Skip to main content
sharethis

ผู้ที่ตกค้างอยู่ในญี่ปุ่นเพราะ COVID-19 ได้รับอนุญาตชั่วคราวให้ทำงานพิเศษเพื่อยังชีพได้

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นอนุญาตเป็นการชั่วคราว ให้ผู้ที่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศของตนได้ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทำงานพิเศษไม่เต็มเวลาได้

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นออกมาตรการดังกล่าว โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2020 นี้ ทางสำนักงานระบุว่ามีผู้คนมากมายตกค้างอยู่ในญี่ปุ่นเพราะประสบอุปสรรคด้านการกลับประเทศของตน ซึ่งมักมีสาเหตุมาจากการที่ประเทศของตนวางกฎระเบียบการเข้าประเทศเข้มงวดยิ่งขึ้น และบางคนกำลังประสบปัญหาด้านการเงิน

มาตรการล่าสุดดังกล่าวนี้วางเป้าไว้ที่ชาวต่างชาติประมาณ 21,000 คน รวมทั้งผู้ที่มาญี่ปุ่นเพื่อพำนักระยะสั้น หรือมาในฐานะผู้เข้ารับการฝึกทักษะด้านเทคนิค หากคนเหล่านี้ประสงค์จะทำงานพิเศษ ก็จำเป็นต้องยื่นเรื่องเพื่อแสดงความจำนงต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

ทางสำนักงานระบุว่า ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพื่ออนุญาตให้ชาวต่างชาติทำงานดำรงชีวิตต่อไปจนกว่าจะสามารถเดินทางกลับประเทศของตนได้

ที่มา: NHK World Japan, 1/12/2020

ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ยกเลิกกฎระเบียบที่จำกัดการออกวีซ่าสำหรับแรงงานที่มีทักษะฝีมือ H-1B​

ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ตัดสินยกเลิกกฎระเบียบสองข้อที่จำกัดการออกวีซ่าสำหรับแรงงานที่มีทักษะฝีมือ หรือ H-1B​ ที่กำหนดขึ้นในช่วงของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

กฎระเบียบข้อแรกกำหนดให้บริษัทต้องจ่ายเงินเดือนให้พนักงานที่ถือวีซ่า H-1B มากขึ้น โดยเริ่มมีการใช้กฎระเบียบนี้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม ในขณะที่อีกกฎหนึ่งจำกัดสาขาอาชีพที่สามารถยื่นเรื่องขอวีซ่าดังกล่าว โดยเดิมทีจะมีการบังคับใช้กฎนี้ในสัปดาห์หน้า

เจฟฟรีย์ ไวท์ ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ละเลยช่วงเวลาทบทวนกฎระเบียบ 30 วัน ที่ปกติจะต้องมีไว้เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นต่อกฎระเบียบต่าง ๆ ก่อนที่จะมีการบังคับใช้กฎนั้นๆ

ผู้พิพากษาไวท์ยังไม่ให้น้ำหนักต่อข้อโต้แย้งของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ที่ให้เหตุผลว่า การจำกัดการออกวีซ่า H-1B เป็นเรื่องจำเป็นอย่างเร่งด่วน ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจจากการระะบาดของโคโรนาไวรัส เพื่อรับรองว่า “การจ้างพนักงานที่ถือวีซ่า H-1B จะไม่ส่งผลเสียต่อเงินเดือนและสภาพการทำงานของพนักงานชาวอเมริกันที่ถูกจ้างงานในลักษณะเดียวกัน”

โดยผู้พิพากษาไวท์ตัดสินว่า เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่งออกกฎนี้ในเดือนตุลาคม เป็นเวลาหกเดือนหลังเกิดสถานการณ์ไวรัสระบาดในประเทศ ทางรัฐบาลจึงไม่สามารถใช้เหตุผลถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการคุ้มครองการจ้างงานชาวอเมริกันได้

ทั้งนี้ วีซ่า H-1B เป็นวีซ่าสำหรับผู้มีทักษะระดับสูงที่มีวุฒิการศึกษาระดับตั้งแต่ปริญญาตรีหรือเทียบเท่าขึ้นไป โดยขณะนี้สหรัฐฯ ได้ออกวีซ่าดังกล่าวเป็นจำนวนไม่เกิน 85,000 วีซ่าต่อปี ทำให้เกิดการจ้างงานชาวต่างชาติในสายอาชีพที่ต้องการความชำนาญพิเศษ เช่น สายเทคโนโลยี สายวิศวกรรม และสายการแพทย์ ได้เป็นการชั่วคราว

ที่มา: VOA, 3/12/2020

สหภาพแรงงานไต้หวันเรียกร้องตั้งกองทุนบำนาญพื้นฐาน ให้แรงงานต่างชาติมีสิทธิ์ได้รับด้วย โดยจ่ายเป็นก้อนครั้งเดียวเมื่อเดินทางกลับประเทศ

กลุ่มสหภาพแรงงานในไต้หวัน เดินขบวนเรียกร้องสิทธิ์ประจำปีเมื่อปลายเดือน พ.ย. 2020 โดยปีนี้เนื่องจากมีพรรคฝ่ายค้านและชาวไต้หวันจำนวนมากออกมาร่วมเดินขบวนประท้วงรัฐบาลที่เตรียมเปิดให้นำเข้าเนื้อสุกรที่มีสารเร่งเนื้อแดงจำพวกแรคพาโตมีนจากสหรัฐอเมริกา และประเด็นเรื่องการจำกัดเสรีภาพของสื่อเป็นต้น ทำให้มีจำนวนผู้เข้าร่วมการเดินขบวนประท้วงกว่า 50,000 คน มากที่สุดในรอบ 30 ปี

ในส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มสหภาพแรงงาน นอกจากเรียกร้องให้ตั้งกองทุนบำนาญพื้นฐาน ลดผลกระทบจากการปฏิรูประบบประกันสังคม เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานหลังเกษียณได้รับเงินบำนาญเลี้ยงชีพที่เหมาะสมกับสภาพค่าครองชีพ ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้รัฐบาลให้ความสำคัญต่อสิทธิมนุษยชนของแรงงานต่างชาติ โดยปฏิบัติต่อแรงงานต่างชาติอย่างเสมอภาค และให้มีสิทธิ์ได้รับเงินบำนาญจากนายจ้างด้วย โดยจ่ายให้เป็นก้อนครั้งเดียวก่อนครบสัญญาเดินทางกลับประเทศ

ต่อข้อเรียกร้องข้างต้น กระทรวงแรงงานไต้หวันกล่าวว่า เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการเงินในภาพรวมของประเทศและปัญหาการปฏิรูประบบการประกันภัยแรงงาน จะนำไปประเมิน ศึกษาและดำเนินการตามการแผนและนโยบายโดยรวมของสภาบริหารต่อไป

ที่มา: Radio Taiwan International, 4/12/2020

สหรัฐฯ สั่งห้ามนำเข้าฝ้ายจากผู้ผลิตจีนที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน

สำนักงานศุลกากรและการป้องกันชายแดนของสหรัฐฯ หรือ CBP ออกคำสั่งระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ฝ้ายจากบริษัท Xinjiang Protection and Construction Corps หรือ XPCC ซึ่งเป็นธุรกิจที่กองทัพจีนร่วมเป็นเจ้าของ โดยมีคำสั่งเพิ่มเติมให้บริษัทผู้นำเข้าในสหรัฐฯ ทั้งหลาย พิสูจน์ด้วยว่า สิ่งที่ตนสั่งซื้อมาจากจีนไม่ได้มาจากบริษัทแห่งนี้ หรือเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว

พื้นที่มณฑลซินเจียงทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งเป็นเขตกึ่งปกครองตนเอง คือแหล่งผลิตฝ้ายและสิ่งทอที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของผู้ผลิตเสื้อผ้าขนาดใหญ่และแบรนด์ยอดนิยมมากมายจากทั่วโลก ขณะที่ สถิติล่าสุดระบุว่า ผลิตภัณฑ์จาก XPCC คิดเป็นสัดส่วนถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของฝ้ายที่ผลิตได้จากจีนในปี 2015 ด้วย

เคน คุชชิเนลลี รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ซึ่งดูแล CBP ระบุในแถลงการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายใดๆ ที่มีการระบุว่า “ผลิตในประเทศจีน” ควรถูกพิจารณาว่า เป็นสินค้าที่ผลิตโดยใช้ “แรงงานทาส” ไว้ก่อน

ขณะเดียวกัน มาร์ค มอร์แกน รักษาการผู้อำนวยการ CBP กล่าวว่า “ระบบการใช้แรงงานบังคับในภูมิภาคซินเจียงของจีน ควรเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจและผู้บริโภคชาวอเมริกันรู้สึกไม่ดีอย่างมาก เพราะแรงงานบังคับ คือรูปแบบหนึ่งของการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากแรงงานที่มีความเสี่ยงและนำมาซึ่งการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมในห่วงโซ่อุปทานโลก”

คำสั่งห้ามการนำเข้าล่าสุดของสหรัฐฯ นี้ออกมาหลังมีรายงานการศึกษาและรายงานข่าวหลายชิ้นเปิดเผยถึงการที่ประชาชนภูมิภาคซินเจียง โดยเฉพาะสมาชิกชนพื้นเมืองอุยกูร์ และ คาซัค ถูกเกณฑ์มาเข้าโครงการที่บังคับให้แต่ละคนต้องทำงานในโรงงาน ไร่ฝ้าย โรงทอผ้า และงานที่ต้องใช้แรงกายมากมายในพื้นที่นี้

ที่มา: VOA, 4/12/2020

ออสเตรเลียปฏิรูปกฎหมายในสถานประกอบการใหม่ เพิ่มโทษทางแพ่ง-อาญากับนายจ้างกดค่าแรง ตัดสิทธิ์บริหารกิจการ 5 ปี

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียระบุว่าจะมีการดำเนินคดีทางทางอาญาและทางแพ่ง กับนายจ้างที่ไม่จ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างตามสัญญา ภายใต้กฎหมายใหม่ในการกวาดล้างการจ่ายค่าจ้างอันไม่เป็นธรรม การปฏิรูปดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรมสัมพันธ์ของออสเตรเลีย ที่กำลังจะมีการเสนอเข้าต่อรัฐสภา โดยนายจ้างที่จ่างค่าแรงต่ำกว่าที่ลูกจ้างพึงได้รับจะต้องได้รับโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี และต้องโทษปรับสูงสุด $1.1 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ในข้อหาความผิดทางอาญาใหม่เกี่ยวกับการโกงค่าจ้าง

นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ อาจต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินสูงสุด $5.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หากละเลยการจ่ายเงินก้อนเพื่อชดเชยค่าแรงที่ขาดตก รวมถึงการคำนวณค่าจ้างที่ผิดพลาดและประมาณเลินเล่อ ร่างการปรับแก้กฎหมายมในสถานประกอบการที่ได้มีการเสนอต่อรัฐสภานั้น เกิดขึ้นหลังมีการประชุมโต๊ะกลมโดยสหภาพนายจ้าง ที่ได้มีการชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้นในหมู่คนทำงานแคชวล การปรับปรุงอัตราจ่ายค่าแรงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และการปฏิรูปต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานประกอบการ

โดยนายจ้างที่จงใจจ่ายค่าแรงให้ลูกจ้างในอัตราต่ำกว่าที่พึงได้รับ จะมีความผิดในโทษฐานขโมยค่าจ้าง นอกจากนี้ จะถูกตัดคุณสมบัติในการบริหารจัดการบริษัทหรือองค์กรเป็นเวลา 5 ปี

ที่มา: SBS, 9/12/2020

Google ถูกร้องเรียนกรณีเลิกจ้างพนักงาน หลังพยายามจัดตั้งสหภาพแรงงาน

คณะกรรรมการฝ่ายแรงงานสัมพันธ์แห่งชาติของสหรัฐ (NLRB) ระบุว่า Google ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Alphabet มีพฤติกรรมการตรวจสอบและไต่สวนพนักงานหลายรายของบริษัทอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งต่อมาพนักงานเหล่านั้นได้ถูก Google ไล่ออกจากงาน เนื่องจากประท้วงต่อนโยบายของบริษัท และพยายามที่จะจัดตั้งสหภาพแรงงาน

NLRB พบว่า Google ใช้นโยบายบีบพนักงานให้ลาออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และสั่งระงับไม่ให้พนักงานเข้าถึงเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิธีการที่บริษัททำการตรวจสอบการประชุมภายใน ขณะเดียวกันยังพบว่านโยบายต่าง ๆ ของ Google ไม่ถูกต้องตามกฎหมายในแง่ของการเข้าถึงเอกสารและห้องประชุมภายในองค์กร รวมทั้งการใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการสอบสวนพนักงาน โดยความพยายามทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อขัดขวางการการจัดตั้งองค์กรในสถานที่ทำงาน

รายงานของ NLRB ยังระบุด้วยว่า มีพนักงาน Google อย่างน้อย 5 คนถูกไล่ออก หลังจากพยายามโน้มน้าวเพื่อนร่วมงานให้เข้าร่วมกับสหภาพ Communications Workers of America เพื่อยื่นคำร้องกับ NLRB ในการดำเนินคดีกับ Google ด้าน Google แสดงความเชื่อมั่นว่าทางบริษัทดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และระบุว่าพนักงานเหล่านั้นละเมิดกฎระเบียบด้านความปลอดภัยของข้อมูล

ที่มา: World Socialist Web Site, 13/12/2020

พนักงานไต้หวันได้โบนัสช่วงตรุษจีนเฉลี่ย 1.11 เดือน ต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี

yes123 เว็บไซต์บริการจัดหางานทางอินเตอร์เน็ตของไต้หวันเผยแพร่รายงานการสำรวจฉบับล่าสุดระบุว่า ตรุษจีนปีนี้มีมนุษย์เงินเดือนเพียงร้อยละ 55.9 ที่ได้รับเงินโบนัสประจำปี ซึ่งสัดส่วนนี้ต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี นอกจากนี้ยังพบว่าเงินโบนัสที่มนุษย์เงินเดือนได้รับโดยเฉลี่ยมีเพียง 1.11 เดือน ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี

รายงานการสำรวจเรื่องเงินโบนัสและงานเลี้ยงขอบคุณพนักงานประจำปี ที่จัดทำโดยเว็บไซต์ yes123 ระหว่างวันที่ 25 พ.ย.- 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจไต้หวัน ทำให้ตรุษจีนปีนี้ มนุษย์เงินเดือนที่จะได้รับโบนัสมีเพียงร้อยละ 55.9 ซึ่งลดลงจากร้อยละ 67.8 ในปีที่แล้วและต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี โดยค่าเฉลี่ยเงินโบนัสในปีนี้มีเพียง 1.11 เดือน ต่ำกว่า 1.31 เดือน ในปีที่แล้ว ลดลง 0.2 เดือน ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี อย่างไรก็ดียังคงมีพนักงานร้อยละ 17.2 ได้รับโบนัสมากกว่าปีที่แล้ว

สำหรับกิจการที่จ่ายเงินโบนัสมากที่สุดในปีนี้คือ สถาบันการเงินและบริษัทรับทำบัญชีจ่ายโบนัส 2.5 เดือน รองลงมาคืออุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ 1.89 เดือน  อุตสาหกรรมการแพทย์และเทคโนโลยีชีวภาพ 1.56 เดือน อุตสาหกรรมการผลิตแบบดั้งเดิม 1.5 เดือน อุตสาหกรรมการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ 1.45 เดือน  ส่วนกิจการที่จ่ายโบนัสต่ำกว่า 1 เดือนได้แก่ กิจการด้านสื่อสารมวลชนและบริษัทโฆษณา 0.5 เดือน กิจการด้านวัฒนธรรมและการศึกษา 0.67 เดือน ร้านอาหารเครื่องดื่มและที่พักรวมถึงธุรกิจนำเที่ยว 0.75 เดือน กิจการด้านการเกษตร ป่าไม้และประมง 0.8 เดือน ภาคการบริการอื่น ๆ 0.83 เดือน เป็นต้น

ที่มา: Radio Taiwan International, 15/12/2020

Mitsubishi Aircraft เตรียมตัดลดพนักงานลงราวร้อยละ 95

Mitsubishi Aircraft บริษัทของญี่ปุ่นมีแผนที่จะตัดลดจำนวนพนักงาน เนื่องจากการดำเนินงานเพื่อพัฒนาเครื่องบินโดยสารที่ผลิตภายในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกนั้นต้องระงับไป

แหล่งข่าวระบุว่าทางบริษัทจะตัดลดพนักงานลงแบบปีต่อปีราวร้อยละ 95 โดยเริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย. 2021 โดยให้เหลือประมาณ 150 คน Mitsubishi Heavy Industries ซึ่งเป็นบริษัทแม่ได้ประกาศเมื่อเดือนตุลาคมว่าจะระงับการพัฒนาเครื่องบินโดยสารสเปซเจ็ต (SpaceJet) โดยทางบริษัทระบุว่าได้ตัดลดงบประมาณของโครงการนี้ลงอย่างมาก เนื่องจากการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบิน

ด้านกิจกรรมที่ดำเนินการที่ศูนย์พัฒนาแห่งหนึ่งในรัฐวอชิงตันของสหรัฐฯ ก็กำลังปรับลดให้เหลือน้อยที่สุดเช่นกัน การทดสอบเที่ยวบินต่าง ๆ จะถูกยกเลิกภายในเดือน เม.ย. 2021 โดยคงไว้แค่งานที่เกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาเครื่องบิน 4 ลำที่นั่น

ที่มา: NHK World Japan, 16/12/2020

รัฐบาลท้องถิ่นของกรุงปารีสโดนปรับเป็นเงิน 90,000 ยูโร จากการจ้างผู้หญิงจำนวนมากเกินไป

เมื่อสองปีก่อน สตรี 11 คนดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรุงปารีส ขณะที่มีผู้ชายจำนวน 5 คนที่อยู่ในตำแหน่งผู้บริหารของทางการนครหลวงแห่งฝรั่งเศส

หากเทียบเป็นสัดส่วน หญิงต่อชาย จะอยู่ที่ 69 ต่อ 31 ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎที่ว่า จำนวนเจ้าหน้าที่ในตำแหน่งราชการต้องไม่มีเพศใด มีสัดส่วนต่ำกว่าร้อยละ 40

นายกเทศมนตรีหญิงของกรุงปารีส แอน ฮิดัลโก กล่าววันอังคารว่าเธอจะเป็นผู้ถือเช็ค 90,000 ยูโร ไปจ่ายค่าปรับที่กระทรวงกิจการสาธารณะเอง พร้อมด้วยสตรีคนอื่น ๆ ในคณะทำงานของเธอ

หนังสือพิมพ์ Le Monde ของฝรั่งเศสรายงานว่า เมื่อปีที่เเล้วเพิ่งมีการเปลี่ยนกฎให้ยกเว้นค่าปรับหากสัดส่วนของข้าราชการเพศใดเพศหนึ่งต่ำกว่าร้อยละ 40 ได้ แต่มิได้ก่อให้เกิดการเสียสมดุลในภาพรวม

อย่างไรก็ตามการปรับกฎนี้เกิดขึ้นช้าเกินไป สำหรับกรุงปารีส ที่เจ้าหน้าสตรียังคงได้รับเงินเดือนโดยรวมต่ำกว่าเจ้าหน้าที่ชายร้อยละ 6

ที่มา: VOA, 17/12/2020

Coca-Cola เตรียมปรับลดพนักงาน 2,200 คนทั่วโลก

บริษัท Coca-Cola เปิดเผยว่าเตรียมปรับลดพนักงาน 2,200 คนทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานในสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ Coca-Cola ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้บริษัทต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางธุรกิจ โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ส.ค. 2020 ที่ผ่านมา Coca-Cola พึ่งเปิดให้พนักงานลาออกโดยสมัครใจ 4,000 คน ในอเมริกาเหนือ

ที่มา: Food Processing, 21/12/2020

ม.ค. 2021 ไต้หวันขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ-ค่าประกันแรงงาน

ในเดือน ม.ค. 2021 มาตรการและกฎระเบียบใหม่ในไต้หวันจะเริ่มมีผลบังคับ รวมถึงสิทธิ์ประโยชน์ของแรงงาน ค่าจ้างขั้นต่ำรายเดือน ปรับจาก 23,800 เหรียญไต้หวัน เพิ่ม 200 เหรียญไต้หวันเป็น 24,000 เหรียญไต้หวัน ค่าแรงรายชั่วโมงจาก 158 เหรียญไต้หวันเพิ่มเป็น 160 เหรียญไต้หวัน แรงงานทั้ง 2 ประเภทได้รับประโยชน์ 1.55 ล้านคน และ 520,000 คนตามลำดับ

ในส่วนของค่าประกันภัยแรงงานปรับเพิ่มเป็น 11.5% (รวมค่าประกันการจ้างงาน 1%) แรงงานแต่ละคนจะต้องจ่ายเพิ่ม เดือนละ 28–46 เหรียญไต้หวัน นายจ้างจ่ายเพิ่มเดือนละ 80-160 เหรียญไต้หวัน

บทบัญญัติการประกันภัยแรงงานกำหนดว่า การประกันภัยแรงงานทั่วไปจะปรับเพิ่มอัตราค่าเบี้ยประกันทุก 2 ปี ปรับเพิ่มครั้งละ 0.5% และปรับเพิ่มไม่เกินอัตรา 13%

กรณีที่นายจ้างว่าจ้างลูกจ้างอัตราเดือนละ 24,000 เหรียญไต้หวัน นายจ้างต้องรับภาระค่าเบี้ยประกันภัยแรงงานเดือนละ1,932เหรียญไต้หวัน (จ่ายเพิ่ม 84 เหรียญไต้หวัน) ลูกจ้างรับภาระ 552 เหรียญไต้หวัน (จ่ายเพิ่ม 28 เหรียญไต้หวัน) ส่วนกรณีว่าจ้างลูกจ้างเดือนละ 45,800 เหรียญไต้หวัน นายจ้างรับภาระ 3,687 เหรียญไต้หวัน (จ่ายเพิ่ม 160 เหรียญไต้หวัน) ลูกจ้างรับภาระ 1,054 เหรียญไต้หวัน (จ่ายเพิ่ม 46 เหรียญไต้หวัน)

กรมประกันภัยแรงงานแถลงว่าเมื่อปรับเพิ่มค่าเบี้ยประกันแล้วแต่ละปีจะได้รับค่าเบี้ยประกันเพิ่ม 19,700 ล้านเหรียญไต้หวัน

ที่มา: Radio Taiwan International, 25/12/2020

'ทรัมป์' ยอมลงนามร่างกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่พ่วงแผนช่วยเหลือ COVID-19 เลี่ยงปิดทำการรัฐบาล

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยินยอมลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่และแผนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 รวมมูลค่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อคืนวันที่ 27 ธ.ค. 2020 ตามเวลาในสหรัฐฯ ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ และคนว่างงานหลายล้านคนได้รับสวัสดิการชดเชยเพิ่มขึ้น

ทรัมป์ ซึ่งกำลังจะลงจากตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. 2021 ยอมถอยจากคำขู่ก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ลงนามในร่างงบประมาณและแผนช่วยเหลือดังกล่าวเพราะต้องการให้เพิ่มเงินช่วยเหลือจากเดิมคนละ 600 ดอลลาร์เป็น 2,000 ดอลลาร์ แต่ในที่สุดผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามรับรองเป็นกฎหมายแล้วหลังจากเผชิญแรงกดดันจากสมาชิกรัฐสภาของทั้งสองพรรค แม้จะยังไม่มีคำอธิบายชัดเจนว่าเหตุใดประธานาธิบดีทรัมป์จึงเปลี่ยนใจก็ตาม

การลงนามในร่างงบประมาณและแผนช่วยเหลือมูลค่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์นี้มีขึ้นที่บ้านพักตากอากาศของทรัมป์ในรัฐฟลอริดา ทรัมป์ยังกล่าวภายหลังการลงนามว่าตนต้องการส่งสัญญาณไปยังรัฐสภาว่าให้กำจัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป และว่า "จะมีเงินก้อนใหญ่ตามมาอีก"

ทางทำเนียบขาวยังคงไม่แสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าที่ปรึกษาของทรัมป์แนะนำให้ยินยอมลงนามเพราะไม่เห็นประโยชน์อะไรจากการแข็งขืนเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน ดัชนีหุ้นในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์สืบเนื่องจากข่าวที่ทรัมป์ ยอมลงนามในร่างงบประมาณและแผนช่วยเหลือฉบับใหม่ ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ

ที่มา: VOA, 29/12/2020

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net