Skip to main content
sharethis

ตำรวจตามจับ "แดงชินจัง" หรือยงยุทธ บุญดี คดีระเบิดอีกรอบ ตำรวจแจ้งยังมีอีก 5 หมายจับ แต่ศูนย์ทนายฯ ชี้คดีระเบิด ป.ป.ช.และกองสลากฯ ที่ชินจังเป็นผู้ต้องหาอัยการเลื่อนฟ้องมาปีกว่าและเจ้าตัวยังรายงานตัวตามนัดอัยการ

ภาพจากคลิปข่าวของ กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ COMMANDO

29 ธ.ค.2563 มติชนออนไลน์รายงานว่า พ.ต.อ.สุรชัจ สีมุเทศ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปฎิบัติการพิเศษ(บก.ปพ.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) พ.ต.ต.ไพบูลย์ พิมพ์กำเนิด สว.กก.4 บก.ปพ. จับกุม ยงยุทธ หรือชินจัง บุญดี อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ความผิดฐาน ร่วมกันพยายามฆ่า,ทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันเป็นอั้งยี่

ในข่าวระบุถึงพฤติการณ์เป็นเหตุที่ยงยุทธร่วมกับพวกใช้เครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 ยิงใส่เวที กปปส.ที่ถนนแจ้งวัฒนะจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ต้องหากับพวกหลบหนีไป และสืบสวนทราบว่ายงยุทธหลบหนีมาอยู่ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงเข้าจับกุม และยงยุทธยังถูกออกหมายจับอีก 5 หมาย จากนั้นยงยุทธถูกนำตัวส่งให้กับพนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปรามต่อ

ทั้งนี้จากคลิปข่าวการจับกุมของกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ COMMANDO ยังระบุอีกว่านอกจากข้อหาข้างต้นดังกล่าวแล้วยังมีข้อหาร่วมกันเป็นอั้งยี่ด้วย

ก่อนถูกจับกุมครั้งนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเคยรายงานถึงยงยุทธครั้งล่าสุดเมื่อ 29 ก.ย.2562 ว่ายงยุทธพร้อมทนายความเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ตามหมายเรียกผู้ต้องหาในคดีที่เขาถูกกล่าวว่าร่วมกับพวกรวม 4 คน ยิงระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 3 นัด ใส่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานกองสลากที่มีเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ มีเพียงทรัพย์สินเสียหาย คดีนี้อัยการนัดฟังคำสั่งครั้งแรกตั้งแต่ 10 ต.ค.2562

ทั้งนี้เมื่อ 16.21 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลของศูนย์ทนายฯ แจ้งว่าคดีนี้อัยการได้เลื่อนมาเรื่อยๆ และนัดฟังคำสั่งอีกครั้ง 28 ม.ค.2564 และที่ผ่านมายงยุทธได้รายงานตัวตามนัดอัยการผู้รับผิดชอบคดีนี้มาตลอด

ยงยุทธเคยถูกจับกุมมาก่อนแล้วหลัง คสช.ทำรัฐประหาร เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2557 ขณะทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และถูกคุมตัวอยู่ในกองพันทหารสารวัตรที่ 11 (พัน.สห.11) โดยเขาถูกดำเนินคดีจากคำให้การรับสารภาพระหว่างถูกคุมตัวในค่ายทหารไปแล้ว 3 คดี โดยศาลยกฟ้องไปแล้ว 1 คดีเนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ และถูกพิพากษาจำคุก 1 คดี ส่วนคดีที่สามจากเหตุที่ ป.ป.ช.และกองสลากฯ ดังที่กล่าวไป

แต่นอกจากคดีที่ยงยุทธเป็นผู้ต้องหาแล้ว คำรับสารภาพของเขายังถูกนำมาใช้และถูกเบิกมาเป็นพยานฝ่ายโจทก์ในคดีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธในช่วงการชุมนุมของ กปปส. ช่วงต้นปี 2557 อีก 3 คดี ทั้งนี้มีคดี 2 ใน 3 ที่เป็นเหตุระเบิดที่เวที กปปส.แจ้งวัฒนะและเป็นคดีที่ศาลอาญาเคยพิจารณาว่า คำรับสารภาพของยงยุทธเป็นคำให้การที่เจ้าหน้าที่ “จูงใจ” ให้เขารับสารภาพ โดยได้รับคำมั่นสัญญาจากเจ้าหน้าที่ว่าจะไม่ดำเนินคดี อีกทั้งยงยุทธยังมีสถานะเป็นเพียงแค่พยานฝ่ายโจทก์เท่านั้นโดยไม่ถูกฟ้องเป็นจำเลยด้วย จึงน่าเชื่อว่าเป็นคำให้การที่มาจากการให้คำมั่นสัญญาของเจ้าหน้าที่ ทำให้คำรับสารภาพของเขาไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีน้ำหนักให้ศาลรับฟัง และมีคดีหนึ่งที่ศาลเคยพิจารณาถึงคำให้การที่ยงยุทธบอกว่าตนเองถูกทำร้ายระหว่างการควบคุมตัวของทหารทำให้คำให้การที่ระบุว่าจำเลยในคดีได้ก่อเหตุไม่น่าเชื่อถือ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net