Skip to main content
sharethis

ศาลจังหวัดสตูลยกฟ้อง 9 แกนนำประท้วงเวทีรับฟังความเห็นสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบาราเมื่อมีนาคมปี 2560 ศาลอ้างไม่มีการบุกรุกที่ประชุม และการชุมนุมก็เป็นไปโดยสงบอีกทั้งการชุมนุมก็เป็นการเรียกร้องยกเลิกเวทีและให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

25 ธ.ค.2563 เดอะ แอคทีฟรายงานว่า ศาลจังหวัดสตูล พิพากษายกฟ้อง คดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง 9 แกนนำชาวบ้านจาก “เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาสตูล – สงขลา” ในข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ จากเหตุการณ์ชุมนุมคัดค้านการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน (เวที ค.1) โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ที่โรงเรียนปากบาง อ.ละงู จ.สตูล เมื่อวันที่ 15-16 มี.ค. 2560

ตัวแทนทนายจำเลยทั้ง 9 คน ชี้แจงคำพิพากษาต่อตัวแทนชาวบ้านที่รอฟังอยู่ด้านหน้า โดยศาลเห็นว่า ผู้ชุมนุมไม่ได้ฝ่าแนวและเข้าไปยึดพื้นที่หอประชุมที่จัดรับฟังความคิดเห็นที่ผู้เสียหายหรือกรมเจ้าท่าเป็นผู้ครอบครอง และมีการปิดประตูห้องประชุมโดยมีเจ้าหน้าที่มาดูแลความปลอดภัย จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิต่อผู้เสียหาย ในการเข้าออกของสถานที่จัดประชุม

แฟ้มภาพ ภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2560 ขณะเจ้าหน้าที่เข้าเจรจากับแกนนำกลุ่ม

เตรียมดำเนินคดี-ปรับทัศนคติ แกนนำค้านท่าเรือปากบารา หลังล้มเวทีฟังความเห็น EHIA

นอกจากนั้นพื้นที่อ่าวปากบาราเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้ร่วมกัน และมีการใช้สอยประโยชน์โดยประชาชน และมีทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นประโยชน์สาธารณะ จึงไม่สมควรให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือหน่วยงานใดมาเป็นผู้ดำเนินการที่ก่อให้เกิดความเสียหาย การจะจัดโครงการใดที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพ ไม่ว่าจะเป็นการระเบิดภูเขาหิน การมาปิดกั้นทางในทะเล เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพและก่อให้เกิดผลกระทบอย่างยิ่ง จึงควรมีการศึกษาอย่างรอบด้าน ไม่ใช่มุ่งแต่ประโยชน์ในทางการขนส่งเท่านั้น

แต่กลับปรากฏว่าในทางนำสืบของโจทก์ไม่อาจนำสืบว่า มีการศึกษาอย่างครบถ้วนรอบด้านแล้วว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และโจทก์ระบุว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมและจำเลยทั้ง 9 มีมานานแล้ว มีการยื่นหนังสือถึงหน่วยงาน ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ไม่มีคำสั่งหรือไม่มีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับการประชุมรับฟังความคิดเห็นได้ และเมื่อมีการเรียกร้องก็ไม่มีผู้มีอำนาจเข้ามาตัดสินใจและดูแลได้ การเข้าไปของกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นเพียงการเข้าไปต่อรองให้มีการยกเลิกยกเลิกการรับฟังความคิดเห็นไปก่อน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

อีกทั้ง การชุมนุมเป็นการดำเนินการโดยสงบและปราศจากอาวุธและมีพยานจำเลย คือ ศศิน เฉลิมลาภ, ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง, อาภา หวังเกียรติ และเตือนใจ ดีเทศน์ ได้เบิกความสอดคล้องต้องกันสมเหตุสมผล ว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นมีอยู่จริงและไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาและและความขัดแย้งดังกล่าวที่เกิดขึ้น จึงเห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้เข้าไปยึดพื้นที่ในการจัดประชุม จึงถือว่าไม่มีเจตนาในการบุกรุกสถานที่จัดประชุม พิพากษายกฟ้อง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net