เจอติดโควิด-19อีก 81 ราย ศบค.ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติ-พื้นที่สีแดงห้ามจัดปีใหม่

ศบค.แถลงพบติดเชื้อโควิด-19เพิ่ม 81 ราย และออกมาตรการคุมห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติทุกพื้นที่ ส่วนฉลองปีใหม่พื้นที่สีแดงห้ามจัด สีส้มจัดได้เฉพาะคนรู้จัก สีเหลือง-เขียว จัดได้แต่ต้องคุมจำนวนคนและมีมาตรการรองรับ

25 ธ.ค.2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พบผู้ป่วยรายใหม่ 81 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 37 ราย ผู้ติดเชื้อแรงงานข้ามชาติ 35 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า สถานกักตัวของรัฐ 9 ราย

โดยกลุ่มที่เดินทางมาจากต่างประเทศนี้แบ่งเป็นสหรัฐอเมริกา 3 ราย รัสเซีย 2 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย เยอรมนี 1 ราย เมียนมา 1 ราย และสหรัฐอาหรับเมิเรตส์ 1 ราย

นพ.ทวีศิลป์ระบุว่า ขณะนี้ยอดผู้ป่วยสะสม 5,910 ราย หายป่วยแล้ว 4,130 ราย รักษาอยู่ 1,713 ราย สามารถแยกได้เป็นรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลราว 500 คน ส่วนอีก 1200 อยู่ระหว่างกักตัวมีบุคคลที่อาการหนักอยู่ 2-3 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตยังคงจำนวนเดิมที่ 60 ราย

ทั้งนี้จากการตรวจเชิงรุกในกลุ่มแรงงานข้ามชาติยอดสะสมตั้งแต่ 17 ธ.ค.2563 มีทั้งหมด 8,810 ราย พบเชื้อ 1,308 ราย

นพ.ทวีศิลป์ได้แสดงสไลด์เกี่ยวกับมาตรการเตรียมความพร้อมในการป้องกันการระบาดใหม่ของโควิด- 19 โดยแบ่งพื้นที่สถานการณ์เป็น 4 ระดับคือ

  • พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) – พื้นที่ที่มีผู้เชื้อจำนวนมากและมีมากกว่า 1 พื้นที่ โดยมาตรการป้องกันโรคที่ใช้ในพื้นที่สีแดงต้อง
  1. สวมหน้ากาก 100%
  2. ทำความสะอาดมือและสถานที่อุปกรณ์ที่มีการสัมผัสบ่อย
  3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสและเข้าไปในที่ๆ มีคนจำนวนมาก
  4. นอกจากนั้นติดตั้งแอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” เพิ่มจาก “ไทยชนะ” จำกัดเวลา
  5. จำกัดเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการที่มีความจำเป็นและปิดสถานที่ประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด
  6. ห้ามแรงงานข้ามชาติเคลื่อนย้ายเข้า-ออกพื้นที่โดยเด็ดขาด
  7. ควบคุมการเข้า-ออกของยานพาหนะ และบุคคลคนไทย โดยไม่ให้กระทบต่อการค้าและอุตสาหกรรมมากเกินความจำเป็น และมีตั้งด่านตรวจคัดกรอง จุดสกัด และสายตรวจเพื่อควบคุมและจำกัดการเข้าออก
  8. ใช้มาตราการให้ทำงานจากที่บ้านอย่างเต็มความสามารถ
  9. สถานศึกษาปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์
  10. งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากทุกรูปแบบ
  11. สถานประกอบการและโรงงานที่ยังเปิดดำเนินการให้เน้นมาตรการป้องกันโดยการรักษาระยะห่าง ใส่หน้ากาก ล้างมือและตรวจวัดอุณหภูมิ ทั้งในบริเวณโรงงานและที่พัก ถ้าไม่สามารถดำเนินการได้ให้พิจารณาหยุดดำเนินการ
  12. การประมงสามารถดำเนินการได้ แต่ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อก่อนการออกเรือ
  13. งดกิจกรรมฉลองปีใหม่ทุกชนิดยกเว้นจัดออนไลน์
  • พื้นที่ควบคุม (ส้ม) – พื้นที่ที่ติดกับพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 10 ราย และมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ส่วนกิจกรรมปีใหม่ให้งดกิจกรรมที่เป็นสาธารณะ แต่ผ่อนผันให้จัดกิจกรรมที่จำกัดผู้เข้าร่วม หรือเป็นกิจกรรมที่มีเฉพาะคนรู้จักคุ้นเคยได้ หรือจัดออนไลน์
  • พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด(เหลือง) – พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 ราย มีแนวโน้มควบคุมสถานการณ์ได้ โดยให้ดำเนินการมาตรการป้องกันตาม ข้อ 1-6 และ 8-9 และให้หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากทุกรูปแบบ กิจกรรมปีใหม่จัดได้แต่ต้องลดขนาดของงานให้เล็กลงกว่าปกติ ลดความหนาแน่นของผู้เข้าร่วมและมีมาตรการควบคุมไม่ให้เกิดความคับคั่ง
  • พื้นที่เฝ้าระวัง(เขียว) – พื้นที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ และยังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีผู้ติดเชื้อ โดยให้ดำเนินการมาตรการป้องกันตาม ข้อ 1-6 และส่วนการจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากให้หลีกเลี่ยง แต่ถ้ามีความจำเป็นให้ปรึกษาคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยให้พิจารณาลดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมลง มีมาตรการลดความหนาแน่นของผู้เข้าร่วม และมีการกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรการที่วางแผนไว้ ส่วนกิจกรรมปีใหม่จัดได้แต่ต้องลดขนาดของงานให้เล็กลงกว่าปกติ ลดความหนาแน่นของผู้เข้าร่วมและมีมาตรการควบคุมไม่ให้เกิดความคับคั่ง

นพ.ทวีศิลป์กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าคนไทยในเกาหลีใต้จำนวน 31 คน ได้รับการยืนยันจากสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงโซลว่ามีการติดเชื้อจริงใน โดยติดเชื้อคนแรกเมื่อ 23 ธ.ค. และตรวจผู้มีความเสี่ยงและผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยรายดังกล่าวที่ร้านอาหารไทย โดยตรวจทั้งหมด 90 คน พบว่ามีผู้ติดเชื้อ 31 คนและอยู่ระหว่างตรวจรอยืนยันอีก 28 คน ซึ่งขณะนี้กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณะสุขได้ดูแลผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้ผ่านการคุยออนไลน์แล้วเพื่อติดตามสถานการณ์ช่วยเหลือหากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะแจ้งเพิ่ม

มติชนออนไลน์รายงานว่า นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข ให้ข้อมูลความคืบหน้าในการรัษาผู้ป่วยกลุ่มแรกจากตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร จำนวน 8 ราย โดยมี 5 รายที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาลสมุทรสาครและอีก 3 รายที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ ทั้งหมดมีอาการดีขึ้นโดยเฉพาะผู้ป่วยหญิงอายุ 95 ปี ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงในส่วนของอาการจากโควิด-19 ดีขึ้นแล้ว แต่ยังคงรักษาโรคประจำตัวต่อไป ส่วนที่เหลืออาการดีขึ้นและเมื่อพ้นระยะปลอดภัยจากการแพร่เชื้อ 10 วัน ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้

ส่วนสถานการณ์ที่จังหวัดสงขลาหลังจากพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย เป็นชายที่เข้าร่วมงานเลี้ยงที่เกาะลันตา จ.กระบี่เมื่อวานนี้ ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ยืนยันผลว่าพบเชื้อ

ส่วนสถานการณ์ที่สงขลา มติชนออนไลน์รายงานว่า คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ออกหนังสือระบุว่า มีบุคลากรของคณะ 1 คน เป็นผู้หญิง ซึ่งมีทั้งตำแหน่งบริหาร และเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาคณะวิทยาการจัดการ ได้มีผลการตรวจเชื้อโควิดเป็นบวก พร้อมกับประกาศยกระดับสถานการณ์จากระดับ 1 (ระดับปกติ) เป็นระดับ 3 (ระดับลดจำนวนบุคลากรในการปฏิบัติงาน) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ 25 ธ.ค.63-3 ม.ค.64 หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

ส่วนทางมหาวิทยาลัยได้ออกประกาศเรื่องแนวทางจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์ปัจจัยเสี่ยง เมื่อเวลา 21.00 น. โดยให้งดการเรียนการสอนในชั้นเรียนทั้งหมดและให้ปรับมาสอนออนไลน์หรือรูปแบบอื่นที่ไม่มีการรวมกลุ่มในชั้นเรียน ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

“กรณีหลักสูตรที่มีการจัดการเรียนการสอนในคลินิก หรือรายวิชาที่จะต้องมีการปฏิบัติการวิทยานิพนธ์ให้มีการบริหารจัดการด้วยวิธีที่ดีที่สุด นอกจากนี้ การฝึกงานของนักศึกษาในพื้นที่เสี่ยงทุกจังหวัดที่มีโควิดแพร่ระบาดสูง ให้ประสานงานกับทางต้นสังกัดในการปรับเปลี่ยน ยกเลิก หรือหากิจกรรมอย่างอื่นทดแทน เพื่อความปลอดภัย และสุดท้ายให้แต่ละคณะจัดเตรียมห้องเรียน และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และจัดระยะห่าง ไว้สำหรับบริการนักศึกษาที่ขาดความพร้อมด้านอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ด้วย”

นอกจากนั้นทางจังหวัดนนทบุรียังมีการประกาศมาตรการเพิ่มเติมเมื่อคืนวานนี้(24 ธ.ค.63) โดยไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า สุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้ออกคำสั่งจังหวัดนนทบุรี ที่ 378/63 เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 20) ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวและกำหนดมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

โดยเนื้อความระบุว่ามีการพบผู้ติดเชื้อในจังหวัดมากกว่า 10 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ทางจังหวัดได้ออกคำสั่ง 5 ข้อดังนี้

  1. ปิดสถานศึกษาทุกระดับทั้งของรัฐและเอกชนทั้งในและนอกระบบ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถาบันกวดวิชา โดยให้เปลี่ยนเป็นการสอนออนไลน์แทน ตั้งแต่ 25 ธ.ค.63 ถึง วันที่ 6 ม.ค.64
  2. จำกัดเวลาเปิด-ปิด
  3. ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติ
  4. งดกิจกรรมฉลองปีใหม่ และกิจกรรมวันเด็กที่เป็นสาธารณะ แต่ผ่อนผันให้จัดกิจกรรมเฉพาะผู้ที่รู้จักคุ้นเคยได้หรือจัดออนไลน์
  5. ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย 100 เปอร์เซ็นต์ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท