Skip to main content
sharethis

548! ผลตรวจโควิดสมุทรสาคร แม้ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว ก็ทำคนไทยช็อกทั้งประเทศ โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ เพราะสมุทรสาครเป็นเขตปริมณฑล ตลาดมหาชัยใกล้นิดเดียว แม่ค้าประชาชื่นยังไปซื้อกุ้งมาขาย แล้วติดไปด้วย

มองแง่ร้ายก็มองได้ว่า โควิดแพร่เงียบมาหลายวัน ป่านนี้ข้ามจังหวัดไปถึงไหนไม่รู้ ทั้งกรุงเทพฯ นครปฐม สมุทรปราการ ซึ่งแรงงานต่างด้าวเชื่อมถึงกันหมด

มาตรการล็อกดาวน์ไม่น่าช่วยได้มากนัก แม้ห้ามแรงงานต่างด้าวออกนอกพื้นที่ ก็ไม่สามารถห้ามคนสมุทรสาครที่ต้องข้ามมาทำงานกรุงเทพฯ ทุกวัน ส่วนเคอร์ฟิว ก็น่าขัน โควิดไม่ได้หากินกลางคืน จะปิดถนนพระราม 2 ก็ไม่ได้

โควิดกระจอก! แล้วไงล่ะ #ถอดถอนอนุทิน พุ่งปรี๊ดในทวิตเตอร์ แม้อันที่จริงไม่ใช่ความผิดกระทรวงสาธารณสุข แต่มันสะท้อนทัศนะรัฐบาลที่กลับไปกลับมา เดี๋ยวตื่นตูม ใช้ยาแรงเกินขนาด เดี๋ยวประมาท เพราะอยากให้คนท่องเที่ยวใช้จ่าย

ขณะเดียวกันก็จะไม่รับผิดชอบ เดี๋ยวก็โทษแรงงานต่างด้าว เดี๋ยวก็เรียกร้องให้ประชาชนร่วมมือ ป้องกัน รับผิดชอบตัวเอง ใครไม่ทำตามคำสั่งมีความผิด

ทั้งที่เป็นความผิดของรัฐไม่ใช่หรือ ไหนว่าแข็งขันสกัดกั้นลักลอบผ่านชายแดน เพิ่งเกิดเรื่องทางแม่สาย คนแหงนระวังทางเหนือ ที่ไหนได้ มาโผล่ท้ายกรุง

ว่าที่จริง นโยบายปิดชายแดนก็ไม่สอดคล้องความจริง ไม่มีทางล็อกได้ ตราบใดที่ยังมีความต้องการแรงงาน ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมีทั้งลักลอบ มีทั้งแรงงานเถื่อน คนที่กลับประเทศไม่ได้ ตกค้างอยู่อย่างผิดกฎหมาย จำนวนหลายแสนคน อยู่อย่างแออัดไม่กล้ามารับบริการสุขภาพ

รัฐต้องรีบประกาศให้คนเหล่านี้มารายงานตัว ให้พ้นสภาพแรงงานเถื่อน รวมทั้งเปิดลงทะเบียนให้เข้าประเทศอย่างถูกต้อง ผ่านการกักตัว สิงคโปร์ได้บทเรียนมาแล้วว่าคุมโควิดไม่อยู่เพราะละเลยแรงงานต่างด้าว

สถานการณ์จากนี้น่าสนใจยิ่งว่ารัฐบาลจะเลือกใช้มาตรการอย่างไร หนึ่ง ตื่นตูมไล่ปิดเมืองปิดห้างร้านประกาศเคอร์ฟิวห้ามขายเหล้าเบียร์ทีละจังหวัด น้อง ๆ มาตรการช่วงมีนา-เมษา หรือสอง อิหลักอิเหลื่อเพราะเป็นช่วงใกล้ปีใหม่ ที่ต้องการกระตุ้นให้คนใช้จ่ายท่องเที่ยว ถ้าใช้มาตรการระเบิดภูเขาเผากระท่อมปราบโควิด เศรษฐกิจก็ฉิบหายอีกรอบ

เอาแค่ปิดห้างร้านในสมุทรสาคร 14 วัน ถึง 3 ม.ค.ก็เห็นแล้วว่ากระทบแค่ไหน พระราม 2 ยังเป็นทางผ่านคนไปเที่ยวชะอำ หัวหิน ไม่รู้จะกระทบเพียงไรถ้าลามมากรุงเทพฯ สมุทรปราการ เจอคนติดโควิดอีกหลายราย จะปิดเมืองไหม

นี่คือปัญหาท้าทายรัฐบาลที่ไม่เคยตัดสินใจได้เหมาะสม ที่ผ่านมาก็ใช้ยาแรงเกินโควิด แล้วเอามาคุยว่าปราบได้เป็นที่หนึ่งในโลก

โควิดรอบใหม่ การตัดสินใจจะเป็นแบบหนังม้วนเก่าหรือไม่ เพราะในขณะที่คนรุ่นสูงวัย (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฐานเสียงรัฐบาล) พากันตื่นตระหนก หวาดกลัว แต่ประชาชนทั่วไปก็มีความรู้อย่างทั่วถึง มากกว่าครั้งก่อน รู้จักป้องกันตัวเอง ใส่หน้ากาก ล้างมือ รู้ว่าโควิดไม่ติดง่ายไม่ใช่แค่การไปตลาดหรือไปห้าง (แต่จับสิ่งของแล้วต้องล้างมือ) รวมทั้งรู้ว่าคนอายุน้อยคนไม่มีโรคประจำตัว ติดโควิดแล้วอาจไม่แสดงอาการด้วยซ้ำ

การตัดสินใจของรัฐบาลจึงอยู่ในแรงกระหนาบสองด้าน ต้องออกมาตรการที่พอเหมาะกับสถานการณ์ ทั้งควบคุมโรคให้อยู่ในวงจำกัด และไม่บ้าจี้จนเศรษฐกิจวิบัติ (สมมติเช่นมีผู้ว่าฯ จังหวัดไหนประกาศปิดตัวเอง ใครเข้าเขตต้องกักตัว 14 วัน แล้วประกาศตาม ๆ กัน ฉิบหายแน่นอน)

ไม่น่าเชื่อเลยว่ารัฐบาลนี้ตัดสินใจเป็น เห็นแต่ผิดแล้วไม่ยอมรับและโทษประชาชนทุกที

 

 

ที่มา: ข่าวหุ้นธุรกิจ https://www.kaohoon.com/content/409777

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net