Skip to main content
sharethis

เว็บไซต์ทวิตเตอร์เปิดรายงานความโปร่งใสประจำปี 2563 โดยมีข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยที่ระบุว่า รัฐบาลไทยมีการเรียกข้อมูลผู้ใช้งานทวิตเตอร์รวมแล้ว 49 บัญชี แต่ทวิตเตอร์ก็ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียทวิตเตอร์เปิดเผยรายงานความโปร่งใสระบุว่ารัฐบาลไทยทำการขอข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานทวิตเตอร์สูงขึ้นมากในช่วงต้นปีถึงกลางปี 2563 โดยมีการขอข้อมูลจำนวน 43 ครั้ง มีทั้งการขอข้อมูลตามกิจวัตรทั่วไป 34 กรณี และการขอข้อมูลแบบฉุกเฉิน 9 กรณี เมื่อเทียบกับหลายปีก่อนหน้านี้แล้วระหว่างปี 2557-2562 รัฐบาลไทยพยายามขอข้อมูลจากทวิตเตอร์รวม 4 ครั้งเท่านั้น

ทวิตเตอร์ระบุว่าโดยรวมแล้วรัฐบาลไทยขอข้อมูลผู้ใช้งานทวิตเตอร์ราว 49 บัญชี จากคำร้องรวม 47 ครั้ง แต่ทวิตเตอร์ก็ไม่เคยทำตามการเรียกร้องขอข้อมูลจากรัฐบาลไทยเลยแม้แต่ครั้งเดียว

อย่างไรก็ตามทวิตเตอร์ทำตามการเรียกร้องนำเนื้อหาออกจากเว็บไซต์ร้อยละ 25 ของการร้องขอทั้งหมด ซึ่งมีตัวเลขการร้องขอทางกฎหมายที่ขอให้นำออกหรือระงับการนำเสนอเนื้อหาจำนวน 7 คำร้องในช่วงระหว่างเดือน ม.ค.-มิ.ย. 2563 ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าหลายปีก่อนหน้านี้ที่มักจะมีการขอร้องแค่ไม่กี่ครั้ง โดยมีคำร้องจากศาล 2 คำร้อง และคำร้องทางกฎหมายในช่องทางอื่นๆ 5 คำร้องซึ่ง ทวิตเตอร์ทำตามช่องทางกฎหมายอื่นๆ เพียงบางส่วนเท่านั้นและไม่เคยทำตามคำร้องจากศาลเลย

สำหรับสถิติในระดับโลกแล้วทวิตเตอร์ระบุว่ารัฐบาลและหน่วยงานบังคับกฎหมายทั่วโลกมีการขอข้อมูลจากทวิตเตอร์เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 44 ทั้งการร้องขอแบบกิจวัตรและการร้องขอฉุกเฉิน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นในระดับที่มากที่สุดเท่าที่ทวิตเตอร์เคยประสบมา โดยที่ทวิตเตอร์ปฏิบัติตามคำร้องขอโดยรวมในระดับโลกร้อยละ 37 ลดลงจากรายงานฉบับก่อนหน้านี้ร้อยละ 9 นอกจากนี้ยังระบุว่ามีกรณีคำร้องแบบเน้นเฉพาะเจาะจงบัญชีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 26 ด้วย

ประเทศที่มีการขอข้อมูลจากทวิตเตอร์มากที่สุดคือประเทศสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 27 ของคำร้องข้อมูลทั้งหมด รองลงมาคืออินเดียอยู่ที่ร้อยละ 21 ขึ้นมาแทนที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเคยเป็นประเทศที่ขอข้อมูลจากทวิตเตอร์มากเป้นอันดับสองในรายงานฉบับก่อนหน้านี้

เรียบเรียงจาก : 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net