Skip to main content
sharethis

5 ธ.ค. 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 19 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกัน (Quarantine Facilities) 13 ราย จากมาเลเซีย 1 ราย อินเดีย 1 ราย สวีเดน 1 ราย สหราชอาณาจักร 1 ราย สหรัฐอเมริกา 3 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 2 ราย เนเธอร์แลนด์ 1 ราย เม็กซิโก 1 ราย และเมียนมา 2 ราย , อีก 4 รายเดินทางมาจากเมียนมา แต่ไม่ได้เข้าในสถานที่กักกัน และเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 2 ราย จากจ.เชียงรายและสิงห์บุรี

สำหรับผู้ป่วยยืนยันรายใหม่วันนี้

- ชาวต่างชาติ เดินทางมาจากอินเดีย สวีเดน และเมียนมา ประเทศละ 1 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 2 ราย
- ชาวไทย เดินทางมาจากมาเลเซีย สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ เม็กซิโก ประเทศละ 1 ราย สหรัฐอเมริกา 3 ราย และ เมียนมา 5 ราย
- ผู้ติดเชื้อในประเทศ โดยสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 2 ราย

ทั้ง 19 ราย อยู่ในสถานกักกัน/โรงพยาบาลในสิงห์บุรี 1 ราย, เชียงใหม่ 1 ราย, ยะลา 1 ราย, ตาก 1 ราย, เชียงราย 4 ราย, ชลบุรี 5 ราย และกรุงเทพฯ 6 ราย โดยมีอาการป่วย 9 ราย

จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศ ล่าสุดอยู่ที่ 4,072 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,457 ราย และผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 1,615 ราย ส่วนผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มอีก 9 ราย รวมเป็น 3,848 ราย ยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 164 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 60 ราย

สธ.-ททท.-จ.เชียงใหม่ ผนึกกำลังคุมเข้มมาตรการคัดกรองโควิด สร้างความมั่นใจท่องเที่ยว

นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วยนายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ "ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอดภัย อุ่นใจ ห่างไกล COVID 19" พร้อมทั้งมอบป้ายมาตรฐาน SHA ให้กับผู้ประกอบการโรงแรม สถานประกอบการ ผู้ขับขี่ Grab Taxi และร้านอาหารในจังหวัดเชียงใหม่

นพ.สราวุฒิ กล่าวว่า จากสถานการณ์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย ซึ่งจากเดิมในช่วงปลายปีคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางกันเป็นจำนวนมากนั้น แต่จากสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดตามมาได้ โดยขอให้ประชาชนและทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ที่คุมเข้มตั้งแต่ การคัดกรอง สวมหน้ากาก และล้างมือ

ดังนั้น กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และจังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมรณรงค์ "ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอดภัย อุ่นใจ ห่างไกล COVID 19" ขึ้น เพื่อเน้นย้ำให้ประชาชนและผู้ประกอบกิจการต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง พื้นที่ภาคเหนือ ปฏิบัติตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA อย่างต่อเนื่อง

สำหรับประชาชนในพื้นที่ต้องให้ความร่วมมือด้วยการสวมหน้ากากทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน ล้างมือบ่อย ๆ และเว้นระยะห่างอยู่เสมอ ตามมาตรการหลักสำคัญด้านสาธารณสุข เพื่อลดความเสี่ยง จากการแพร่กระจายของโรคโควิด 19

ในส่วนของผู้ประกอบกิจการต่าง ๆ นั้น ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 2 อย่างเคร่งครัด ตั้งแต่มีระบบการคัดกรองก่อนเข้ามาใช้บริการ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และจัดให้มีอุปกรณ์ป้องกันตนเองที่จำเป็นสำหรับพนักงาน รวมทั้งจัดให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือมีเจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือไว้บริการอย่างเพียงพอ เช่น บริเวณทางเข้าออก หน้าลิฟต์ จุดประชาสัมพันธ์ จุดชำระเงิน และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร บริเวณทางเข้าออก บันไดเลื่อน ภายในลิฟต์ เพื่อลดความแออัด พร้อมทั้งให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม "ไทยชนะ" (www.ไทยชนะ.com) ก่อนเข้ารับบริการในสถานที่ต่าง ๆ เพื่อบันทึกข้อมูลการเข้า-ออก ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด-19

จ.ตาก พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่เพิ่มอีก 1 คน

เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงและผู้เกี่ยวข้อง ใน จ.ตาก ลงพื้นที่ค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิด เพื่อคัดกรองและส่งตรวจหาเชื้อ เพราะล่าสุดโรงพยาบาลแม่สอด ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มอีก 1 คน เป็นชายอายุ 43 ปี ชาวปากีสถาน อาชีพนักธุรกิจขายรถมือ 2 ประเทศญี่ปุ่นไปยังประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าไปตรวจร่างกายเพื่อขอใบรับรองแพทย์เดินทางไปประเทศสิงคโปร์ ไม่มีอาการป่วย ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแม่สอด

สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ เดือน พ.ย.เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ด้วยรถยนต์ส่วนตัว พักในโกดังเก็บรถของเพื่อนแถวรังสิต

- วันที่ 1 ธ.ค. ช่วงเช้าเดินทางไปรักษาโรคที่คลินิกแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ส่วนตอนเย็นไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ

-วันที่ 2 ธ.ค. เช้าไปติดต่อทำพาสปอร์ต ที่บริษัททิพย์ปัญญาการบัญชี ไปส่งเพื่อนในพื้นที่ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด และแวะซื้อของร้านสะดวกซื้อ ส่วนช่วงบ่ายไปบริษัทที่อยู่ชายแดน ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ไปกินข้าวที่ร้านไก่ย่าง และตอนเย็นออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อริมเมย

-วันที่ 3 ธ.ค. รับพัสดุที่คอนโดไปส่งของ รับเอกสารที่ทิพย์ปัญญาการบัญชี และเดินทางไปสนามบินเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน ช่วงบ่ายขอรับการตรวจ COVID-19 เพื่อจะเดินทางกลับสิงคโปร์ ส่วนช่วงเย็นไปกินข้าวที่ร้านไก่ย่างและกลับที่พัก

-วันที่ 4 ธ.ค. ผลตรวจพบติดเชื้อ COVID-19  

เบื้องต้นทีมสอบสวนโรคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จ.พิษณุโลก เร่งติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดเพื่อกักตัวตรวจหาเชื้อ แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 8 คน และผู้มีความเสี่ยงต่ำอีก 15 คน

"เชียงราย" พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มอีก 2 คน

คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ COVID-19 ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 คน ซึ่งทั้ง 2 คนเคยทำงานในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในประเทศเมียนมา และเดินทางลักลอบข้ามพรมแดนที่ อ.แม่สาย เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2563 และมีการเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย เมื่อวันที่ 27 พ.ย.

ทั้ง 2 คนเคยไปตรวจที่คลินิกแห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย แต่ไม่พบการติดเชื้อ แต่มีอาการไข้ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. จึงได้แจ้งให้โรงพยาบาลแม่สายมารับตัว เพื่อที่จะรักษาตัวในห้องแยกโรค และมีการเก็บตัวอย่าง เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. และพบว่ามีการติดเชื้อ COVID-19 ในช่วงค่ำของวันที่ 3 ธ.ค.

ขณะที่การป้องกันและควบคุม COVID-19 จ.เชียงราย ในวันนี้มีการนำรถชีวนิรภัยไปตรวจที่ว่าการ อ.เมืองเชียงราย เพื่อให้ผู้ที่ไปเที่ยวงานสิงห์ปาร์คเชียงราย วันที่ 29 พ.ย. และพนักงานสถานบันเทิง 4 แห่งที่พบผู้ติดเชื้อรายที่ 7 เดินทางไปเที่ยว ได้มาตรวจ

ผู้ว่าฯ เชียงราย ยืนยันเดินทางมาเที่ยวไม่ถูกกักตัว

ส่วนบรรยากาศท่องเที่ยว จ.เชียงราย ที่บริเวณหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ ยังพบนักท่องเที่ยวเดินทางมาถ่ายภาพ และท่องเที่ยว ตามท่องเที่ยววิถีใหม่ New normal ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ย้ำว่าไม่มีการปิดจังหวัดเชียงราย หรือใครเดินทางมาเที่ยวแล้วจะไม่ถูกกักตัวแต่อย่างใด ขณะที่ประชาชนใน จ.เชียงราย ใช้ชีวิตตามปกติ ตามแบบวิถีชีวิตใหม่ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย หากต้องไปในที่สาธารณะ

สำหรับยอดผู้ติดเชื้อใน จ.เชียงราย มีทั้งหมด 11 คน โดย 5 คนแรกอยู่ในสถานที่กักตัว ส่วนใหญ่มีอาการเล็กน้อย และรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ส่วนการตรวจค้นหาเชิงรุกใน จ.เชียงราย จำนวน 2,121 คน แต่ผลการตรวจทั้งที่สิงห์ปาร์คและสถานบันเทิงต่างๆ ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม

เชียงใหม่ยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายที่ 46

วันที่ 5 ธ.ค. 2563 เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมศรีเวียงพิงค์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 72/2563 พร้อมด้วย นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เลขานุการคณะกรรมการฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการร่วมครบองค์ประชุม

เสร็จสิ้นการประชุม นพ.กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ แถลงถึงผลการประชุมฯ ครั้งที่ 72/2563 โดยให้รายละเอียดสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 5 ธ.ค. 2563 ว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายล่าสุด ถือเป็นรายที่ 46 ของจังหวัดเชียงใหม่ หญิงไทย อายุ  26 ปี ทำงานที่สถานบันเทิงในท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เดินทางเข้าประเทศทางพรมแดนธรรมชาติ มาพร้อมกับผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 43, 44 จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2563 และได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.  ผลตรวจไม่พบเชื้อ ได้กักกันสังเกตอาการอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐกำหนด ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม มีอาการไข้ต่ำๆ ไอเล็กน้อย จึงได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลยืนยันพบเชื้อ รับตัวเข้ารักษาในห้องแยกโรคความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์ 

“ผลจากการสอบสวนโรคไม่พบผู้สัมผัสเพิ่มเติม เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้เป็นกลุ่มเดียวกันกับผู้ป่วยโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ รายก่อนหน้านี้ ซึ่งมีประวัติการเดินทางและสัมผัสผู้อื่นในกลุ่มเดียวกัน และหลังจากที่ได้รับการตรวจหาเชื้อครั้งแรก แม้ผลจะเป็นลบ แต่ก็ได้รับการกักกันตัวทันที” ผช.สสจ.เชียงใหม่ กล่าว

นายแพทย์กิตติพันธุ์ฯ กล่าวต่อว่า สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับคืบหน้าของการสอบสวนโรค กรณีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 43, 44 และ 45 จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยทั้ง 3 ราย ไม่มีอาการ ยังคงพักรักษาอยู่ที่ห้องแยกโรคความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์ การติดตามผู้สัมผัสในจังหวัดเชียงใหม่แยกเป็น 2 กรณี ผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง ผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 43,44 และ 46 จำนวน 7 ราย ตรวจแล้ว 3 ราย ผลตรวจเป็นลบทั้ง 3 ราย และผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำ จำนวน 17 ราย โดยทั้งหมดจะถูกเก็บสิ่งส่งตรวจเมื่อครบ 5 วัน หลังสัมผัสผู้ติดเชื้อ ในวันที่ 6 ธ.ค. 2563

“สำหรับผู้สัมผัส ผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 45 ไม่พบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงในจังหวัดเชียงใหม่ มีเพียงผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 5 ราย ซึ่งจะได้รับการเก็บสิ่งส่งตรวจในวันที่ 7 ธ.ค. (หลังสัมผัส 5 วัน) ขณะนี้ทั้ง 5 รายได้กักตัวเพื่อสังเกตอาการที่บ้านพัก และอยู่ในความดูแลของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อแต่ละพื้นที่” ผช.สสจ.เชียงใหม่ แจง

นายแพทย์กิตติพันธุ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าว่า ในวันที่ 6 ธ.ค. นี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ จะจัดรถพระราชทานชีวนิรภัย ตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงสัมผัส เวลา 09.00 น. บริเวณเทสโก้ โลตัส สาขาคำเที่ยง และเวลา 13.00 น. บริเวณตลาดศิริวัฒนา(ตลาดธานินท์) จึงขอให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางไปในสถานที่ตามวันเวลาเดียวกับผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 45 จังหวัดเชียงใหม่ เข้ารับการตรวจได้ตามวันเวลาดังกล่าว

ที่มาเรียบเรียงจาก: สำนักข่าวอินโฟเควสท์ [1] [2] | Thai PBS [1] [2] | ประชาสัมพันธ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net