Skip to main content
sharethis

รัฐบาลสเปนขับไล่ทายาทของ 'ฟรานซิสโก ฟรังโก' จอมเผด็จการในอดีต ออกจากวัง 'ปาโซ เด เมย์ราส' ที่ใช้เป็นสถานที่พักร้อน ประกาศจะปรับให้เป็นสถานที่ให้การศึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับความโหดร้ายของเผด็จการฟรังโกแทน


ที่มาภาพ: Wikipedia/Loischantada (CC BY-SA 4.0)

13 ธ.ค. 2563 เป็นเวลามากกว่า 80 ปีแล้วที่เผด็จการฟรานซิสโก ฟรังโก ของสเปนได้ยึดครองวัง ปาโซ เด เมย์ราส เอามาเป็นของตัวเองในช่วงสงครามกลางเมืองที่ทำให้เขาขึ้นสู่อำนาจ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็มีการใช้วังแห่งนี้เป็นสถานที่พักร้อนอันแสนจะฟุ้งเฟ้อของนายพลจอมเผด็จการก่อนที่จะกลายเป็นของครอบครัวฟรงโกหลังจากที่เขาเสียชีวิต

แต่เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมารัฐบาลสเปนก็ได้ยึดวังแห่งนี้อย่างเป็นทางการจากเหล่าทายาทของฟรังโก โดยมีการทำพิธีอย่างเรียบง่าย หลังจากที่มีการต่อสู้ทางกฎหมายในเรื่องนี้มาเป็นเวลายาวนาน

สื่อวิทยุกระจายเสียงสาธารณะของสหรัฐฯ หรือเอ็นพีอาร์รายงานว่านี่เป็นชัยชนะเชิงสัญลักษณ์ของรัฐบาลฝ่ายซ้ายสเปน ที่ชนะคดีในเรื่องนี้เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา จากที่รัฐบาลฝ่ายซ้ายสเปนพยายามผลักดันให้มีการรื้อถอนหรือยึดคืนสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ในเชิงสนับสนุนเผด็จการที่มีบทบาทเมื่อราว 40 ปีที่แล้ว

รักษาการประธานาธิบดีสเปน คาร์เมน คาลโว แถลงถึงการยึดวังในครั้งนี้ว่า การที่วังแห่งนี้ถูกยึดคืนมาเป็นสาธารณะได้สำเร็จนั้นต้องให้เครดิตกับผู้คนเป็นพันๆ คนจากกาลิเซียและจากทั่วทั้งสเปนที่พยายามต่อสู้เพื่อให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นสิทธิโดยชอบธรรมสำหรับทุกคน

"เรื่องนี้เป็นเป้าหมายที่ควรได้รับการยกย่องซึ่งเป็นเกียรติ์ต่อประชาธิปไตยของสเปน เป็นเกียรติต่อพวกเราทุกคน และเป็นสิ่งที่ถูกผลักดันโดยการดำเนินกิจกรรมของประชาชนจำนวนมาก" คาลโวกล่าว

คาลโวเปิดเผยอีกว่ารัฐบาลสเปนมีแผนการจะปรับเปลี่ยนวังแห่งนี้ให้กลายเป็นสถานที่ให้การศึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับด้านมืดของสมัยเผด็จการฟรังโก และสดุดีมรดกตกทอดของ เอมิเลีย ปาร์โด บาซาน นักเขียนที่มีชื่อเสียงซึ่งเคยเป็นเจ้าของคฤหาสน์ในพื้นที่นี้มาก่อน

วังแห่งนี้ฟรังโกได้มาจากการที่กลุ่มผู้สนับสนุนเผด็จการร่วมกันซื้อและมอบให้เขาในปี 2481 ทายาทของฟรังโกให้การว่าฟรังโกทำการซื้อที่แห่งนี้อย่างเป็นทางการในปี 2484 แต่ในคำตัดสินของคดีนี้ระบุว่าการซื้อขายในปี 2484 นั้น เป็นการซื้อขายที่ฉ้อฉล รวมถึงระบุว่ากรณีที่มีคนร่วมกันซื้อและมอบให้นั้นไม่ได้ระบุว่าเป็นฟรังโกโดยตรง แต่ระบุว่าให้กับประมุขแห่งสเปน ทำให้ทายาทของวังนี้สูญเสียกรรมสิทธิและเพิ่งคืนกุญแจสถานที่ให้ในวันที่ 9 พ.ย. หนึ่งวันก่อนเส้นตายที่ศาลกำหนดไว้

อย่างไรก็ตามทายาทเผด็จการยังไงแสดงความไม่พอใจการตัดสินใจนี้ โดยที่หลานชายของฟรังโกที่มีชื่อเดียวกับปู่ตัวเองกล่าวในเชิงเหยียดหยามว่า "ในวันนี้พวกละครสัตว์เฉลิมฉลองมาพร้อมกับตัวตลก ... พวกเราจะไม่ปล่อยตัวเองลงไปร่วมกับพวกละครสัตว์เหล่านี้ด้วย"

ทั้งนี้ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่เห็นว่าแค่การไล่ทายาทเผด็จการออกจากปาโซเดเมย์ราสอย่างเดียวไม่พอ เพราะมันไม่ได้มีกระบวนการเอาผิดกับผู้ที่ยึดครองและใช้พื้นที่เหล่านี้อย่างผิดกฎหมายรวมถึงใช้หาผลประโยชน์เข้าตัวเองทั้งที่เป็นการทำลายมรดกของรัฐ กลุ่มที่พูดถึงเรื่องนี้คือสมาคมเพื่อการฟื้นฟูความทรงจำประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการรักษาความทรงจำเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของเผด็จการฟรังโกเอาไว้

ในยุคสมัยเผด็จการฟรังโกของสเปนนั้นมีประชาชนมากกว่า 100,000 ราย ที่เสียชีวิตหรือหายสาบสูญ โดยที่นายกรัฐมนตรีสเปนคนปัจจุบันคือ เปโดร ซานเชซ ได้เน้นหาเสียงโดยสัญญาว่าจะพิจารณาเรื่องความทรงจำเกี่ยวกับเผด็จการและการรำลึกถึงเหตุการณ์ใหม่อีกครั้ง โดยที่ในปี 2562 เคยมีการขุดศพของฟรังโกขึ้นมาจากสถานที่เสมือนอนุสรณ์ของจอมเผด็จการในมาดริดและส่งไปฝังไว้ใกล้กับที่ฝังศพภรรยาของเขา


เรียบเรียงจาก
Spain Evicts Francisco Franco's Heirs From Late Dictator's Summer Palace, NPR, 10-12-2020

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net