Skip to main content
sharethis

เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นย้ำ 2 ข้อเสนอกับผู้ช่วย รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกทุกกระบวนการที่ดำเนินการโครงการจะนะเมืองต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตทั้งหมด และให้รัฐบาลจัดให้มีการศึกษาผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) อย่างรอบคอบ ด้านผู้ช่วยรัฐมนตรีขอให้ย้ายการชุมนุมออกจากสะพานชมัยมรุเชษฐเปิดทางตำรวจยกตู้คอนเทนเนอร์ออกเพื่อเปิดเส้นทางจราจร

 

"แรมโบ้" รุดเจรจาม็อบจะนะ ปักหลักหน้าทำเนียบฯ รับปากรายงาน “พล.อ.ประวิตร” ช่วยดำเนินการตาม 2 ข้อเรียกร้อง...

โพสต์โดย สำนักข่าวไทย เมื่อ วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม 2020

 

13 ธ.ค. 2563 สำนักข่าวไทย รายงานว่านายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยนายบดินทร์ รัศมีเทศ รองเลขาธิการ ศอบต. นายอนวัช สุวรรณเดชรองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองและพ.ต.อ .อรรถวิทย์ สายสืบ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) หารือกับกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล

โดยนายสมบูรณ์ คำแหง แกนนำกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น กล่าวย้ำ 2 ข้อเสนอ คือ ให้ยกเลิกทุกกระบวนการที่ดำเนินการโครงการจะนะเมืองต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตทั้งหมด และให้รัฐบาลจัดให้มีการศึกษาผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA อย่างรอบคอบ เพื่อสร้างชุดข้อมูลทางวิชาการที่มีคุณภาพประกอบการตัดสินใจต่อแนวทางและโครงการพัฒนาในพื้นที่ต่างๆ ของภาคใต้ต่อไปโดยจะรอคำตอบจากรัฐบาล หากไม่มีก็จะปักหลักอยู่ตรงนี้ พร้อมย้ำเหตุผลที่เดินทางมาเพราะมีความไม่ชอบมาพากลในกระบวนการรับฟังความเห็นของโครงการดังกล่าว

ด้านนายสุภรณ์ ยืนยันว่ารับทราบปัญหามาโดยตลอดและได้เชิญตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ ซึ่งในเรื่องนี้ทราบว่าประชาชนไม่ได้คัดค้าน ยังเปิดโอกาสพัฒนาเมืองแค่ต้องการให้กระบวนการชอบธรรม เปิดให้ประชาชนทุกภาคส่วน มีส่วนร่วม ครบทุกด้าน ซึ่งข้อเรียกร้องข้อแรก ตนจะนำผลสรุปที่มาหารือเสนอเรื่องไปยังพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลทันทีในวันพรุ่งนี้ (14 ธ.ค.) ส่วนข้อที่2 ให้ศึกษา SEA เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา พร้อมรับปากจะเดินหน้าให้ได้ข้อสรุป แต่ขอความร่วมมือ ย้ายพื้นที่การชุมนุม เปิดเส้นทางจราจร ถนนพิษณุโลก ที่ได้ปักหลักอยู่บนสะพานชมัยมรุเชษฐ์เพราะ เกรงกระทบการเดินทางของประชาชน อีกทั้งเป็นเส้นทางเสด็จ บรรยากาศการเจรจาจะได้ราบรื่น

นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าพลเอกประวิตรจะเห็นด้วยกับข้อเสนอ และพร้อมจะออกจากพื้นที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ แต่ยืนยันว่ากลุ่มของตนไม่ได้ปิดการจราจร เพราะเจ้าหน้าที่นำตู้คอนเทนเนอร์มาวางปิดการจราจรบนสะพานอยู่ก่อนแล้ว และเดิมทีปักหลักอยู่ข้างคลองผดุงกรุงเกษม ถนนพระราม5 พร้อมเล่าว่าเมื่อคืนนี้มีชายฉกรรจ์มา 10 กว่าคน มาพบและบอกจะพาไปพบนายกรัฐมนตรี ที่อยู่อีกที่หนึ่ง

ขณะที่ผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ได้ขอให้นายสุภรณ์มีสัจจะ และเล่าว่า ได้ถูกคุกคามจากกรณีที่เห็นต่างในโครงการนี้จึงต้องการให้ช่วยดูแลอย่าให้มีการคุกคามประชาชนที่เห็นต่างเพราะไม่ยุติธรรมและไม่ดี ซึ่งนายสุภรณ์ ยืนยันว่าได้โทรศัพท์ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา แล้วและขออย่าให้มีการคุกคามประชาชนที่เห็นต่าง พร้อมขอให้สบายใจว่ารัฐบาลไม่ได้ส่งคนเข้าไปคุกคาม ถ้าประชาชนถูกคุกคามให้โทรหาตนโดยตรงและจะลงไปในพื้นที่ทันที

ด้าน พ.ต.อ.อรรถวิทย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดการจราจรหลายจุดตั้งแต่ 10 ธ.ค. เพราะมีการชุมนุมของกลุ่มราษฎร และยังมีกลุ่มจะนะ มาปักหลัก และยังไม่ได้รื้อถอน แต่วันพรุ่งนี้ (14 ธ.ค.) จะเปิดการจราจร เนื่องจากเป็นวันทำการหลังหยุดยาว 4 วัน รับฝ่ายความมั่นคง ไม่มั่นใจจึงยังไม่รื้อถอนตู้ตรงสะพานชมัยมรุเชษฐ ยืนยันเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาคอยดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุม และถ้าเคลื่อนย้ายการชุมนุมไปที่ถนนพระราม 5 ริมคลองผดุงฯ วันนี้ (14 ธ.ค.) จะรื้อถอนตู้คอนเทนเนอร์ออก

ด้านนายสมบูรณ์ ขอเวลา 1-2 ชั่วโมงเพื่อหารือกัน และขอหลักประกัน เรื่องความคืบหน้าตามข้อเรียกร้องพร้อมยินดีที่จะเปิดเส้นทางย้ายจุดให้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net