Skip to main content
sharethis

กรณี รร.เทพศิรินทร์ออกแนวปฏิบัติขู่นร.ไม่แต่งเครื่องแบบ เรียกเข้าห้อง-คุยผู้ปกครอง-ให้หน่วยงานอื่นสอนแทน นร.เก่าเทพศิรินทร์ 703 คนออกแถลงการณ์ชี้แนวปฏิบัติดังกล่าวไม่ชัดเจน อาจส่งผลกระทบต่อสถานภาพการเป็นนักเรียน จี้แก้ไขแนวปฏิบัติ และขอให้รร.เป็นพื้นที่ถกเถียงที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์ตามหลักประชาธิปไตย

9 ธ.ค. 2563 กรณีเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา โรงเรียนเทพศิรินทร์เผยแพร่แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการแต่งกายของนักเรียน โดยมีใจความสำคัญว่า กรณีที่พบนักเรียนแต่งกายไม่เป็นไปตามระเบียบ/แนวปฏิบัติ/ข้อตกลงของโรงเรียนครูเวรประจำวัน ครูที่ปรึกษา หรือครูผู้สอน ปฏิบัติดังนี้ 1. ให้ครูที่พบนำนักเรียนไปที่ห้องกิจการนักเรียน เพื่อรับฟังคำชี้แจงและทำความเข้าใจกับนักเรียน 2. แจ้งผู้ปกครองและเชิญผู้ปกครองมารับทราบ เพื่อร่วมหาแนวทางดูแลช่วยเหลือนักเรียน และ 3. ในกรณีนักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบและแนวปฏิบัติของโรงเรียนได้ให้นักเรียนและผู้ปกครองลงชื่อยืนยัน รับรองข้อมูล ทั้งนี้ทางโรงเรียนจะประสานจัดหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดูแลนักเรียนในด้านการเรียน เพื่อให้นักเรียนสามารถศึกษาจนจบหลักสูตรได้

ประกาศโรงเรียนเทพศิรินทร์

เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับครูในการดูแลนักเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 เนื้อหาเกี่ยวกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมไปถึงแนวปฏิบัติของครูในการดำเนินการกับนักเรียนที่แต่งชุดไปรเวต โดยระบุให้นำเข้าห้องกิจการนักเรียน เรียกผู้ปกครอง พร้อมกับขู่ว่าหากปฏิบัติตามระเบียบไม่ได้ จะหาหน่วยงานอื่นมาดูแลต่อ

เพื่อให้การดูแลนักเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีแนวปฏิบัติชัดเจนและให้การปฏิบัติตนของนักเรียนเป็นไปด้วยความเหมาะสม

อาศัยอำนาจระเบียกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551 ประกอบกับบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างโรงเรียนเทพศิรินทร์กับผู้ปกครองนักเรียน มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 2019  (COVID-19) โรงเรียนเทพศิรินทร์ จึงกำหนดแนวปฏิบัติสำหรับครูในการดูแลนักเรียนดังนี้

1. ให้นักเรียนเช็กชื่อมาเรียนโดยผ่านประตูดิจิทัลเกต

2.ไม่นุญาตให้บุคคลภายนอก และ/หรือ ผู้ปกครอง ขึ้นบนอาคารเรียน (ยกเว้นมาติตต่อราชการที่ไต้รับการอนุญาตแล้ว)

3.ครูเวรประจำวันปฏิบัติหน้าที่ ตามจุดที่ได้รับมอบหมาย ตั้งแต่เวลา 06.30 น.

4.ดำเนินการตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยการตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจล แอลกอฮอล์ และสวมหน้ากากอนามัย ก่อนเข้าบริเวณโรงเรียน

5.ดูแลการแต่งกายของนักเรียนให้อยู่ในเครื่องแบบนักเรียนของโรงเรียนเทพศิรินทร์

6. กรณีที่พบนักเรียนแต่งกายไม่เป็นไปตามระเบียบ/แนวปฏิบัติ/ข้อตกลงของโรงเรียนครูเวรประจำวัน ครูที่ปรึกษา หรือครูผู้สอน ปฏิบัติดังนี้

6.1 ให้ครูที่พบนำนักเรียนไปที่ห้องกิจการนักเรียน เพื่อรับฟังคำชี้แจงและทำความเข้าใจกับนักเรียน

6.2 แจ้งผู้ปกครองและเชิญผู้ปกครองมารับทราบ เพื่อร่วมหาแนวทางดูแลช่วยเหลือนักเรียน

6.3 ในกรณีนักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบและแนวปฏิบัติของโรงเรียนได้ให้นักเรียนและผู้ปกครองลงชื่อยืนยัน รับรองข้อมูล ทั้งนี้ทางโรงเรียนจะประสานจัดหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดูแลนักเรียนในด้านการเรียน เพื่อให้นักเรียนสามารถศึกษาจนจบหลักสูตรได้

ทั้งนี้ ขอให้คุณครูทุกคนรับทราบและถือปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน

นายสุพจน์ หล้าธรรม

ผู้อำนวยการโรงเรียนเทพศิรินทร์

วันนี้ กลุ่มนักเรียนเก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์จำนวน 703 คนออกแถลงการณ์แสดงความไม่เห็นด้วยต่อกรณีดังกล่าว โดยระบุข้อเรียกได้แก่ 

1.ทบทวนและแก้ไขแนวปฏิบัติในการดูแลนักเรียนของโรงเรียนที่ระบุในประกาศดังกล่าวให้ชัดเจน เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์สามารถใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามหลักประชาธิปไตยได้

2.จัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างนักเรียนและคณาจารย์ เพื่อหาแนวทางร่วมกันในประเด็นต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ โดยปราศจากการคุกคามทั้งการกระทำและคำพูดจากทุกฝ่าย

3.ขอให้โรงเรียนเทพศิรินทร์รักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณสถานศึกษาที่เน้นให้นักเรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์เรียนรู้กระบวนการทางประชาธิปไตย ผ่านการใช้สิทธิเสรีภาพตามบทบัญญติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งโรงเรียนเทพศิรินทร์ในฐานะสถานศึกษาสมควรเป็นพื้นที่สำหรับการถกเถียงปัญหาสังคมอย่างปลอดภัย โดยโรงเรียนเทพศิรินทร์ ต้องทำหน้าที่คุ้มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและคุ้มครองสถานภาพของนักเรียนเทพศิรินทร์อย่างสุดความสามารถ

 

แถลงการณ์กลุ่มนักเรียนเก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์

เรื่อง ข้อเรียกร้องต่อแนวปฏิบัติสำหรับครูในการดูแลนักเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ในประกาศโรงเรียนเทพศิรินทร์ ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2563

สืบเนื่องจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ได้ออกประกาศโรงเรียนเทพศิรินทร์ เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับครูในการดูแลนักเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 ใน วันที่ 2 ธันวาคม 2563 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การดูแลนักเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีแนวปฏิบัติชัดเจนและให้การปฏิบัติตนของนักเรียนเป็นไปด้วยความเหมาะสมนั้น

กลุ่มนั้นเรียนเก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์จำนวน 703 คน ตามรายชื่อแนบท้ายของแถลงการณ์ มีความกังวลต่อประกาศดังกล่าวของโรงเรียนเทพศิรินทร์ ข้อ 5 ซึ่งระบุให้ครูดูแลการแต่งกายของนักเรียนให้อยู่ในเครื่องแบบนักเรียนของโรงเรียนเทพศิรินทร์ ข้อ 6 ซึ่งระบุถึงแนวปฏิบัติต่อนักเรียนที่แต่งกายไม่เป็นไปตามระเบียบ/แนวปฏิบัติ/ข้อตกลงของโรงเรียน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อ 6.3 ซึ่งระบุถึงการจัดหาหน่วยงานมาดูแลนักเรียนที่ไม่ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติดังกล่าว โดยอ้างถึงอำนาจระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ.2551 นั้น

แนวปฏิบัติดังกล่าว ขัดต่อระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ.2548 กำหนดโทษที่จะลงโทษแก่นักเรียนที่ประพฤติฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษาหรือกระทรวงศึกษาธิการได้เพียง 4 สถาน ได้แก่ 1.ว่ากล่าวตักเตือน 2.ทำทัณฑ์บน 3.ตัดคะแนนความประพฤติ และ 4.ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเท่านั้น นอกจากนี้ตามมาตรา 34 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 อันเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ยังได้รับรองเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดของนักเรียน ซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชนที่ผู้ใดละเมิดมิได้ เป็นเสรีภาพที่ถูกจำกัดได้ด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ภายใต้หลักพอสมควรแก่เหตุเท่านั้น ไว้เช่นกัน

การออกประกาศโรงเรียนเทพศิรินทร์ตามเนื้อหาเช่นนี้มีความไม่ชัดเจน โดยมีเนื้อหาที่อาจจะมีผลต่อสถานภาพการเป็นนักเรียนของโรงเรียนเทพศิรินทร์ และอาจจะเป็นการคุกคามต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามหลักประชาธิปไตยได้ กลุ่มนักเรียนเก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์จึงขอเรียกร้องให้โรงเรียนเทพศิรินทร์และผู้เกี่ยวข้องพิจารณาข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

1.ทบทวนและแก้ไขแนวปฏิบัติในการดูแลนักเรียนของโรงเรียนที่ระบุในประกาศดังกล่าวให้ชัดเจน เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์สามารถใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามหลักประชาธิปไตยได้

2.จัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างนักเรียนและคณาจารย์ เพื่อหาแนวทางร่วมกันในประเด็นต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ โดยปราศจากการคุกคามทั้งการกระทำและคำพูดจากทุกฝ่าย

3.ขอให้โรงเรียนเทพศิรินทร์รักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณสถานศึกษาที่เน้นให้นักเรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์เรียนรู้กระบวนการทางประชาธิปไตย ผ่านการใช้สิทธิเสรีภาพตามบทบัญญติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งโรงเรียนเทพศิรินทร์ในฐานะสถานศึกษาสมควรเป็นพื้นที่สำหรับการถกเถียงปัญหาสังคมอย่างปลอดภัย โดยโรงเรียนเทพศิรินทร์ ต้องทำหน้าที่คุ้มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและคุ้มครองสถานภาพของนักเรียนเทพศิรินทร์อย่างสุดความสามารถ

ทั้งนี้โรงเรียนเทพศิรินทร์ควรใช้โอกาสนี้ในการแสดงออกถึงการเป็นโรงเรียนต้นแบบประชาธิปไตย ที่เปิดโอกาสให้นักเรียน คณาจารย์ นักเรียนเก่า และผู้ปกครอง ได้แสดงออกและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมองต่างๆ บรรยากาศเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นผลดีต่อการสร้างประชาคมเพทศิริรินทร์ที่สามารถอยู่ร่วมกันโดยดีเท่านั้น แต่จะเป็นการฝึกให้นักเรียนเทพศิรินทร์สามารถก้าวออกไปเป็นพลเมืองที่รู้สึกผิดชอบต่อตัวเองและสังคม และเป็นผู้นำทางความคิดให้แก่สังคมได้ เช่นที่นักเรียนรุ่นแล้วรุ่นเล่าได้ทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง

เนื่องด้วยชาวเทพศิรินทร์มีสุภาษิตประจำโรงเรียนที่ยึดถือมาโดยตลอดว่า ‘น สิยา โลกวฑฒโน’ อันแปลไทยได้ว่า ‘ไม่ควรเป็นคนรกโลก’ กระบวนการตั้งคำถามต่อสิ่งต่างๆ ในรั้วสถานศึกษาและการไม่เพิกเฉยต่อความอยุติธรรมของสังคม จึงถือเป็นพันธกิจหลักที่นักเรียนเทพศิรินทร์ ทุกคนควรพึงระลึกอยู่เสมอ นักเรียนเทพศิรินทร์ล้วนมุ่งหวังพัฒนาตนเองเพื่อสร้างประโยชน์ต่อสารธารณะและดำรงตนให้อยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การเป็นนักเรียนเทพศิรินทร์ จึงไม่ใช่การมุ่งใช้อำนาจเพื่อปิดกั้นความคิดเห็นที่หลากหลาย จำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และตั้งตนเป็นปรปักษ์ต่อพลวัตรของการเปลี่ยนแปลง การกระทำเช่นนั้น ย่อมกล่าวได้ว่าหาใช่ชาวเทพศิรินทร์ไม่ เพราะพฤติการณ์เช่นนั้น ชาวเทพศิรินทร์เขาไม่ทำกัน

กลุ่มนักเรียนเก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์ จำนวน 703 คน โดยมีรายชื่อผู้ประสงค์ออกนามและไม่ประสงค์ออกนามตามเอกสารที่ได้แนบมาพร้อมกันนี้ จึงขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการตามที่ได้แถลงด้วย

ขอแสดงความนับถือ

กลุ่มนักเรียนเก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net