Skip to main content
sharethis

ศาลเยาวชนให้ปล่อยตัว นภสินธุ์ อายุ 16 ปี คดี ม.112 ทนายชี้คดีนี้มีการขยายการตีความกฎหมาย และหลังจากนี้ตำรวจมีแนวโน้มเอาหมายจับ ม.112 ที่ค้างอยู่กลับมาดำเนินการอีกหลังกรณี 'อิศเรศ' ที่การกระทำเกิดขึ้นตั้งแต่ 59 แต่เพิ่งถูกจับเมื่อ ก.ย.ที่ผ่านมา

 

17 ธ.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากช่วงสายวันนี้ (17 ธ.ค.63) นภสินธุ์ (สงวนนามสกุล ซึ่งก่อนหน้านี้ประชาไทรายงานในชื่อ 'บี') เยาวชนอายุ 16 ปี เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ยานนาวา ในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 จากการชุมนุมที่หน้าวัดแขกถนนสีลมเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาเวลา 13.20 น. พนักงานสอบสวนนำตัวนภสินธุ์ออกจาก สน.ยานนาวา ไปส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง

คุ้มเกล้า ส่งสมบูรณ์ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์ของนภสินธุ์ว่าเป็นเพียงการใส่เสื้อกล้ามในลักษณะล้อเลียนโดยเป็นการร่วมกระทำการกับจตุพร ทั้งนี้นภสินธุ์ได้ให้การปฏิเสธ

ส่วนกระบวนการหลังการแจ้งข้อกล่าวหาตำรวจ สน.ยานนาวา นั้น คุ้มเกล้า กล่าวว่า พนักงานสอบสวนนำตัวนภสินธุ์ไปขออำนาจศาลเยาวชนฯ เพื่อออกหมายควบคุมตัวเยาวชน ซึ่งสามารถเทียบได้กับการออกหมายฝากขังสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งศาลจะต้องเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจในการจะควบคุมตัวเยาวชนไว้หรือไม่

คุ้มเกล้า กล่าวต่อว่า ศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่าให้ควบคุมตัวไว้โดยพิจารณาแต่ประเด็นว่าคดีนี้มีอัตราโทษสูงที่มีโทษจำคุกสูงสุดเกิน 10 ปี และเกรงว่าจะไปกระทำความผิดอีก แม้ว่าทนายความจะได้ยื่นคัดค้านไปว่าผู้ต้องหาจะไม่หลบหนีและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและจะไปรายงานตัวตามที่ถูกทางเจ้าหน้าที่เรียกก็ตาม ซึ่งเธอเห็นว่าการใช้ดุลพินิจของศาลเหมือนกับคดีมาตรา 112 หรือ 116 ในช่วงก่อนหน้านี้

ต่อประเด็นการขอประกันตัวนั้น ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า ศาลอนุญาตให้ประกันตัวได้แต่ยังต้องไปรายงานตัวกับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนอยู่ในวันจันทร์หน้า ทั้งนี้ในการประกันตัวศาลเรียกเงินประกัน 8,000 บาท แต่ได้ยื่นขอใช้ตำแหน่ง ส.ส.แทนศาลอนุญาต จึงไม่ต้องใช้เงินประกัน โดยหลังจากนี้นภสินธ์ต้องเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนัดส่งสำนวนให้อัยการอีกพร้อมกับจตุพรในวันที่ 11 ม.ค.2564

ต่อคำถามที่ว่าการดำเนินคดีครั้งนี้ถือว่าเป็นการขยายการตีความตัวบทกฎหมายหรือไม่นั้น คุ้มเกล้า กล่าวว่า ตามที่ระบุในการแจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นการแต่งกายล้อเลียน ซึ่งทั้งผู้กล่าวหาที่เป็นแอดมินเพจเชียร์ลุงและตำรวจก็ไปขยายการตีความคำว่าดูหมิ่นว่าการกระทำเป็นลดทอนด้อยคุณค่าของสถาบันกษัตริย์

คุ้มเกล้า กล่าวต่อว่า เสรีภาพในการแสดงออกและการแสดงออกมีได้หลากหลายรูปแบบทั้งการพูดการแสดงศิลปะ ซึ่งการกระทำของทั้งจตุพรและนภสินธุ์ก็ถือว่าเป็นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกเชิงศิลปะ แต่ผู้กล่าวหาที่มีความคิดความเชื่อไม่ตรงกัน

โดน ม.112 ยังเพิ่มขึ้นอีก ล่าสุด 34 คน คนเดิมก็ได้หมายเพิ่ม

หลังจากที่ประชาไทรายงานจำนวนผู้ที่ถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ไปเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ธ.ค.63) ล่าสุดพบว่ามีผู้ที่ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีก 4 ราย ได้แก่ ณัฏฐิธิดา มีวังปลา หรือแหวน พยาบาลอาสา, ชินวัตร จันทร์กระจ่าง, พงศธร ตันเจริญ เป็น และนรินทร์ (สงวนนามสกุล)

ณัฏฐธิดา ได้หมายเรียกจาก สน.บางเขน คาดว่าจะเป็นคดีการชุมนุมที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 พงศธร ได้รับหมายเรียกจาก สน.พหลโยธิน คาดว่าเกี่ยวข้องกับการชุมนุมที่หน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ ส่วนชินวัตรได้ทั้งหมายสน.บางเขนและสน.พหลโยธิน

สำหรับ นรินทร์ นั้น ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าเป็นหมายจาก สน.ชนะสงคราม และคาดว่าจะเป็นคดีจากกรณีสติกเกอร์ “กูKult” ที่ซุ้มเฉลิมพระเกียรติ เนื่องจากเมื่อหลังการชุมนุม 19-20 ก.ย.2563 นรินทร์เคยถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไปติดตามจับกุมถึงที่บ้านไปครั้งหนึ่งแล้วและถูกดำเนินคดีด้วยข้อหามาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นแอดมินเพจ กูKult

นอกจากนั้นในบรรดาคนที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนแล้วก็ได้รับหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มอีกเช่น อานนท์ นำภา ทนายความและสมาชิกคณะราษฎร 63 ได้หมายจากสน.บางเขนและสน.พหลโยธิน  โดยหมายของ สน.พหลโยธินมีชื่อของพริษฐ์ ชิวารักษ์ อยู่ที่หัวหมายเรียกด้วย จึงอาจคาดได้ว่าจะถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 เช่นเดียวกัน

อีกทั้งเมื่อวานนี้(16 ธ.ค.63) ศูนย์ทนายฯ ยังรายงานถึง อิศเรศ(สงวนนามสกุล) ว่าเป็นกรณีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 2559 ในช่วงหลังการสวรรคตของรัชกาลที่ 9 แต่เพิ่งมีการดำเนินการจับกุมเมื่อกันยายนที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวถาม คุ้มเกล้า ทนายความของศูนย์ทนายฯ ในประเด็นนี้ด้วย โดย คุ้มเกล้า ให้ความเห็นว่าเป็นไปได้ที่ตำรวจอาจจะรื้อหมายจับมาดำเนินการต่อหลังจากนี้เช่นเดียวกับกรณีของอิศเรศ เนื่องจากตอนนี้มาตรา 112 ได้ถูกนำกลับมาใช้แล้ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net