าประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการสิทธิ
กสม. เห็นว่า เด็ก ตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child - CRC) หมายถึง บุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มีสิทธิและเสรี
อย่างไรก็ดี เนื่องจากเด็กและเยาวชนที่เข้
“ไม่ว่าในสถานการณ์ใด ๆ กสม. เห็นว่าทุกฝ่ายต้องคำนึงถึ
กลุ่ม ‘ในม็อบมีเด็ก’ จัดกิจกรรมให้ความรู้ผู้ชุมนุมเรื่องการดูแลเด็กในพื้นที่ชุมนุม
ขณะที่เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา ในพื้นที่การชุมนุม ที่บริเวณหน้าเซ็นทรัลเวิล์ด กลุ่ม ‘ในม็อบมีเด็ก’ ซึ่งเป็นกลุ่มที่รวมตัวกันหลายองค์กร ทั้งกลุ่มสิทธิเด็กและคนที่ทำงานด้านสุขภาพจิตเด็ก จัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องสิทธิเด็ก การดูแลเด็กในพื้นที่ชุมนุม และชวนผู้ชุมนุม, ผู้ปกครอง รวมถึงเด็ก ร่วมติดสติ๊กเกอร์สถิติ ‘เด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากการสบายการชุมนุม’ ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. - 17 พ.ย. 63 Child in mobs. #ในม็อบมีเด็ก โดยใช้สีต่างๆ เป็นตัวกำหนดช่วงอายุของเยาวชน
รวงทัพพ์ แก้วแกมจันทร์ สมาชิกกลุ่มในม็อบมีเด็ก กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้ว่า เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ร่วมชุมนุมทุกคนรู้จักพื้นที่ปลอดภัยและจุดปฐมพยาบาลสำหรับเด็กภายในม็อบ รวมถึงวิธีการดูแลเด็กหากมีการสลายการชุมนุม
รวงทัพพ์ กล่าวต่อว่า สิทธิการแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิของเด็ก เด็กควรที่จะได้รับการคุ้มครองตั้งแต่มาม็อบตลอดจนกลับบ้าน แต่ที่ผ่านมาไม่มีการคำถึงถึงความปลอดภัยของเด็กเท่าที่ควร ยกตัวอย่างเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวานนี้ (17 พ.ย.63) มีการสลายการชุมนุมที่บริเวณรัฐสภาเกียกกาย เด็กหลายคนได้รับผลกระทบทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทางกลุ่มจึงตัดสินใจตัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเพื่อนให้ความรู้เกี่ยวกับการคุ้มครองเด็ก
รวงทัพพ์ กล่าวต่อว่า ผู้ใหญ่หลายคนกังวลไม่อยากให้เด็กไปร่วมชุมนุมซึ่งทำตัวคล้ายกับรัฐที่ไม่อยากให้มา แต่จริงๆ เด็กมีสิทธิ์โดยชอบธรรมที่จะเข้าร่วมเพราะมันคือความรู้สึกที่เขาเจอ และมีผลประโยชน์ที่เขาต้องดำเนินต่อไป และมันคืออนาคตของตัวเขาเอง
“เราไม่ได้บอกว่าเราจะชวนเด็กมาม็อบ แต่เราบอกว่าการมาม็อบต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง และความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึง ผู้ปกครองหรือแกนนำก็ต้องคำนึงถึง แต่พื้นที่ม็อบในไทยมันไม่เคยถูกทำให้ปลอดภัยมาโดยตลอด”
เขามองว่าความอันตรายมันไม่ควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว “เรารู้สึกว่าม็อบมันสามารถทำให้มันปลอดภัยได้ ยกตัวอย่างในต่างประเทศในระดับสากล เด็กสามารถมาร่วมชุมนุมได้โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาดูแลเลยด้วยซ้ำ รัฐไม่ควรใช้วิธีการคุกคามหรือใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบในการชุมนุมโดยสันติวิธีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” รวงทัพพ์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว